เพียงกงเล็บข้างเดียวของเทพมารต่างภพ ก็มีขนาดใหญ่เท่ากับภูเขาแล้ว ทำให้อาณาเขตแสนเมตรรอบตัวโฮ่วอี้ตกอยู่ภายใต้การโจมตีนี้ทั้งหมด อีกทั้งตัวเขายังถูกตรึงไว้ด้วยพลังงานลึกลับบางอย่างไร้ซึ่งหนทางหลบหนี
หากเป็นคนอื่นที่ตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังแบบนี้ คงเหลือแค่สองทางให้เลือก ระหว่างยืนรอความตายโดยสงบ กับดิ้นรนอย่างสุดชีวิตเพื่อให้ตนเองหนีรอดจากการโจมตีอันน่าสะพรึงกลัวนี้ได้
แต่ทว่า โฮ่วอี้กลับเลือกทางที่สามคือการเผชิญหน้าตรงๆ เขาต้องการรู้ว่าช่องว่างระหว่างขอบเขตผู้ปกครองเอกภพที่แท้จริง กับขอบเขตจักรพรรดิเทพมันจะกว้างใหญ่ซักเพียงไหน
“ เก้าศรดับสุริยัน! ”
ไวเท่าความคิด โฮ่วอี้คว้าเกาทัณฑ์พาดสายเล็งไปที่กงเล็บยักษ์ ด้วยความเร็วเศษหนึ่งส่วนพันวินาที เจตจำนงอันแรงกล้าหลอมรวมกับเก้าแก่นแท้ เกิดเป็นอานุภาพที่สามารถทะลวงได้ทุกสรรพสิ่ง
ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ หากโฮ่วอี้ยังคิดปิดปังตัวตนโดยใช้ดาบต่อสู้ ก็คงไม่ต่างจากการฆ่าตัวตายอย่างไร้ประโยชน์ มีเพียงต้องทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างออกมาทั้งหมดเท่านั้น ถึงจะสามารถเผชิญหน้ากับเทพมารต่างภพได้
ฟ้าว! ตูมมม!
สิ้นเสียง ลูกเกาทัณฑ์ก็ทะลุกำแพงมิติหายไป มันพุ่งเข้าใส่กงเล็บสีดำขนาดใหญ่ของเทพมาร เหมือนดาวหางเปล่งประกายเจิดจ้าฉีกกระชากความมืดมิดของท้องฟ้ายามราตรี
‘ นี่สินะ พลังที่แท้จริงของอาจารย์ปู่ ’
หนึ่งเกาทัณฑ์นี้ไม่ว่าผู้ใดได้เห็นก็ล้วนรู้สึกว่างามล้ำตระการตา แม้กระทั่งจ้าวเทียนที่ถอยห่างไปไกล ยังประทับตรึงในห้วงสมองไม่อาจลืมเลือน
เปรี้ยงงง! ตูมมมมม!
เกิดเสียงระเบิดดังสะนั่นหวั่นไหว พายุแห่งการทำลายล้างกวาดออกไปโดยรอบ ทำให้หลุมอเวจีชั้นสิบแปดทั้งหมดสั่นสะเทือนเหมือนจะพังทลาย หมอกควันแห่งภัยพิบัติกระจายไปทั่วสารทิศ
บูมมมม!
คลื่นแรงระเบิดที่ปะทุตามมาในระลอกสอง ได้กวาดเอาราชันมารตรีเนตรกับสองผู้พิทักษ์จนกระเด็นไปไกล ส่วนกองทัพมารนับล้านที่อยู่ในบริเวณนั้นแหลกสลายกลายเป็นจุล ไม่มีแม้แต่โอกาสจะร้องขอความเมตตา
“ สำหรับเทพมารต่างภพ สิ่งมีชีวิตอื่นก็เป็นเพียงแค่เศษฝุ่นไร้ค่าสินะ ” จ้าวเทียนถอนหายใจพร้อมกับส่ายหน้าเบาๆ ก่อนจะเปิดช่องว่างมิติที่เชื่อมต่อกับคลังสมบัติ
วูป!
เมื่อปิงกู่เหนียงเหนียงปรากฏกายขึ้น เธอก็กวาดตามองดูภัยพิบัติตรงหน้าด้วยความหวาดกลัว จากนั้นเมื่อเธอเงยหน้ามองขึ้นไปฟ้าก็ถึงกับผงะไปทันที
“ นี่….นี่คือ ”
“ อย่ากังวลไป ฉันไม่ได้เรียกคุณออกมาเพื่อต่อสู้กับเทพมารต่างภพ หน้าที่ของคุณคือการปกป้องเส้นทางหลบหนีของพวกเราต่างหาก ” จ้าวเทียนชี้ไปทางพวกราชันมารตรีเนตรที่กำลังพุ่งตรงมาทางนี้อย่างรวดเร็ว
“ ตกลง ข้าจะทำให้ดีที่สุด ” ปิงกู่เหนียงเหนียงพยักหน้าอย่างจริงจัง
เธอสังเกตเห็นแล้วว่าที่ด้านหลังจ้าวเทียน มีเสาโลหะสีขาวขนาดใหญ่กำลังพุ่งทะลวงม่านพลังของเขตอาคมอยู่ ขอเพียงถ่วงเวลาเอาไว้อีกไม่เกินห้านาที ทุกคนก็จะสามารถหลบหนีออกไปได้แน่นอน
“ รับนี่ไปซิ ” จ้าวเทียนส่งสนับมือติดกงเล็บสีเขียวกับชุดเกราะสงครามครบเช็ตให้ปิงกู่เหนียงเหนียงไปยืมใช้ก่อน
ทั้งหมดนี้คืออาวุธเครื่องป้องกันเวทย์ระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุด ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนรูปร่างตามผู้ใช้ได้ มันจึงไม่เป็นปัญหา ที่ปิงกู่เหนียงเหนียงจะใช่ร่างกิเลนสวรรค์เมฆาเข้าต่อสู้
‘ เสียดาย ที่ฉันนำอุปกรณ์ระดับพระเจ้าออกมาไม่ได้ ไม่อย่างนั้นการต่อสู้ครั้งนี้คงง่ายขึ้นอีกเยอะ ’
ถึงแม้จ้าวเทียนจะกลายเป็นเจ้าของคลังสมบัติลับอย่างเต็มตัว แต่ตราบใดที่เขายังไม่ผ่านการทดสอบทั้งหมด ก็ไม่สามารถเปิดพระราชวังสมบัติชั้นสุดท้ายได้
ซึ่งนั่นก็เป็นที่เก็บอาวุธเครื่องป้องกันระดับพระเจ้า รวมไปถึงสิ่งประดิษฐ์โอสถลึกลับในตำนานทั้งหลายทั้งมวล
เหตุผลที่จักรพรรดิเทพหมื่นตะวันรุ่นแรกตั้งกฎข้อนี้ขึ้น ก็เพื่อป้องกันผู้สืบทอดของตนไม่ให้พึ่งพาสิ่งของนอกกายจนเกินไป
มิเช่นนั้นการเก็บสิ่งของล้ำค่าไว้กับตัว โดยที่ยังไม่มีความสามารถเพียงพอจะปกป้องมันได้ ก็มีแต่จะชักนำภัยพิบัติมาเท่านั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน