จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 464

ภายในเขตอาคมปิดผนึกขนาดใหญ่ ที่นาจาสร้างขึ้นเพื่อปิดกั้นการหลบหนีของศัตรู มันได้กลับย้อนคืนมาทำร้ายพวกตนเอง

เมื่อต่อสู้กับเหล่าอสูรร้ายในตำนานที่มีกายเนื้อแข็งแกร่งในพื้นที่จำกัด โดยไม่อาจใช้การผ่ามิติเคลื่อนย้ายได้ ความได้เปรียบของเหล่าเทพสวรรค์ก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด

“ ฮ่า ฮา เลือดเนื้อของพวกเทพนี่รสชาติดีจริงๆ ทั้งยังช่วยกระตุ้นขีดจำกัดสายโลหิตของข้า ให้บริสุทธิ์ยิ่งขึ้นอีกด้วย ” ราชันมนุษย์หมาป่าขนเงินหัวเราะออกมาอย่างคลุ้มคลั่ง พร้อมกับฉีกกระชากแขนขวาของศัตรูมากัดกิน

“ บัดซบ! ไอพวกสัตว์เดรัจฉาน ข้าจะสังหารเจ้าให้หมด ” ชายหนุ่มผมขาวตะโกนขึ้นอย่างเดือดดาล พร้อมกุมแขนข้างที่ขาดเอาไว้

ตัวเขาคือ กงซุนไป๋ เทพโลกาขั้นแปด ซึ่งมีฐานะเป็นถึงบุตรชายคนโตของประมุขสำนักอัสนีทมิฬ หนึ่งในขุมกำลังระดับสูงแห่งแดนสวรรค์ ไม่นึกเลยว่าจะต้องมาเสียท่าให้เผ่าพันธุ์ต่ำต้อยบนโลกมนุษย์แบบนี้

สวบ!

แต่ยังไม่ทันที่กงซุนไป๋จะได้ปลดปล่อยกระบวนท่าไม้ตายของสำนัก กงเล็บอันแหลมคมก็ทะลวงออกมาจากอกด้านซ้ายของเขาในพริบตา

“ หนุ่มน้อย อย่าพูดจาโหดร้ายแบบนั้นซิ เดี๋ยวพี่สาวจะโกรธเอานะ ”

นางพญาเสือสมิงราตรีกระซิบเบาๆที่ข้างหูกงซุนไป๋ ก่อนจะกระชากหัวใจของอีกฝ่ายออกมาอย่างไร้ความปราณี เธอเป็นหนึ่งในสาวใช้ทั้งหกของจ้าวเทียนเช่นเดียวกับอลิซาเบธ

“ เจ้า…ไอพวกต่ำช้า ” กงซุนไป๋กัดฟันพูดขึ้นด้วยความคับแค้นใจ จากนั้นก็กลายเป็นศพแรกที่ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ

เหตุการณ์เหล่านี้ เกิดขึ้นแทบจะทุกที่ในสนามรบ ด้วยจำนวนที่มากกว่าเกือบสองเท่า แถมยังมีพวกอลิซาเบธทั้งหกค่อยแอบช่วยเหลืออยู่ลับๆ ทำให้กองกำลังผสมหลายเผ่าพันธุ์ครองความได้เปรียบอย่างสิ้นเชิง

โดยเฉพาะการลงมืออันดุดันของมอร์แกน เลอเฟย์ ศิษย์เอกเพียงหนึ่งเดียวของราชันจอมเวทเมอร์ลิน

ทุกครั้งที่คทาเวทย์ของเธอโบกสะบัดลงไป จะปรากฏสายฟ้าหลายสิบเส้น ที่ฟาดกระหน่ำลงมาใส่ศัตรูจำนวนมากไม่ต่างไปจากทัณฑ์สวรรค์ สร้างความหวาดกลัวให้ทุกคนที่พบเห็นเป็นอย่างมาก

“ บัดซบ ผิวหนังไออสูรชั้นต่ำพวกนี้ ทำไมถึงได้ทนทานนัก ”

“ อ้ากกกก! แขนขวาข้าถูกปีศาจกินไปแล้ว ”

“ พวกเจ้ารีบหยุดหญิงสาวผมขาวนั่นเร็ว อย่าให้นางร่ายเวทย์ได้สำเร็จ ”

เสียงกรีดร้องด้วยความสิ้นหวังดังสะท้อนไปทั่ว ถึงแม้จะมีอสูรร้ายหลายตนถูกสังหารไปเช่นกัน แต่ทว่ามันกลับทำให้พวกที่เหลือบ้าคลั่งและลงมือโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม

“ ดูเหมือนครั้งนี้พวกเราจะเก็บเกี่ยวได้ไม่เลว ต่อให้ต้องสูญเสียขุมกำลังไปครึ่งหนึ่งก็ยังคุ้มค่า ” ราชันอสูรคิเมียร่าฉีกยิ้มกว้าง พร้อมทั้งสูดเอากลิ่นคาวโลหิตเข้าไปเต็มปอด

“ อย่าลืมข้อตกลงแล้วกัน โลหิตทั้งหมดยกให้ฉัน พวกนายก็เอาซากศพไป ส่วนสมบัติติดตัวที่เหลือก็ให้คนอื่นๆไปแบ่งกัน ” เค้าท์แดรกคูล่าสบตากับฝ่ายตรงข้ามอย่างจริงจัง

สำหรับเผ่าพันธุ์ของพวกเขาทั้งคู่ เลือดและเนื้อของเทพสวรรค์มีคุณค่าสูงยิ่งกว่าอาวุธเครื่องป้องกันระดับสูงมากนัก เพราะมันจะช่วยยกระดับสายโลหิตให้เข้มข้นและบริสุทธิ์ยิ่งกว่าเดิม

ถ้าให้เปรียบเทียบง่ายๆ การดื่มเลือดเทพสวรรค์หนึ่งคน จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งให้มากกว่าฝึกฝนด้วยตนเองเป็นระยะเวลาหนึ่งร้อยปี ผลลัพธ์นี้จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นอีกมาก หากฝ่ายตรงข้ามเป็นร่างอวตารจากเทพโลกาขั้นเก้าหรือขั้นสูงสุด

แน่นอนว่า ซากศพของเทพีอาเธน่าก็เป็นสิ่งที่ดึงดูดที่สุดในสนามรบแห่งนี้เช่นกัน เพียงแต่ยังไม่มีผู้ใดกล้าแตะต้อง จนกว่าจะได้รับอนุญาตจากจ้าวเทียนเท่านั้น

“ เรื่องพวกนั้นไว้ตกลงกันทีหลัง ตอนนี้พวกเรามาจัดการภารกิจตรงหน้าให้เรียบร้อยก่อนเถอะ ” เมอร์ลินพูดออกมาด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ ทำให้ผู้ถูกเลือกอีกหกคนที่เหลือเริ่มเปิดฉากต่อสู้กับเจ็ดขุนพลเทพสวรรค์ทันที

ตูม!ๆๆๆ เปรี้ยง!ๆๆ

เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว มหาเวทย์ต้องห้ามของเมอร์ลิน ได้เปลี่ยนท้องฟ้าให้กลายเป็นสีแดง เกิดเป็นพายุเปลวเพลิงและพายุสายฟ้าถล่มใส่ฝ่ายตรงข้ามไม่มียั้ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน