นอกจากเทพีอาเธน่าจะได้ชื่อว่าเป็นเทพีแห่งปัญญาแล้ว เธอยังถูกแต่งตั้งให้เป็นเทพสงครามเคียงคู่กับเทพแอรีสอีกด้วย
ซึ่งการที่สตรีจะได้รับเกียรติอันสูงส่งนี้ ถือเป็นเรื่องยากมาก อย่างน้อยก็ต้องอาศัยความพยายามมากกว่าบุรุษนับสิบเท่า ถึงจะได้การยอมรับในระดับเดียวกัน
ด้วยบทบาทหน้าที่และภาระอันหนักอึ้งที่ต้องแบกรับมาตลอดนี้เอง ทำให้เทพีอาเธน่าเป็นเทพระดับสูงเพียงหนึ่งเดียว ในสภาโอลิมปัสที่ไม่เคยมีความรักมาก่อน ทั้งชีวิตเธอมุ่งมั่นเพียงไล่ตามบัลลังก์สูงสุดของความแข็งแกร่งเท่านั้น
เปรี้ยงงง!ๆๆๆๆ ตูม!ๆๆๆ
หลังจากจ้าวเทียนทดลองหยั่งเชิงดูหลายสิบกระบวนท่า ก็รู้เลยว่าการต่อสู้กับเทพีอาเธน่า ดูจะยากลำบากกว่าตอนเผชิญหน้ากับเทพแอรีสมากนัก
เพราะถึงแม้เธอจะไม่ได้มีร่างกายแข็งแกร่งเหนือผู้ใด แต่ด้วยอานุภาพของหอกแห่งรุ่งอรุณกับโล่เอจีส ก็ทำให้เธอโดดเด่นทั้งรุกและรับ ยิ่งเมื่อรวมกับกลยุทธ์ศึกอันแพรวพราว มันก็ได้ส่งเสริมให้เธอกลายเป็นนักรบที่สมบูรณ์แบบไร้จุดอ่อน
“ ฟ้าดินแห่งกระบี่! ”
รังสีกระบี่หมื่นสายปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันถูกควบคุมโดยร่างจำแลงราชันจักรพรรดิ ส่วนจ้าวเทียนนั้น ก็ได้ใช้กระบี่สำรองพุ่งเข้าต่อสู้ระยะประชิดกับฝ่ายตรงข้ามโดยพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกับอาวุธเทพเจ้าโดยตรง
“ เหอะ เคล็ดวิชาใดที่ข้าเคยเห็นแล้ว ย่อมไม่อาจใช้ต่อกรกับข้าได้อีก ” เทพีอาเธน่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา มือข้างที่จับหอกของเธอเคลื่อนไหวด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เกิดเป็นภาพติดตาซ้อนทับจำนวนมาก
ฉัวะ!ๆๆๆๆๆๆ ตูมมมม!
เงาหอกนับร้อยพันพุ่งเข้าโจมตีจ้าวเทียนเหมือนคลื่นทะเลอันคลุ้มคลั่ง ทุกหอกเต็มเปี่ยมไปด้วยเกลียวคลื่นพลังสั่นสะเทือน สามารถบดขยี้รังสีกระบี่ทั้งหมดได้ภายในพริบตา
ด้วยแก่นแท้แห่งหอกระดับสูง ทำให้เทพีอาเธน่าไม่จำเป็นต้องใช้เคล็ดวิชาอะไรให้ยุ่งยากอีกต่อไปแล้ว
ขอเพียงแค่การโจมตีของเธอรวดเร็วกว่า จนสามารถทำลายกระบวนท่าอีกฝ่ายได้ก่อนก็พอ จากความคิดของจ้าวเทียน ดูไปแล้วทักษะหอกของเธอก็คล้ายกับ แนวคิดของเคล็ดวิชาเก้ากระบี่เดียวดายถึงเจ็ดส่วน
‘ น่าสนใจดีนี่ ขอฉันทดสอบดูหน่อยเถอะ ’
จ้าวเทียนตัดสินใจสลายร่างจำแลงราชันจักรพรรดิทิ้งไป เพื่อประหยัดพลังส่วนหนึ่งของตนไว้ เพราะดูแล้วศัตรูของเขายังเหลืออีกหลายคน
“ เก้ากระบี่เดียวดาย เคล็ดรวม! ”
ร่างของจ้าวเทียนไปปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเทพีอาเธน่าอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นเงาร่างของเขาก็แยกออกเป็นเก้าร่าง แล้วแทงกระบี่ออกไปพร้อมกัน
เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เงากระบี่ดุจพายุโหมกระหน่ำ รังสีกระบี่อันเกรี้ยวกราดดุดันนับร้อย ทะลวงเข้าใส่เทพีอาเธน่าจากทุกทิศทาง
ถึงแม้ความแข็งแกร่งของอาวุธจะตกเป็นรอง แต่ด้วยเจตน์แห่งกระบี่อันทรงอานุภาพ ก็คงสร้างความกดดันให้ฝ่ายตรงข้ามได้แน่นอน
“ หืม นี่มัน ” เทพีอาเธน่าขมวดคิ้วเล็กน้อย
ก่อนที่ร่างของเธอจะแยกออกเป็นเก้าร่างแล้วแทงหอกสวนออกไปเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังดูจะเชี่ยวชาญยิ่งกว่าจ้าวเทียนอีกด้วย เพราะนอกจากเธอจะโจมตีทีหลังแต่ถึงก่อนแล้ว
เงาหอกของเธอยังแฝงไปด้วยคลื่นสั่นสะเทือนที่รุนแรง จนสามารถทำลายทั้งรังสีกระบี่ร่างแยกที่เหลืออีกแปดร่างของจ้าวเทียนไปพร้อมกัน
‘ ไม่ผิดแน่ กระบวนท่าของเทพีอาเธน่าแฝงไปด้วยสำนึกของเก้ากระบี่เดียวดาย ไม่สิ ดูไปมันลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น แม้แต่เทพกระบี่เองก็ยังดูด้อยกว่าเธอขั้นหนึ่ง ’
จ้าวเทียนถอยห่างออกมายืนประเมินฝ่ายตรงข้ามอย่างจริงจัง ซึ่งอีกฝ่ายเองก็เหมือนจะมีความคิดแบบเดียวกัน ทำให้การต่อสู้หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง
“ เจ้าได้รับเคล็ดวิชานี้มาจากผู้ใด ” เทพีอาเธน่าเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน แววตาของเธอเปล่งประกายเจิดจ้า ราวกับว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญกับเธอมาก
“ เธอไม่คิดว่า ฉันเรียนรู้มันได้ด้วยตัวเองบ้างเหรอ ” จ้าวเทียนลองหยั่งเชิงดูอีกครั้ง ในใจเขาเริ่มระมัดระวังขึ้นหลายส่วน
“ หยุดกล่าววาจาไร้สาระเถอะ หากเจ้ามีสิ่งนั้นอยู่ ข้าย่อมสัมผัสได้อย่างแน่นอน ” เทพีอาเธน่ายิ้มเล็กน้อย
ด้วยความคิดอันเฉียบคมของเธอ ดูจากท่าทีที่แปลกไปของจ้าวเทียนก็พอจะรู้แล้ว ว่าเขาจะต้องได้รับการถ่ายทอดวิชานี้มาจากผู้ฝึกตนบนโลกแน่นอน
‘ ไม่นึกเลยว่า เสี้ยววิญญาณส่วนสุดท้ายของจักรพรรดิอสูรกระบี่จะอยู่บนโลกมนุษย์ ขอเพียงข้าแย่งชิงมันมา ก็จะสามารถสืบทอดคลังสมบัติลับที่สมรภูมิบรรพกาลได้แน่นอน ’
นี่เป็นความลับสุดยอดของเทพีอาเธน่า ที่ไม่เคยบอกใครแม้แต่บิดาของตนเอง
ในยุคมหาสงครามเทพมาร ก่อนจะเริ่มการต่อสู้อสูรกระบี่แสวงพ่าย ได้เตรียมคลังสมบัติลับไว้ให้กับผู้สืบทอด
ซึ่งมันได้รวบรวมสมบัติล้ำค่าทั้งหมดของเขาเอาไว้ตลอดระยะเวลาหลายสิบล้านปี มูลค่าของมันเหนือกว่าคลังลับของขุมกำลังชั้นยอดในยุคปัจจุบันมากนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน