การปรากฏตัวของกองกำลังฝ่ายที่สามได้สร้างความกดดันให้พวกโจรสลัดอวกาศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกับตัวผู้นำอันดับสองเอง เพราะสัมผัสได้ถึงความแข็งแกร่งอันไม่ธรรมดาของคนกลุ่มนี้
‘ เทพโลกาขั้นเก้าระดับสูง 1 คน เทพโลกาขั้นแปด 3 คน ส่วนอีก 6 คนที่เหลือเป็นเทพโลกาขั้นเจ็ดงั้นรึ หรือนี่จะเป็นกองกำลังจากจักรวรรดิอันยิ่งใหญ่ ว่าแต่พวกมันมาที่นี่เพราะเหตุใดกัน ’
‘ หืม ไม่สิ ดูจากเจตนาสังหารในแววตาของพวกมัน คงไม่ใช่ว่าเป็นศัตรูเก่าของไอ้เด็กนี่หรอกนะ บางทีข้าอาจใช้พวกมันเป็นเครื่องมือได้ ’
ผู้นำอันดับสองเริ่มคิดแผนการชั่วร้ายในใจอย่างเงียบๆ ในขณะที่สีหน้าของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลง มันคงจะดีที่สุดถ้าฝ่ายตรงข้ามทั้งสองต่อสู้กันจนย่อยยับไปทั้งคู่ พวกเขาจะได้เป็นผู้ชนะโดยไม่สูญเสียสิ่งใด
ในเวลาเดียวกัน
ไม่ใช่แค่ทางฝ่ายโจรสลัดอวกาศที่รู้สึกสับสนกับสถานการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น พวกเจ้าตระกูลมู่ที่เพิ่งจะฉีกมิติมาถึงก็มีอาการตกใจไม่แตกต่างกัน
เพราะพวกเขาเร่งเคลื่อนย้ายมิติ ติดตามกลิ่นอายสายโลหิตขององค์หญิงทั้งสองมาอย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดพัก ทำให้ไม่ได้ตรวจสอบจุดหมายให้ชัดเจนเสียก่อน ผลลัพธ์จึงกลายเป็นสถานการณ์ในปัจจุบัน
‘ คนพวกนี้หรือว่าจะเป็นโจรสลัดอวกาศ บัดซบเอ้ย เหตุใดไอ้พวกเศษสวะนี่จึงสอดแทรกเข้ามาได้ หรือต่อให้มันอยากจะปล้นชิงจริงๆ ทำไมไม่สังหารไอเด็กนั่นให้สิ้นเรื่องสิ้นราว จะกักขังไว้จนพวกข้ามาถึงเพื่ออะไร ’
เจ้าตระกูลมู่ก่นด่าฝ่ายตรงข้ามในใจด้วยความหงุดหงิด หากนายน้อยสี่แห่งสำนักดาราสวรรค์กับพวกองค์หญิงถูกโจรสลัดอวกาศสังหาร พวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องลงมือทำงานสกปรกเอง ทั้งยังรอดพ้นจากข้อกล่าวหาทั้งหมดอีกด้วย
‘ เดี๋ยวนะ ข้าน่าจะสามารถใช้ไอ้โจรสวะพวกนี้ให้เป็นประโยชน์ได้นี่ ’
เมื่อคิดแผนการดีๆได้ เจ้าตระกูลมู่ก็ยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เริ่มทำอะไร จ้าวเทียนที่นิ่งเงียบมาตลอดก็ชิงลงมือก่อน
“ ท่านคงเป็นเจ้าตระกูลมู่ใช่ไหม ไม่นึกเลยว่าฉันขอความช่วยเหลือไปไม่นาน จักรพรรดิโลกอสูรก็รีบส่งพวกท่านมาช่วยองค์หญิงทั้งสองแล้ว ”
!!
“ ห๊ะ ข้าไม่ใช่ ” เจ้าตระกูลมู่อ้าปากค้างด้วยความตกใจ ราวกับไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผยตั้งแต่เริ่มและก็เพราะท่าทีอ้ำอึ้งของเขานี่เอง ทำให้จ้าวเทียนมีโอกาสพูดแทรกขึ้นมาได้อีกครั้ง
“ ข้าจ้าวเทียน ศิษย์หลักอันดับสี่ของจักรพรรดินีเทพหลินซินเยว่แห่งสำนักดาราสวรรค์ ต้องขอขอบคุณผู้อาวุโสทุกท่านมากสำหรับความช่วยเหลือในครั้งนี้ ”
“ มาเถอะ พวกเรามาช่วยกันกวาดล้างโจรสลัดอันน่ารังเกียจให้หมดสิ้นไป อย่าให้พวกมันได้มีโอกาสทำเรื่องชั่วๆอีก ”
หมากตานี้ของจ้าวเทียน นับว่าโหดร้ายสำหรับศัตรูทั้งสองฝ่ายเป็นอย่างมาก เมื่อตัวตนที่แท้จริงของจ้าวเทียนถูกประกาศออกไปแล้ว ก็ไม่มีช่องว่างให้โจรสลัดอวกาศกับเจ้าตระกูลมู่สามารถร่วมมือกันได้อีก
“ บัดซบ นี่เจ้าเป็นศิษย์ของจักรพรรดิเทพองค์ใหม่งั้นรึ ” ผู้นำอันดับสองสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ท่าทีมั่นใจในตอนแรกพังทลายไปในพริบตา
เขามองออกว่ากลุ่มคนที่มาใหม่ไม่ได้มีจุดประสงค์ที่ดีต่อจ้าวเทียน จึงไม่ได้เชื่อถือในคำพูดของจ้าวเทียนตั้งแต่ต้น ทั้งยังมีความคิดจะใช้ประโยชน์จากฝ่ายตรงข้ามในการจัดการกับจ้าวเทียนอีกด้วย
แต่ทว่า แผนการทุกอย่างก็เป็นอันต้องล้มเลิกไป เมื่อสถานะของจ้าวเทียนถูกเปิดเผยออกมา เพราะหากเรื่องในครั้งนี้แพร่กระจายออกไป จักรพรรดิเทพองค์ใหม่คงไม่อยู่เฉยแน่นอน
ในจักรวาลแห่งนี้มีสัจธรรมอยู่ข้อหนึ่ง ที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคสมัยก็ยังถูกหยิบยกมาใช้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกับโจรร้ายหรือมือสังหาร
คนเป็นต่อให้ซื่อสัตย์ขนาดไหนก็เชื่อถือไม่ได้ มีแต่คนตายเท่านั้นที่เก็บความลับได้ดีที่สุด
ดังนั้นทางเลือกอย่างเดียวของพวกโจรสลัดอวกาศ จึงมีเพียงสังหารพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดทิ้งและหลบหนีไปยังสถานที่ห่างไกล และรอจนกว่าโทสะของจักรพรรดิเทพจะคลายลงแล้วค่อยกลับมาใหม่
ทันใดนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน