บนหลังอีกาทองคำสามขา ดวงตาของจ้าวเทียนเปล่งแสงสีทองเจิดจ้า เขาค่อยๆยกฝ่ามือขึ้นช้าๆ ทำให้ร่างผู้นำอันดับสองราวกับถูกมือที่มองไม่เห็นจับตั้งตรงจากพื้น แล้วดึงมาเผชิญหน้าเขาตรงๆ
“ ทลายจิตสำนึก! ”
เจตจำนงแห่งกระบี่ของจ้าวเทียน ได้ทะลวงเข้าใส่จิตวิญญาณของผู้นำอันดับสองในพริบตา ปราการด่านสุดท้ายที่ปกป้องความทรงจำของอีกฝ่ายถูกทำลายไม่เหลือชิ้นดี
“ ค้นวิญญาณ! ”
อึก!ๆๆๆ
ร่างอันไม่สมประกอบของผู้นำอันดับสองชักกระตุกอย่างรุนแรง นัยน์ตาเขาเหลือกขึ้นไปด้านบน มีเลือดไหลซึมออกมาจากทวารทั้งเก้า พลังชีวิตจางหายไปอย่างรวดเร็ว
อันที่จริง ถ้าผู้นำอันดับสองอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ อย่าว่าแต่จะใช้เคล็ดวิชาค้นวิญญาณกับเขาเลย แค่ปราการป้องกันจิตใจของเขา จ้าวเทียนยังไม่มีความสามารถจะทำลายมันเลยด้วยซ้ำ
ผ่านไปเกือบสิบลมหายใจ ผู้นำอันดับสองก็ล่วงหล่นไปกองอยู่บนพื้น เพราะพลังชีวิตอันแข็งแกร่งเลยทำให้เขายังมีลมหายใจอยู่ แต่เมื่อจิตวิญญาณพังทลายไปแล้วสภาพก็ไม่ต่างจากตายเท่าไหร่
“ นิกายอสูรเงาทมิฬงั้นเหรอ อดีตขุมกำลังขั้นยอดแห่งแดนสวรรค์ที่ถูกมหาเทพจูเซียนโค่นล้มไป ไม่นึกเลยว่าจะตกต่ำถึงขั้นกลายเป็นโจรสลัดอวกาศออกปล้นชิงผู้คน ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว
การอ่านความความทรงจำของผู้แข็งแกร่งที่มีชีวิตอยู่มาหลายหมื่นปี สร้างภาระให้จิตใจของเขาเป็นอย่างมาก
“ นายท่าน ชายคนนี้… ” เสี่ยวมี่เฟิงจ้องมองจ้าวเทียนด้วยความคาดหวัง ราวกับหลงลืมความไม่พอใจก่อนหน้านี้ไปแล้ว
“ เขาไม่มีประโยชน์แล้ว นำไปใช้สร้างกองทัพแมลง… ” จ้าวเทียนยังพูดไม่ทันจบ นัยน์ตาของเขาก็หดเล็กลง และรีบควบคุมอีกาทองคำสามขาบินถอยห่างไปไกล
ตูมมมม!
ตรงตำแหน่งที่จ้าวเทียนเคยอยู่เกิดการระเบิดขึ้นของกำแพงมิติอย่างรุนแรง คลื่นพลังงานความมืดปะทุออกมาแล้วกวาดออกไปรอบด้าน ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างในอาณาเขตจนกลายเป็นจุล
แคว่ก!
ตรงจุดศูนย์กลางของพื้นที่ที่ถูกทำลาย ผู้แข็งแกร่งสี่คนได้ก้าวออกมาจากช่องว่างมิติช้าๆ ซึ่งเมื่อจ้าวเทียนเห็นใบหน้าพวกเขา ก็ทราบที่มาได้ทันที เนื่องจากล้วนเป็นบุคคลสำคัญที่อยู่ในความทรงจำของผู้นำอันดับสองทั้งสิ้น
กลุ่มที่มาใหม่ประกอบไปด้วย ฝ่ายของโจรสลัดอสูรร้ายอันได้แก่ มารอสูรสามเขา และต้าจือม่อ กับฝ่ายของโจรสลัดคลื่นโลหิตคลั่ง จิวโม่เฟิง และจิวหรูอี้ ทั้งสี่คนนี้ได้ติดตามฮั่วกงมู่มา แต่เกิดพบเห็นจ้าวเทียนระหว่างทาง เลยแยกตัวออกมาเสียก่อน
“ หืม ผู้ฝึกตนระดับต่ำเช่นเจ้า สามารถสัมผัสถึงการโจมตีของข้าได้ด้วยงั้นรึ ไม่แปลกใจเลยที่เอาชนะเว่ยอู่ได้ ” มารอสูรสามเขาพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม เขาไม่ได้ใส่ใจสภาพอันน่าสังเวชของผู้นำอับสองแม้แต่น้อย เพราะเดิมทีกลุ่มโจรสลัดทั้งสามก็มีเรื่องขัดแย้งกันเป็นประจำอยู่แล้ว
“ เหอะ ข้าว่าท่านผู้นำประเมินไอเด็กนี่สูงไปเกินแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาจะต้องมาจากอสูรวิหคสีทองตัวนั้นแน่นอน ไม่อย่างนั้นจะเอาชนะเทพโลกาขั้นเก้าได้อย่างไร ” ต้าจือม่อแค่นเสียงอย่างดูถูก
เนื่องจากจุดที่พวกเจ้าเทียนอยู่ ห่างไกลจากสนามรบในตอนแรกมาก ศัตรูกลุ่มใหม่เลยนึกว่าที่ถูกสังหารไปมีเพียงผู้นำอันดับสองคนเดียว
“ เด็กน้อย เจ้ามาจากขุมกำลังฝ่ายใดกัน ไฉนจึงกล้ามาสังหารคนในพื้นที่ของพวกข้า ไหนลองเอ่ยชื่ออาจารย์ของเจ้ามาซิ บางทีอาจจะมีหวังรอดชีวิต ” จิวโม่เฟิงถามขึ้นด้วยสีหน้าเย็นชา
ตัวเขานั้นมีความระมัดระวังตัวเป็นอย่างมาก เพราะจากที่สังเกตอาวุธเครื่องสวมใส่ของจ้าวเทียน ก็รู้เลยว่ามีความเป็นมาไม่ธรรมดาสามัญ
“ ท่านพ่อ อย่าไปเสียเวลากับไอสัตว์ป่าที่หื่นกระหายนี่เลย ดูๆไปแล้ว เขาก็คงไม่ใช่ตัวดีอะไร พวกเรารีบจัดการให้จบๆไปเถอะ ” จิวหรูอี้จองมองจ้าวเทียนด้วยสายตารังเกียจ
“ จิวหรูอี้ เจ้าก็พูดเกินไป ข้าคิดว่าไอเด็กนี่ก็มีรสนิยมที่ไม่เลวนะ ” ต้าจือม่อยิ้มขึ้นด้วยสีหน้าชั่วร้ายลามก พร้อมกับถูมือไปมา
ในขณะเดียวกัน จ้าวเทียนตอนนี้ได้ยืนอ้าปากค้างไปแล้ว เพราะตั้งแต่เกิดมาเขายังไม่เคยโดนผู้หญิงด่าแบบนี้มาก่อน
“ สัตว์ป่าที่หื่นกระหาย…หมายถึงฉันเหรอ ” จ้าวเทียนพูดกับตัวด้วยความสับสน วันนี้ทั้งวันเขายังไม่ได้ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนไหนเลย จะเป็นแบบที่อีกฝ่ายกล่าวอ้างได้อย่างไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน