ตามที่ได้มีการบันทึกเอาไว้ ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันมีเพียงจักรพรรดินีปิงเยว่เท่านั้น ที่บรรลุแก่นแท้ภาพมายาถึงขอบเขตขั้นสูงสุด
ต่อให้แก่นแท้ภาพมายาจะไม่มีประสิทธิภาพในการสังหารศัตรูมากนัก แต่เมื่อผู้ใช้สามารถสร้างโลกมายาที่แท้จริงได้สำเร็จ เขาก็จะกลายเป็นผู้บัญญัติกฎเกณฑ์ของโลกที่สร้างขึ้นไปโดยปริยาย
ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามจะร้ายกาจขนาดไหน หรือต่อให้มีอาวุธระดับพระเจ้าขั้นสูงสุดก็ตาม ตราบใดที่การโจมตีนั้นล่วงล้ำเข้ามาในอาณาเขตโลกมายา มันก็จะถูกบิดเบือนจากจริงให้กลายเป็นเท็จทันที
ยกตัวอย่างเช่น หากโฮ่วอี้ยิงเกาทัณฑ์ใส่จักรพรรดินีปิงเยว่ เกาทัณฑ์ดอกนั้นก็อาจจะกลายเป็นกลีบดอกไม้ หรือไม่ก็อาจจะสลายตัวเป็นหยดน้ำ ทุกอย่างจะเป็นไปตามแต่ที่จักรพรรดินีปิงเยว่ต้องการ
ดังนั้น การที่จะสังหารผู้บรรลุแก่นภาพมายาขั้นสูงสุดในการต่อสู้แบบตัวต่อตัว จึงถือเป็นเรื่องที่ยากลำบากมาก หรือต่อให้คิดอาศัยพวกมากเข้ารุม อีกฝ่ายก็ย่อมสามารถเข้าไปซ่อนตัวในโลกมายาก่อน แล้วค่อยหาวิธีเคลื่อนย้ายมิติหลบหนีไปทีหลังก็ได้
และก็ด้วยเหตุผลนี้เอง ที่ทำให้จักรพรรดินีปิงเยว่ได้ชื่อว่าไร้พ่ายในระดับเดียวกัน ไม่ใช่เพราะเธอแข็งแกร่งเหนือผู้อื่น หากแต่ไม่มีผู้ใดสามารถเอาชนะเธอได้อย่างแท้จริงต่างหาก
ขณะที่รายชื่อสิบจักรพรรดิเทพแต่ละยุคสมัยหมุนเวียนสลับเปลี่ยนกันไป ก็มีเพียงนามของจักรพรรดินีเหมันต์ศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ที่คงอยู่มาหลายพันล้านปีไม่เคยเปลี่ยนแปลง
บอกได้คำเดียวว่า ในมหาสงครามเทพมารบรรพกาล ภายใต้การโจมตีครั้งสุดท้ายของราชันเทพมารอเวจีที่บรรลุขอบเขตผู้ปกครองในวาระสุดท้ายของชีวิต
หากโฮ่วอี้ไม่ได้จักรพรรดินีปิงเยว่ดึงเข้ามาหลบซ่อนในโลกมายา เขาก็คงดับสูญไปพร้อมกับจักรพรรดิเทพอีกแปดองค์ที่เหลือแล้ว
น่าเสียดายที่ถึงแม้พลังโลกมายาจะดูขี้โกงขนาดไหน มันก็ป้องกันการโจมตีของขอบเขตผู้ปกครองได้เพียงห้าถึงหกส่วนเท่านั้น
เลยเป็นสาเหตุที่โฮ่วอี้กับจักรพรรดินีปิงเยว่ ต้องผนึกตัวเองให้หลับใหลเพื่อฟื้นฟูอาการบาดเจ็บไปนานหลายแสนปี ไม่อย่างนั้นเต๋าแห่งสวรรค์คงไม่อาจครองความยิ่งใหญ่มาได้ถึงทุกวันนี้แน่นอน
ในสถานการณ์ปัจจุบัน เมื่อจ้าวเทียนสามารถเปิดโปงตัวตนของฝ่ายตรงข้ามได้สำเร็จ เขาเริ่มก็ผ่อนคลายความระมัดระวังลง และสลายเคล็ดวิชาร่างเจตจำนงเทพยุทธทันที
แต่ทว่า
“ เด็กน้อย เจ้ามัวมองไปทางไหนกัน ”
!!
เปรี้ยงงง! ตูมมม!
จักรพรรดินีปิงเยว่เคลื่อนย้ายมิติมาโผล่ด้านหลังจ้าวเทียนแล้วฟาดฝ่ามือใส่เต็มแรง แม้เขาจะใช้เคล็ดกายาอมตะได้ทัน แต่ก็ถูกอัดกระเด็นไปกระแทกใส่ม่านพลังของโบราณสถาน จนเกิดรอยแตกร้าวขนาดใหญ่
“ กงเล็บวิหคเทพเหมันต์! ”
วูป!
อีกฝ่ายไม่เปิดโอกาสให้จ้าวเทียนเอ่ยวาจาแม้แต่น้อย มองเห็นจักรพรรดินีปิงเยว่รวบฝ่ามือเป็นกงเล็บ ตัวจ้าวเทียนก็เหมือนถูกพลังอันมหาศาลดึงดูดให้เข้าไปหา ทั้งยังเริ่มปรากฏผลึกน้ำแข็งกัดกินร่างกายของเขาอย่างรวดเร็ว
‘ บัดซบ ทำไมพวกจักรพรรดิเทพยุคบรรพกาล ถึงชอบทักทายด้วยวิธีนี้เหมือนกันหมดเลยนะ ’
จ้าวเทียนรู้สึกหัวเราะก็ไม่ได้ร้องให้ก็ไม่ออก เพราะสมัยก่อนตอนเจอโฮ่วอี้ครั้งแรก อีกฝ่ายก็โจมตีใส่โดยไม่บอกล่วงหน้าเช่นเดียวกัน คล้ายกับเป็นประเพณียุคโบราณที่ผู้อาวุโสใช้ทดสอบผู้เยาว์ที่กำลังให้ความสนใจไม่มีผิด
“ เทพสงครามหมื่นตะวัน! ”
ชุดเกราะเปลวเพลิงปรากฏขึ้นปกคลุมร่างกายจ้าวเทียนแทบทุกส่วน ขับดันไอเย็นและผนึกน้ำแข็งหายไปจนหมดในพริบตา
ฉัวะ!ๆๆๆๆ เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน