จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 481

หลังช่องว่างมิติอวกาศเปิดออก คลื่นพลังร้อนแรงก็ระเบิดออกมา กลายเป็นม่านเปลวเพลิงสีทองขวางกั้นระหว่างราชันวานรมารแปดกรกับปิงกู่เหนียงเหนียงไว้

ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ก็ได้ดึงดูดความสนใจของทั้งหมดในทันที ทำให้การต่อสู้ต้องหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง

“ ดูเหมือน ฉันจะกลับมาทันสินะ ”

จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้มมั่นใจ พร้อมกับก้าวเท้าออกมาจากช่องว่างมิติช้าๆ ในสภาพสวมชุดออกศึกเต็มยศ ประกอบไปด้วยเกราะ อก ไหล่ ลำตัวและสนับแขนขา ราวกับแม่ทัพใหญ่ในยุคสมัยโบราณแตกต่างจากในอดีตเป็นอย่างมาก

นี่คือชุดรบตะวันฉาย ซึ่งจักรพรรดิหมื่นตะวันรุ่นแรกได้จัดเตรียมไว้ให้กับผู้สืบทอดรุ่นเยาว์ของตน เกราะทั้งเจ็ดชิ้นถูกหลอมสร้างขึ้นจากแกนกลางดวงอาทิตย์และสมบัติล้ำค่ายุคบรรพกาล

ถึงแม้เกราะแต่ส่วนจะถูกจัดเป็นเครื่องป้องกันระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด แต่เมื่อใส่ครบทั้งเจ็ดชิ้น จะสำแดงอานุภาพของเครื่องป้องกันระดับพระเจ้าออกมา

“ เจ้า เป็นมนุษย์งั้นเหรอ ” ปิงกู่เหนียงเหนียงมองดูชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสับสน เดิมทีคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นเทพสวรรค์ยุคบรรพกาล เหมือนกับสหายอีกคนที่อยู่ด้านนอกเสียอีก

เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าผู้ที่กล้าบุกรุกวิหารต้นกำเนิดมารในขุมอเวจีชั้นสิบแปด จะเป็นเพียงบุรุษอายุเยาว์ที่มีพลังขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภาเท่านั้น

“ รับนี่ไป แล้วรีบรักษาอาการบาดเจ็บซะ ” จ้าวเทียนโยนขวดใส่วารีหยกทิพย์ให้ โดยไม่สนใจท่าทีสิ้นหวังของอีกฝ่าย

“ นี่ อย่าบอกนะว่าเจ้าคิดจะสู้กับราชันมาร อย่าไปรนหาที่ตายแบบไร้ประโยชน์เลย รีบฉวยโอกาสนี้หลบหนีไปเถอะ ข้าจะพยายามถ่วงเวลาให้เอง ” ปิงกู่เหนียงเหนียงส่งกระแสจิตไปเตือนด้วยความหวังดี

แค่อีกฝ่ายยอมช่วยเหลือขนาดนี้ก็เป็นพระคุณมากแล้ว เธอไม่ต้องการให้เขาต้องมาเสียสละชีวิตอย่างไร้ประโยชน์อีก

“ ฮ่า ฮ่า ข้าก็คิดว่าเจ้าจะเป็นตัวตนสูงส่งมาจากขุมกำลังไหน ถึงกล้าบุกรุกมหาวิหารต้นกำเนิดมาร ที่แท้ก็เป็นเพียงมนุษย์ชั้นต่ำเท่านั้น ” ราชันวานรมารแปดกรพูดแทรกขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม ดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวของมัน กวาดมองชุดเกราะและช่องว่างมิติที่จ้าวเทียนเพิ่งจะออกมาด้วยความโลภ

‘ เจ้ามนุษย์นี่ จะต้องแอบเข้าไปในคลังสมบัติลับของผู้แข็งแกร่งยุคบรรพกาลแน่นอน เลยออกมาพร้อมกับชุดเกราะล้ำค่าเต็มตัวแบบนี้ ’

ต่อให้ไม่รู้ว่าเป็นคลังสมบัติของเทพสวรรค์คนใด ที่กล้ามาหลบซ่อนไว้ในหลุมอเวจีชั้นสิบแปด แต่อย่างน้อยก็น่าจะพอชดเชยความสูญเสียจากบทลงโทษจากเทพมารได้บ้าง

ฟุ่บ!

ไวเท่าความคิด ร่างอันใหญ่โตของราชันวานรมารแปดกร ฉีกกระชากม่านเปลวเพลิงมาปรากฏตรงหน้าจ้าวเทียน พร้อมกับปล่อยหมัดออกไปในพริบตา

“ อสนีทมิฬสิ้นสูญ! ”

“ เทพสงครามหมื่นตะวัน! ”

เปรี้ยงง! ตูมมมม!

พายุสายฟ้าสีดำอันเกรี้ยวกราด ได้ระเบิดเข้าใส่ชุดเกราะสงครามเปลวเพลิงของจ้าวเทียนอย่างรุนแรง เกิดเป็นคลื่นพลังทำลายล้างม้วนกวาดทุกสิ่งทุกอย่างกระเด็นออกไป แม้แต่ปิงกู่เหนียงเหนียงที่กำลังกินวารีหยกทิพย์ก็ยังได้รับผลกระทบไปด้วย

โครม!

จ้าวเทียนถูกอัดกระแทกผนังวิหาร จนร่างกายสั่นสะท้านกระอักเลือดออกมาคำโต แต่ทว่าเขากลับฝืนอาการบาดเจ็บร้องตะโกนออกมาเสียงดัง

“ ตี้หยวน จัดการมันซะ! ”

ทันใดนั้น

วูป! ก๊าซซซซ!

ที่ด้านหลังราชันวานรมารแปดกร ปรากฏอีกาทองคำสามขาพุ่งทะลวงช่องว่างมิติออกมา มันได้ใช้กงเล็บอันแหลมคมโจมตีศีรษะของฝ่ายตรงข้าม พร้อมทั้งพ่นเปลวเพลิงสุริยันทำลายล้างใส่อย่างรุนแรง ราวกับต้องการเผาไหม้ศัตรูไม่ให้เหลือแม้แต่เถ้าธุลี

นี่คือเครื่องหุ่นเชิดจิตวิญญาณพิทักษ์คลังสมบัติ ซึ่งในตอนที่ยังมีชีวิตมันคือร่างจุติสัตว์เทวะแห่งดวงตะวันที่เพิ่งกำเนิดใหม่ มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าขอบเขตจักรพรรดิเทพ

ต่อให้ภายหลังถูกเปลี่ยนเป็นหุ่นเชิดจนอ่อนแอลง ก็ยังทรงพลังเทียบเท่าขอบเขตเทพโลกาขั้นสูงสุดอยู่ดี ซึ่งหน้าที่ของวิหคทองตัวนี้ก็คือการปกป้องคุ้มครองผู้สืบทอดจักรพรรดิเทพหมื่นตะวันแต่ละรุ่น

“ อ้ากกกกก ไอ้นกบัดซบ ปล่อยข้า ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน