ภายในเขตอาคมปิดผนึกขนาดใหญ่ ที่นาจาสร้างขึ้นเพื่อปิดกั้นการหลบหนีของศัตรู มันได้กลับย้อนคืนมาทำร้ายพวกตนเอง
เมื่อต่อสู้กับเหล่าอสูรร้ายในตำนานที่มีกายเนื้อแข็งแกร่งในพื้นที่จำกัด โดยไม่อาจใช้การผ่ามิติเคลื่อนย้ายได้ ความได้เปรียบของเหล่าเทพสวรรค์ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด
“ ฮ่า ฮา เลือดเนื้อของพวกเทพนี่รสชาติดีจริงๆ ทั้งยังช่วยกระตุ้นขีดจำกัดสายโลหิตของข้า ให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นอีกด้วย ” ราชันมนุษย์หมาป่าขนเงินหัวเราะออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง พร้อมกับฉีกกระชากแขนขวาของศัตรูมากัดกิน
“ บัดซบ! ไอพวกสัตว์เดรัจฉาน ข้าจะสังหารเจ้าให้หมด ” ชายหนุ่มผมขาวตะโกนขึ้นอย่างเดือดดาล พร้อมกุมแขนข้างที่ขาดเอาไว้
ตัวเขาคือ กงซุนไป๋ เทพโลกาขั้นแปด ซึ่งมีฐานะเป็นถึงบุตรชายคนโตของประมุขสำนักอัสนีทมิฬ หนึ่งในขุมกำลังระดับสูงแห่งแดนสวรรค์ ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเสียท่าให้เผ่าพันธุ์ต่ำต้อยบนโลกมนุษย์แบบนี้
สวบ!
แต่ยังไม่ทันที่กงซุนไป๋จะได้ปลดปล่อยกระบวนท่าไม้ตายของสำนัก กงเล็บอันแหลมคมก็ทะลวงออกมาจากอกด้านซ้ายของเขาในพริบตา
“ หนุ่มน้อย อย่าพูดจาโหดร้ายแบบนั้นซิ เดี๋ยวพี่สาวจะโกรธเอานะ ”
นางพญาเสือสมิงราตรีกระซิบเบาๆที่ข้างหูกงซุนไป๋ ก่อนจะกระชากหัวใจของอีกฝ่ายออกมาอย่างไร้ความปราณี เธอเป็นหนึ่งในสาวใช้ทั้งหกของจ้าวเทียนเช่นเดียวกับอลิซาเบธ
“ เจ้า…ไอพวกต่ำช้า ” กงซุนไป๋กัดฟันพูดขึ้นด้วยความคับแค้นใจ จากนั้นก็กลายเป็นศพแรกที่ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ
เหตุการณ์เหล่านี้ เกิดขึ้นแทบจะทุกที่ในสนามรบ ด้วยจำนวนที่มากกว่าเกือบสองเท่า แถมยังมีพวกอลิซาเบธทั้งหกค่อยแอบช่วยเหลืออยู่ลับๆ ทำให้กองกำลังผสมหลายเผ่าพันธุ์ครองความได้เปรียบอย่างสิ้นเชิง
โดยเฉพาะการลงมืออันดุดันของมอร์แกน เลอเฟย์ ศิษย์เอกเพียงหนึ่งเดียวของราชันจอมเวทเมอร์ลิน
ทุกครั้งที่คทาเวทย์ของเธอโบกสะบัดลงไป จะปรากฏสายฟ้าหลายสิบเส้น ที่ฟาดกระหน่ำลงมาใส่ศัตรูจำนวนมากไม่ต่างไปจากทัณฑ์สวรรค์ สร้างความหวาดกลัวให้ทุกคนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก
“ บัดซบ ผิวหนังไออสูรชั้นต่ำพวกนี้ ทำไมถึงได้ทนทานนัก ”
“ อ้ากกกก! แขนขวาข้าถูกปีศาจกินไปแล้ว ”
“ พวกเจ้ารีบหยุดหญิงสาวผมขาวนั่นเร็ว อย่าให้นางร่ายเวทย์ได้สำเร็จ ”
เสียงกรีดร้องด้วยความสิ้นหวังดังสะท้อนไปทั่ว ถึงแม้จะมีอสูรร้ายหลายตนถูกสังหารไปเช่นกัน แต่ทว่ามันกลับทำให้พวกที่เหลือบ้าคลั่งและลงมือโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม
“ ดูเหมือนครั้งนี้พวกเราจะเก็บเกี่ยวได้ไม่เลว ต่อให้ต้องสูญเสียขุมกำลังไปครึ่งหนึ่งก็ยังคุ้มค่า ” ราชันอสูรคิเมียร่าฉีกยิ้มกว้าง พร้อมทั้งสูดเอากลิ่นคาวโลหิตเข้าไปเต็มปอด
“ อย่าลืมข้อตกลงแล้วกัน โลหิตทั้งหมดยกให้ฉัน พวกนายก็เอาซากศพไป ส่วนสมบัติติดตัวที่เหลือก็ให้คนอื่นๆไปแบ่งกัน ” เค้าท์แดรกคูล่าสบตากับฝ่ายตรงข้ามอย่างจริงจัง
สำหรับเผ่าพันธุ์ของพวกเขาทั้งคู่ เลือดและเนื้อของเทพสวรรค์มีคุณค่าสูงยิ่งกว่าอาวุธเครื่องป้องกันระดับสูงมากนัก เพราะมันจะช่วยยกระดับสายโลหิตให้เข้มข้นและบริสุทธิ์ยิ่งกว่าเดิม
ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ การดื่มเลือดเทพสวรรค์หนึ่งคน จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากกว่าฝึกฝนด้วยตนเองเป็นระยะเวลาหนึ่งร้อยปี ผลลัพธ์นี้จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก หากฝ่ายตรงข้ามเป็นร่างอวตารจากเทพโลกาขั้นเก้าหรือขั้นสูงสุด
แน่นอนว่า ซากศพของเทพีอาเธน่าก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดที่สุดในสนามรบแห่งนี้เช่นกัน เพียงแต่ยังไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้อง จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากจ้าวเทียนเท่านั้น
“ เรื่องพวกนั้นไว้ตกลงกันทีหลัง ตอนนี้พวกเรามาจัดการภารกิจตรงหน้าให้เรียบร้อยก่อนเถอะ ” เมอร์ลินพูดออกมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ทำให้ผู้ถูกเลือกอีกหกคนที่เหลือเริ่มเปิดฉากต่อสู้กับเจ็ดขุนพลเทพสวรรค์ทันที
ตูม!ๆๆๆ เปรี้ยง!ๆๆ
เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว มหาเวทย์ต้องห้ามของเมอร์ลิน ได้เปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดง เกิดเป็นพายุเปลวเพลิงและพายุสายฟ้าถล่มใส่ฝ่ายตรงข้ามไม่มียั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน