ภายในเขตหวงห้ามของสำนักดาราสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่ฝึกตนของจักรพรรดินีเทพหลินซินเยว่ เวลานี้มันได้ถูกปกคลุมไปด้วยเขตอาคมศักดิ์สิทธิ์รวมจิตวิญญาณขนาดใหญ่ เพื่อส่งเสริมความสามารถในการตระหนักรู้และตัดขาดสิ่งรบกวนภายนอกทั้งปวง
วูป!ๆๆๆๆๆ
หลินซินเยว่ที่กำลังนั่งทำสมาธิอยู่บนแท่นหยกเหมันต์หมื่นปี ได้ปลดปล่อยออร่าประกายแสงสีทองสว่างไสวขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของเธอเหมือนผสานเป็นหนึ่งเดียวกับกฎเกณฑ์แห่งสวรรค์ หลอมรวมมหามรรคาจักรพรรดิเข้าสู่กายทิพย์อย่างรวดเร็ว
นี่คือเคล็ดวิชาระดับเทวะ ที่หลินซินเยว่ใช้ประสบการณ์ที่ผ่านการเวียนว่ายตายเกิดนับพันหมื่นชาติภพสร้างขึ้นด้วยตนเอง ชื่อของมันก็คือ มหาวิถีหมื่นแปรสังสารวัฏ
ความสามารถของเคล็ดวิชานี้ คือการใช้ตัวตนในอดีตชาติของเธอเปลี่ยนเป็นร่างทิพย์แห่งเต๋านับพันนับหมื่นร่าง แล้วส่งไปแฝงตัวอยู่ตามสถานที่ต่างๆทั่วทั้งจักรวาล
และเมื่อใดที่ร่างจริงของเธอถูกศัตรูสังหาร ดวงวิญญาณก็จะไปถือกำเนิดใหม่ในร่างทิพย์แห่งเต๋าเหล่านั้นได้เรื่อยๆ
บอกได้เลยว่า หากเคล็ดวิชานี้ถูกสร้างขึ้นสำเร็จอย่างสมบูรณ์ การจะสังหารเธอให้ได้อย่างแท้จริง มีแต่ต้องกวาดล้างตัวตนในอดีตชาติทั้งหมดของเธอไปพร้อมกันเท่านั้น ไม่มีหนทางอื่นอีก
นี่อาจจะเป็นหนทางตอบโต้ชะตากรรมอันเลวร้าย ที่จะต้องเผชิญในอนาคตของหลินซินเยว่ ในเมื่อสามารถบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเทพได้แล้ว เธอก็จะไม่ยอมเป็นแค่เบี้ยให้ธิดาแห่งราชันสวรรค์เก้าภพใช้งานเด็ดขาด
แกร่ก!
ในบรรดาคริสตัลสีดำทั้งห้าก้อนที่วางอยู่ตรงหน้าหลินซินเยว่ ได้มีหนึ่งในนั้นแตกสลายเป็นผุยผง เนื่องจากถูกดูดซับพลังไปจนหมดสิ้น
หากมหาเทพอวี่หวงได้มาเห็นคริสตัลสีก้อนนี้ คงต้องลงมือช่วงชิงด้วยความอิจฉาแน่นอน เพราะพวกมันคือสมบัติล้ำค่าในตำนานผลึกวิญญาณโกลาหล ซึ่งตัวเขาได้รับมาเพียงสามก้อนตอนขึ้นปกครองแดนสวรรค์เท่านั้น
“ หืม เสียนเออร์ต้องการพบข้างั้นเหรอ ” หลินซินเยว่ลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เพราะเธอเพิ่งจะเริ่มเก็บตัวฝึกฝนได้ไม่กี่เดือนก็มาถูกขัดจังหวะเสียก่อน
แต่ทว่า เมื่อเธอได้ตรวจสอบเรื่องราวทั้งหมดผ่านทางแผ่นหยกสื่อสาร ก็มีสีหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัดและรีบเคลื่อนย้ายมิติออกไปทันที
ณ อาณาเขตชายแดนสำนักดาราสวรรค์
ร่างของหลินซินเยว่ปรากฏขึ้นในพริบตาท่ามกลางเหล่าผู้อาวุโสและศิษย์หลัก ทำให้ทุกคนรีบโค้งตัวทำความเคารพอย่างนอบน้อม
“ คารวะ ท่านเจ้าสำนัก ”
“ คารวะ ท่านอาจารย์ ”
เนื่องจากหลินซินเยว่คือบุคคลแรกในสำนักที่ได้บรรลุขอบเขตจักรพรรดิเทพ ก็เลยทำให้สถานะของเธอแตกต่างจากอดีตมาก ต่อให้บรรพชนเจ้าสำนักคืนชีพขึ้นมาก็ยังต้องโค้งคำนับเธอเลยด้วยซ้ำ
“ ข้าเข้าใจเรื่องทุกอย่างแล้ว พวกเจ้าจงรีบเปิดค่ายกลพิทักษ์สำนัก พร้อมทั้งส่งผู้อาวุโสสามสิบคนไปคุ้มกันเขตแดนชั้นนอกสุด ห้ามปล่อยให้มีผู้ใดบุกรุกเข้ามาเด็ดขาด ” หลินซินเยว่พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เป็นเหตุให้เหล่าผู้อาวุโสรีบแยกย้ายกันไปทำตามค่ำสั่งอย่างรวดเร็ว
“ ท่านอาจารย์ ตอนนี้ศิษย์น้องจ้าวขังตัวเองอยู่ในวิหคสีทองตัวนั้น ซึ่งความแข็งแกร่งของมันก็อยู่ในระดับสูงทั้งยังดุร้ายมาก พวกเราไม่อาจเข้าใกล้รัศมีหนึ่งพันเมตรรอบตัวมันได้เลย ” หลิวจงเสียนรายงานสถานการณ์ปัจจุบันให้ฟัง
วูป!
เพียงแค่หลินซินเยว่พลิกฝ่ามือเบาๆ กาลเวลาก็เหมือนจะไหลย้อนกลับ ภาพเหตุการณ์ในอดีตทั้งหมดปรากฎขึ้นตรงหน้าเธอ
ตั้งแต่ตอนจ้าวเทียนล่อศัตรูมาที่ค่ายกลสังหาร จนกระทั่งเมื่อทุกอย่างจบลงตัวเขาเริ่มมีท่าทีแปลกไป ดูก้าวร้าวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
โดยเฉพาะนัยน์ตาแดงฉานดุจโลหิตที่เต็มไปด้วยความกระหายเลือดคู่นั้น มันทำให้หลินซินเยว่ขมวดคิ้วงามขึ้นอย่างเคร่งเครียด
“ ก่อนที่จ้าวเทียนจะหายตัวไป เขาได้ทิ้งคำพูดอะไรไว้หรือเปล่า ”
“ เรียนท่านอาจารย์ ศิษย์น้องบอกว่า…. ” คังหลินรีบใช้อาณาเขตปิดกั้นเพื่อให้ได้ยินกันแค่สามคนเท่านั้น
ไม่ใช่เพราะเขาไม่ไว้ใจผู้อาวุโสคนอื่น แต่ดูจากท่าทีร้อนรนของจ้าวเทียนแล้ว เรื่องราวครั้งนี้มันคงจะหนักหนาสาหัสเกินไปเลยต้องป้องกันไว้ก่อน
“ เจ้าแน่ใจนะ ว่าเป็นตัวอ่อนนางพญาแมลงมารกลืนวิญญาณ ” หลินซินเยว่ถามย้ำขึ้นอีกครั้งด้วยความตกใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน