ในชีวิตก่อนของจ้าวเทียนได้ตายไปทั้งที่ยังโสด จากนั้นดวงวิญญาณของเขาก็ถูกหลินซินเยว่ดึงขึ้นไปบนแดนสวรรค์ แล้วตัดสินใจลืมเลือนอดีตเพื่อกลายเป็นผู้ฝึกตน
แน่นอนว่าตลอดเวลาอันยาวนานนับแสนปี จ้าวเทียนมุ่งเน้นแต่การฝึกฝนวิชายกระดับความแข็งแกร่งของตนเองเท่านั้น จนกระทั่งเขาบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเทพก็ยังปราศจากคู่ครองเช่นเดิม
ดังนั้นเรื่องการดูแลสตรีตั้งครรภ์ให้คลอดบุตร ถือเป็นสิ่งที่เขาไม่เคยประสบมาก่อน จึงอดรู้สึกลำบากใจทำอะไรไม่ถูกไม่ได้
ส่วนทางโฮ่วอี้นั้นยิ่งแล้วใหญ่ จะให้จักรพรรดิเทพบรรพกาลผู้ยิ่งใหญ่ไปช่วยทำคลอดทารกงั้นหรือ ขอเปลี่ยนเป็นให้เผชิญหน้ากับเทพมารต่างภพซะยังจะดีกว่า
ชิ้งงง!
สายตาของสองบุรุษประสานกัน เรามองดูท่าน ท่านมองดูเรา เหมือนต้องการโยนภาระนี้ให้อีกฝ่ายไปทำแทน
“ ในเมื่อเจ้าติดสินใจช่วยนางแล้วก็จงช่วยให้ถึงที่สุด ไม่ต้องกังวล ข้าจะคอยป้องกันศัตรูไว้ให้เอง ”
โฮ่วอี้พูดประโยคที่จ้าวเทียนไม่อาจปฏิเสธได้ออกมา ซึ่งความหมายมันก็ชัดเจนมาก เรียนผูกก็ต้องเรียนแก้ เป็นสัจธรรมของสิ่งชีวิตทั้งมวล
“ ได้โปรด…ข้าจะไม่ไหวแล้ว ” ปิงกูเหนียงเหนียงส่งเสียงร้องขึ้นมาอีกครั้ง ใบหน้าของเธอซีดขาว หอบหายใจถี่รัว ร่างกายสั่นสะท้านอย่างอ่อนแรง
จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้นก็ยอมรับชะตากรรมในที่สุด ไม่นึกเลยว่าคนอย่างเขาจะมีวันนี้ ที่ต้องมาช่วยทำคลอดให้สตรีนางหนึ่ง ทั้งยังไม่ใช่สตรีของตนเองอีกด้วย
“ หากมีอะไรเกิดขึ้น ท่านอาจารย์ปู่สามารถติดต่อฉันผ่านทางวิหคทองคำตี้หยวนได้เลย ”
สิ้นเสียง ร่างของจ้าวเทียนและปิงกู่เหนียงเหนียงก็ถูกเคลื่อนย้ายเข้าไปในคลังสมบัติ ซึ่งซ่อนอยู่ภายในตัววิหคทองคำ
วูป!
หลังจากคลื่นความผันผวนมิติจางหายไป ปิงกู่เหนียงเหนียงก็ได้มาอยู่ในโลกที่เต็มได้ด้วยเปลวเพลิงสีขาวอันอบอุ่น
และเมื่อเธอกวาดสายตาไปรอบๆ ก็พบกับพระราชวังสีทองขนาดใหญ่โตมโหฬารลอยอยู่บนท้องฟ้า ซึ่งถูกป้องกันไว้ด้วยม่านพลังอันแข็งแกร่ง
“ ที่นี่คือ… ”
“ คุณไม่จำเป็นต้องรู้ ตอนนี้รีบบอกมาเถอะจะให้ฉันช่วยยังไง ” จ้าวเทียนพูดตัดบทขึ้น เนื่องจากทั้งคู่เป็นเพียงพันธมิตรชั่วคราวเท่านั้น เขาจึงไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้มากเกินไป
“ เอ่อ… ” ปิงกู่เหนียงเหนียงอึ้งไปเล็กน้อยให้กับความตรงไปตรงมาของจ้าวเทียน ก่อนที่จะพยักหน้าอย่างเข้าใจความหมาย แล้วพูดขึ้นต่อ
“ ระหว่างการต่อสู้ข้าได้เผาผลาญพลังชีวิตตนเอง เพื่อฟื้นคืนความแข็งแกร่งสูงสุดชั่วคราว ทำให้บุตรีทั้งสองในครรภ์ได้รับผลกระทบไปด้วย ”
“ นอกจากนี้ พวกนางยังถูกกลิ่นอายมารกัดกร่นของหลุมอเวจีทำร้ายอย่างต่อเนื่อง จนเส้นลมปราณเสียหายและร่างกายได้รับความบอบช้ำแสนสาหัส ”
“ นั่นหมายความว่า คุณต้องการให้ฉันถ่ายทอดพลังชีวิตพร้อมกับช่วยฟื้นฟูเส้นลมปราณรักษาอาการบาดเจ็บให้ทารกทั้งสอง แค่นี้ใช่ไหม ” จ้าวเทียนถามขึ้นอย่างลังเล เพราะตามที่เคยได้ยินมา เขานึกว่าจะต้องทำมากกว่านี้ซะอีก
เห็นแบบนั้นปิงกู่เหนียงเหนียงก็หน้าแดงขึ้นมาวูบหนึ่ง เนื่องจากเธอเข้าใจในสิ่งที่อีกฝ่ายต้องการจะสื่อดี
“ ท่านช่วยแค่นี้ก็พอแล้ว ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้านี่ของข้าเอง ”
“ ได้ งั้นมาเริ่มกันเถอะ ” จ้าวเทียนถอนหายใจอย่างโล่งอกแล้วหลับตาลงทันที ตัวเขาเองก็เป็นบุรุษผู้หนึ่ง หากต้องเห็นในสิ่งที่ไม่ควรก็คงทำใจลำบากเหมือนกัน
‘ ช่างเป็นชายหนุ่มที่ซื่อตรงและให้เกียรติสตรีจริงๆ ไม่มีความคิดฉวยโอกาสต่อข้าแม้แต่น้อย ’
ปิงกู่เหนียงเหนียงจ้องมองจ้าวเทียนด้วยความชื่นชม ตัวเธอนั้นมั่นใจในรูปโฉมตนเองเป็นอย่างมาก เพราะทั้งใบหน้าและเรือนร่างอันงดงามเหนือผู้ใดของเธอ เคยหลอมละลายหัวใจของจักรพรรดิโลกอสูรผู้ยิ่งใหญ่มาแล้ว แม้จะถูกทรยศหักหลังในเวลาต่อมาก็ตาม
‘ หากเซียวหยูดีต่อข้าได้ซักครึ่งหนึ่งของชายหนุ่มคนนี้ ข้าคง… ’
เมื่อคิดไปถึงอดีตคนรัก เธอก็ถอนหายใจด้วยความเศร้าสร้อย นึกสังเวชในชะตากรรมอันเลวร้ายของตัวเอง พร้อมกับเกิดความสงสารลูกน้อยที่ต้องขาดบิดาในอนาคต
พรึบ!ๆ
เสียงปิงกู่เหนียงเหนียงปลดเปลื้องเสื้อผ้าอาภรณ์ช่วงล่างอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอนกายลงบนพื้นจัดท่าทางให้เหมาะสม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน