ในช่วงเวลา ที่ทุกคนคิดว่าเทพแอรีสกำลังจะได้รับชัยชนะอย่างแน่นอน จ้าวเทียนกลับสามารถทำในสิ่งที่เหนือความคาดหมาย พลิกสถานการณ์จากหน้ามือเป็นหลังมือ
เพียงเสี้ยววินาที ก็ส่งดวงวิญญาณเทพสงครามกลับสวรรค์ โดยที่อีกฝ่ายไม่มีโอกาสส่งเสียงร้องก่อนตายเลยด้วยซ้ำ
“ มัวทำอะไรอยู่ รีบสังหารมันเดี๋ยวนี้ ”
เทพีอาเธน่าร้องตะโกนด้วยความเดือดดาล ภารกิจครั้งนี้มีเธอเป็นผู้นำ การที่ปล่อยให้เทพแอรีสถูกศัตรูสังหารไปตั้งแต่วันแรก ย่อมไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้
“ มังกรอัคคีวิบัติ! ”
ฮูมมม!
ไวเท่าความคิด ทวนสีเงินของนาจาทะลวงกำแพงมิติหายไปในพริบตา เปลี่ยนเป็นมังกรเพลิงดุร้ายเผยคมเขี้ยวแหลมคม หวังกลืนกินจ้าวเทียนให้มอดไหม้เป็นเถ้าธุลี
ส่วนเทพีอาเธน่านั้น ร่างของเธอได้เปลี่ยนเป็นสำแสงสีขาวพุ่งตามหลังมังกรเพลิงไปอย่างแนบเนียน เพื่อรอจังหวะปลิดชีพอีกฝ่ายในกระบวนท่าเดียว
“ หึหึ กำลังรออยู่พอดี ” จ้าวเทียนหัวเราะอย่างเย็นชา เขาผลักร่างเทพแอรีสออกไปรับการโจมตีทั้งหมดของฝ่ายตรงข้าม
เปรี้ยงงง! ตูมมม!
มังกรเพลิงได้ระเบิดใส่ร่างเทพแอรีสอย่างรุนแรง แต่น่าเสียดายที่มันไม่อาจสร้างความเสียหายได้เท่าที่ควร
“ นี่เจ้า ไร้ยางอายสิ้นดี ” เทพีอาเธน่าร้องออกมาด้วยความโกรธ
ฉัวะ!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เธอรีบแทงหอกออกไปหลายร้อยครั้งในเสี้ยววินาที เกิดเป็นภาพดอกบัวที่ผลิบาน ซึ่งแต่ละกลีบแฝงไปด้วยเจตจำนงแห่งการสังหารพุ่งเข้าใส่จ้าวเทียนทุกทิศทาง
นี่คือการหลอมรวมสามแก่นแท้ ทั้งพลังและความเร็วล้วนบรรลุถึงขีดสุด ทั้งงดงามและน่าหวาดกลัวในเวลาเดียวกัน
“ หืม ฉันชักจะเริ่มติดใจซะแล้วสิ ”
จ้าวเทียนยังคงพุ่งเข้าหาเทพีอาเธน่าเป็นเส้นตรง เขาใช้เทพแอรีสเป็นโล่ต้านทานการโจมตีทั้งหมดอย่างง่ายดาย จนเมื่อทั้งคู่อยู่ห่างกันไม่ถึงสิบเมตร
“ เคล็ดวิชาหมื่นตะวัน เพลิงสุริยันทำลายล้าง! ”
บูมมมม!
ลำแสงเปลวเพลิงสีทองขนาดใหญ่ระเบิดออกมาจากฝ่ามือของจ้าวเทียนอีกครั้ง มันได้กลืนกินเทพีอาเธน่าในพริบตา และได้กวาดเข้าใส่เหล่าเทพที่กำลังชมการต่อสู้อยู่ด้านหลัง โดยไม่เปิดโอกาสให้ใครตั้งตัวได้ทัน
“ โล่เอจีส! ”
ครืนนน!
เทพีอาเธน่ายกโล่กลมที่ติดอยู่บนแขนซ้ายขึ้นมาต้านทานสำแสงเปลิวเพลิงไว้ นี่คือเครื่องป้องที่ได้ชื่อว่าแข็งแกร่งที่สุดในแดนสวรรค์
อานุภาพของโล่ระดับพระเจ้า ทำให้สำแสงสีทองของจ้าวเทียนถูกแหวกออกเป็นสองทาง โดยไม่อาจสร้างความเสียหายให้เทพีอาเธน่าได้เลยแม้แต่น้อย
แต่ทว่า
ถึงแม้อานุภาพของเพลิงสุริยันทำลายล้างกวาดออกไปโดยรอบ จะถูกลดทอนพลังลงไปเกือบสามส่วนเพราะโล่อีจีส ทำให้ไม่สามารถสังหารเหล่าเทพที่ชมการต่อสู้อยู่ได้
แต่อย่างน้อยก็ยังสร้างความปั่นป่วนวุ่นวาย จนศัตรูได้รับบาดเจ็บกันไปถ้วนหน้า ถือว่าบรรลุจุดประสงค์อย่างยอดเยี่ยม
และแน่นอน โอกาสดีๆอย่างนี้ พวกเทพโอดินที่รอจังหวะพลิกสถานการณ์อยู่ไม่มีทางยอมพลาดอยู่แล้ว ทั้งสามคนต่างลงมือเคลื่อนไหวพร้อมกัน พุ่งเข้าใส่เป้าหมายตามที่นัดแนะกันไว้
“ ประตูยมโลกจงเปิดออก ! ”
สิ้นเสียงเทพโอซีริส กองทัพวิญญาณแห่งโลกหลังความตายนับหมื่นก็ปรากฏขึ้นจนเต็มท้องฟ้า พวกมันได้ระเบิดพลังของขอบเขตเซียนขั้นสูงสุดออกมา และได้พุ่งเข้าใส่เหล่าเทพที่ได้รับบาดเจ็บดุจฝูงฉลามได้กลิ่นเลือด เหมือนต้องการฉีกกระชากเขาออกเป็นชิ้นๆ
ส่วนเทพโอซีริสนั้น ได้ประสานร่างกายเป็นหนึ่งเดียวกับอาณาเขตเรียบร้อย เขาเปลี่ยนตนเองให้เป็นสะพานเชื่อมต่อเส้นทาง ให้กองทัพวิญญาณอมตะเดินทางมายังโลกมนุษย์
“ แย่แล้ว นี่คือเวทย์อัญเชิญกองทัพอมตะของเทพโอซีริส พวกที่ได้รับบาดเจ็บอย่ามัวเสียเวลาไปสู้กับมัน ให้รีบฟื้นฟูตนเองก่อน ไม่อย่างนั้นคงถูกกลิ่นอายยมโลก ลุกลามเข้าไปในร่างกายผ่านทางบาดแผลแน่นอน ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน