จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 462

นอกจากเทพีอาเธน่าจะได้ชื่อว่าเป็นเทพีแห่งปัญญาแล้ว เธอยังถูกแต่งตั้งให้เป็นเทพสงครามเคียงคู่กับเทพแอรีสอีกด้วย

ซึ่งการที่สตรีจะได้รับเกียรติอันสูงส่งนี้ ถือเป็นเรื่องยากมาก อย่างน้อยก็ต้องอาศัยความพยายามมากกว่าบุรุษนับสิบเท่า ถึงจะได้การยอมรับในระดับเดียวกัน

ด้วยบทบาทหน้าที่และภาระอันหนักอึ้งที่ต้องแบกรับมาตลอดนี้เอง ทำให้เทพีอาเธน่าเป็นเทพระดับสูงเพียงหนึ่งเดียว ในสภาโอลิมปัสที่ไม่เคยมีความรักมาก่อน ทั้งชีวิตเธอมุ่งมั่นเพียงไล่ตามบัลลังก์สูงสุดของความแข็งแกร่งเท่านั้น

เปรี้ยงงง!ๆๆๆๆ ตูม!ๆๆๆ

หลังจากจ้าวเทียนทดลองหยั่งเชิงดูหลายสิบกระบวนท่า ก็รู้เลยว่าการต่อสู้กับเทพีอาเธน่า ดูจะยากลำบากกว่าตอนเผชิญหน้ากับเทพแอรีสมากนัก

เพราะถึงแม้เธอจะไม่ได้มีร่างกายแข็งแกร่งเหนือผู้ใด แต่ด้วยอานุภาพของหอกแห่งรุ่งอรุณกับโล่เอจีส ก็ทำให้เธอโดดเด่นทั้งรุกและรับ ยิ่งเมื่อรวมกับกลยุทธ์ศึกอันแพรวพราว มันก็ได้ส่งเสริมให้เธอกลายเป็นนักรบที่สมบูรณ์แบบไร้จุดอ่อน

“ ฟ้าดินแห่งกระบี่! ”

รังสีกระบี่หมื่นสายปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้มันถูกควบคุมโดยร่างจำแลงราชันจักรพรรดิ ส่วนจ้าวเทียนนั้น ก็ได้ใช้กระบี่สำรองพุ่งเข้าต่อสู้ระยะประชิดกับฝ่ายตรงข้ามโดยพยายามหลีกเลี่ยงการปะทะกับอาวุธเทพเจ้าโดยตรง

“ เหอะ เคล็ดวิชาใดที่ข้าเคยเห็นแล้ว ย่อมไม่อาจใช้ต่อกรกับข้าได้อีก ” เทพีอาเธน่าพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา มือข้างที่จับหอกของเธอเคลื่อนไหวด้วยความเร็วดุจสายฟ้า เกิดเป็นภาพติดตาซ้อนทับจำนวนมาก

ฉัวะ!ๆๆๆๆๆๆ ตูมมมม!

เงาหอกนับร้อยพันพุ่งเข้าโจมตีจ้าวเทียนเหมือนคลื่นทะเลอันคลุ้มคลั่ง ทุกหอกเต็มเปี่ยมไปด้วยเกลียวคลื่นพลังสั่นสะเทือน สามารถบดขยี้รังสีกระบี่ทั้งหมดได้ภายในพริบตา

ด้วยแก่นแท้แห่งหอกระดับสูง ทำให้เทพีอาเธน่าไม่จำเป็นต้องใช้เคล็ดวิชาอะไรให้ยุ่งยากอีกต่อไปแล้ว

ขอเพียงแค่การโจมตีของเธอรวดเร็วกว่า จนสามารถทำลายกระบวนท่าอีกฝ่ายได้ก่อนก็พอ จากความคิดของจ้าวเทียน ดูไปแล้วทักษะหอกของเธอก็คล้ายกับ แนวคิดของเคล็ดวิชาเก้ากระบี่เดียวดายถึงเจ็ดส่วน

‘ น่าสนใจดีนี่ ขอฉันทดสอบดูหน่อยเถอะ ’

จ้าวเทียนตัดสินใจสลายร่างจำแลงราชันจักรพรรดิทิ้งไป เพื่อประหยัดพลังส่วนหนึ่งของตนไว้ เพราะดูแล้วศัตรูของเขายังเหลืออีกหลายคน

“ เก้ากระบี่เดียวดาย เคล็ดรวม! ”

ร่างของจ้าวเทียนไปปรากฏตัวขึ้นด้านหลังเทพีอาเธน่าอย่างไร้ร่องรอย จากนั้นเงาร่างของเขาก็แยกออกเป็นเก้าร่าง แล้วแทงกระบี่ออกไปพร้อมกัน

เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เงากระบี่ดุจพายุโหมกระหน่ำ รังสีกระบี่อันเกรี้ยวกราดดุดันนับร้อย ทะลวงเข้าใส่เทพีอาเธน่าจากทุกทิศทาง

ถึงแม้ความแข็งแกร่งของอาวุธจะตกเป็นรอง แต่ด้วยเจตน์แห่งกระบี่อันทรงอานุภาพ ก็คงสร้างความกดดันให้ฝ่ายตรงข้ามได้แน่นอน

“ หืม นี่มัน ” เทพีอาเธน่าขมวดคิ้วเล็กน้อย

ก่อนที่ร่างของเธอจะแยกออกเป็นเก้าร่างแล้วแทงหอกสวนออกไปเช่นเดียวกัน อีกทั้งยังดูจะเชี่ยวชาญยิ่งกว่าจ้าวเทียนอีกด้วย เพราะนอกจากเธอจะโจมตีทีหลังแต่ถึงก่อนแล้ว

เงาหอกของเธอยังแฝงไปด้วยคลื่นสั่นสะเทือนที่รุนแรง จนสามารถทำลายทั้งรังสีกระบี่ร่างแยกที่เหลืออีกแปดร่างของจ้าวเทียนไปพร้อมกัน

‘ ไม่ผิดแน่ กระบวนท่าของเทพีอาเธน่าแฝงไปด้วยสำนึกของเก้ากระบี่เดียวดาย ไม่สิ ดูไปมันลึกซึ้งยิ่งกว่านั้น แม้แต่เทพกระบี่เองก็ยังดูด้อยกว่าเธอขั้นหนึ่ง ’

จ้าวเทียนถอยห่างออกมายืนประเมินฝ่ายตรงข้ามอย่างจริงจัง ซึ่งอีกฝ่ายเองก็เหมือนจะมีความคิดแบบเดียวกัน ทำให้การต่อสู้หยุดชะงักไปครู่หนึ่ง

“ เจ้าได้รับเคล็ดวิชานี้มาจากผู้ใด ” เทพีอาเธน่าเป็นฝ่ายถามขึ้นก่อน แววตาของเธอเปล่งประกายเจิดจ้า ราวกับว่าเรื่องนี้เป็นสิ่งที่สำคัญกับเธอมาก

“ เธอไม่คิดว่า ฉันเรียนรู้มันได้ด้วยตัวเองบ้างเหรอ ” จ้าวเทียนลองหยั่งเชิงดูอีกครั้ง ในใจเขาเริ่มระมัดระวังขึ้นหลายส่วน

“ หยุดกล่าววาจาไร้สาระเถอะ หากเจ้ามีสิ่งนั้นอยู่ ข้าย่อมสัมผัสได้อย่างแน่นอน ” เทพีอาเธน่ายิ้มเล็กน้อย

ด้วยความคิดอันเฉียบคมของเธอ ดูจากท่าทีที่แปลกไปของจ้าวเทียนก็พอจะรู้แล้ว ว่าเขาจะต้องได้รับการถ่ายทอดวิชานี้มาจากผู้ฝึกตนบนโลกแน่นอน

‘ ไม่นึกเลยว่า เสี้ยววิญญาณส่วนสุดท้ายของจักรพรรดิอสูรกระบี่จะอยู่บนโลกมนุษย์ ขอเพียงข้าแย่งชิงมันมา ก็จะสามารถสืบทอดคลังสมบัติลับที่สมรภูมิบรรพกาลได้แน่นอน ’

นี่เป็นความลับสุดยอดของเทพีอาเธน่า ที่ไม่เคยบอกใครแม้แต่บิดาของตนเอง

ในยุคมหาสงครามเทพมาร ก่อนจะเริ่มการต่อสู้อสูรกระบี่แสวงพ่าย ได้เตรียมคลังสมบัติลับไว้ให้กับผู้สืบทอด

ซึ่งมันได้รวบรวมสมบัติล้ำค่าทั้งหมดของเขาเอาไว้ตลอดระยะเวลาหลายสิบล้านปี มูลค่าของมันเหนือกว่าคลังลับของขุมกำลังชั้นยอดในยุคปัจจุบันมากนัก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน