เมื่อแปดหมื่นปีก่อน บนดวงดาวกางเขนสีชาดซึ่งอยู่ตรงชายขอบของดาราจักรเทียนเหมิน ในวันที่ท้องฟ้าเกิดปรากฎการณ์สุริยุปราคา
ช่วงเวลาที่เงามืดกลืนกินดวงอาทิตย์จนหมด ขณะที่มนุษย์รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตทั้งหลายกำลังตื่นกลัว ก็ได้มีกลุ่มคนลึกลับโดยสารเรือสำเภาลำใหญ่มาลงจอดบนดาวดวงนี้
ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขามาจากไหนหรือมีจุดประสงค์อะไร แต่ด้วยรูปลักษณ์อันโดดเด่นสง่างามทั้งเพศหญิงและเพศชาย เลยตกเป็นเป้าหมายของเหล่าผู้มีอำนาจตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้พบ
นี่จึงเป็นเหตุที่การเจรจาเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ไมตรี ถูกเปลี่ยนเป็นสงครามปล้นชิงอิสรภาพของผู้มาเยือนในชั่วข้ามคืน
ทว่า นั่นกลับเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดจนไม่น่าให้อภัยที่สุดของพวกผู้มีอำนาจ เพราะถึงแม้กลุ่มคนลึกลับจะมีจำนวนแค่ไม่กี่สิบคน แต่ความแข็งแกร่งของพวกเขาเหนือกว่าผู้คนบนดาวนี้ไปหลายขุม
บอกได้คำเดียวว่า แค่หนึ่งในผู้มาเยือนพลิกฝ่ามือเบาๆ ก็แทบจะบดขยี้กองทัพแกร่งหลายสิบล้านคนของหนึ่งในห้าแคว้นใหญ่ผู้ปกครองดาวดวงนี้ได้อย่างง่ายดาย และเมื่อความขัดแย้งได้เกิดขึ้นมาแล้ว มันก็ไม่มีทางจบลงง่ายๆแน่นอน
ในเวลาเพียงหนึ่งเดือน ห้าแคว้นใหญ่ซึ่งปกครองดวงดาวมาหลายแสนปีก็ล่มสลาย และถูกแทนที่โดยอาณาจักรจันทราประกาสิทธิ์ ซึ่งราชวงศ์ภูตดาราก็ได้กลายเป็นนายเหนือหัวคนแรก ที่สามารถรวบรวมดินแดนทั้งหมดให้เป็นหนึ่งเดียวในรอบหลายแสนปี
‘ งั้นเผ่าภูติดาราศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้อาศัยอยู่ในดินแดนรกร้างตั้งแต่แรกสินะ จากที่ฟังอวิ๋นเซียงหยาเล่ามา พวกเขาน่าจะอพยพร่อนเร่ไปตามดวงดาวต่างๆ เพื่อหาสถานที่เหมาะสมในการตั้งรกราก ’
จ้าวเทียนเข้าใจว่าตระกูลของอวิ๋นเซียงหยา น่าจะเป็นกลุ่มสุดท้ายของเผ่าพันธุ์ภูตดาราศักดิ์สิทธิ์ที่เหลือรอดมาจากยุคบรรพกาล และที่พวกเขาเลือกสถานที่อันห่างไกลอย่างดินแดนรกร้างก็เพื่อหลบหนีจากศัตรูที่เต็มไปด้วยความโลภ
เพราะเมื่อสิบล้านปีก่อน ได้มีจักรพรรดิเทพฝ่ายมารองค์หนึ่งค้นพบว่า โลกภายในที่เผ่าภูตดาราสร้างขึ้นในตอนที่บรรลุขอบเขตเทพโลกา
มันสามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบสำคัญ ในการหลอมกลั่นโอสถศักดิ์สิทธิ์เพื่อเพิ่มระดับขั้นพลังได้โดยตรง ทั้งยังมีประสิทธิภาพเหนือกว่าโอสถในระดับเดียวกันถึงสองเท่า
เดิมทีเผ่าภูตดาราก็มีโอกาสให้กำเนิดทายาทรุ่นต่อไปต่ำอยู่แล้ว แต่เมื่อข้อมูลนี้ถูกแพร่กระจายออกไป เผ่าภูตดาราศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นหนึ่งในยี่สิบอันดับแรกของสายเลือดที่ทรงพลังที่สุดในจักรวาลตอนนั้น ก็ถึงคราวล่มสลายในเวลาไม่ถึงเดือน
แม้แต่จักรพรรดิเทพภูตดาราเอง ที่มีความแข็งแกร่งเป็นอันดับสามในสิบจักรพรรดิยุคสมัยนั้น ก็ยังไม่อาจเอาตัวรอดจากสี่จักรพรรดิเทพฝ่ายศัตรูที่เต็มไปด้วยความโลภได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบรรดาเครือญาติหรือประชาชนคนธรรมดาเลย นี่คือหายนะของการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์อย่างแท้จริง
“ เดี๋ยวนะ การที่พวกเธอออกจากดาวบ้านเกิด จนมาถูกโจรสลัดอวกาศพบตัวเข้า คงไม่ใช่ว่า… ”
สิ้นเสียงจ้าวเทียน องค์หญิงทั้งสองก็ก้มหน้าลงช้าๆเพื่อปกปิดร่องรอยแห่งความเศร้าเสียใจ แต่ถึงแม้พวกเธอจะพยายามฝืนกลั้นแค่ไหน น้ำตาแห่งความคับแค้นใจก็ยังหลั่งไหลออกมาเป็นสายอยู่ดี
“ เมื่อเจ็ดวันก่อน อาณาจักรจันทราประกาสิทธิ์ได้ถูกพันธมิตรของสามกลุ่มโจรสลัดอวกาศทำลายลงเรียบร้อย และเหล่าผู้สืบเชื้อสายราชวงศ์ภูตดาราทั้งสามร้อยชีวิต ถ้าไม่ต่อสู้จนตัวตายก็ถูกจับไปเป็นทาส ”
“ หากไม่ใช่เพราะองค์จักรพรรดิตัดสินใจสังเวยตนเอง เปิดใช้สมบัติต้องห้ามของบรรพชนเพื่อผนึกคุมขังศัตรูส่วนใหญ่ไว้ พวกข้าก็คงไม่อาจพาองค์หญิงทั้งสองหลบหนีออกมาได้ ”
“ น่าเสียดายที่ระหว่างทางถูกหน่วยสอดแนมของศัตรูพบตัวเข้า พี่น้องในหน่วยอีกสิบคนจึงต้องพลีชีพไป หลงเหลือเพียงพวกข้าสองคนเท่านั้น ” หนึ่งในองครักษ์พูดขึ้นด้วยสีหน้าหมองค้ำ
ถึงแม้ทั้งเขาและสหายจะไม่ใช่เชื้อสายของเผ่าภูตดารา แต่ก็มอบความจงรักภักดีให้ราชวงศ์นี้ถึงขีดสุด การที่ต้องทนเห็นองค์จักรพรรดิและพี่น้องในหน่วยตกตายไปต่อหน้าต่อตานั้น มันช่างทุกข์ทรมานเกินบรรยายจริงๆ
“ อย่าได้เสียใจไปเลย พวกคุณทำดีที่สุดแล้ว อย่างน้อยก็ยังรักษาเลือดเนื้อเชื้อไขสุดท้ายขององค์จักรพรรดิเอาไว้ได้ ถ้าดวงวิญญาณของพวกเขาได้รับรู้จะต้องภาคภูมิใจในตัวพวกคุณอย่างแน่นอน ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน