จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 531

หลังจากจ้าวเทียนเริ่มเก็บตัวฝึกฝน กาลเวลาก็ผ่านล่วงเลยมาได้หนึ่งปีกับอีกสองเดือน ภายในสมาพันธ์เซียนและสี่หน่วยลับจตุเทพตอนนี้ ได้เดินหน้าวางโครงสร้างเครือข่ายครอบคลุมไปทุกประเทศทั่วโลก

หากใช้มาตรฐานสากลในการชี้วัดความแข็งแกร่งปัจจุบันก็จะพบว่า ประเทศจีนมียอดฝีมือระดับSถึงสี่พันแปดร้อยคน ระดับAสองหมื่นห้าพันคน และระดับBอีกนับแสนคน ซึ่งเหนือกว่าประเทศมหาอำนาจอื่นรวมกันนับร้อยเท่า

หรือต่อให้เปรียบเทียบ กับกองกำลังฝ่ายมหาเทพอวี่หวงที่จุติลงมา สมาพันธ์เซียนก็ยังแข็งแกร่งกว่าเกือบสิบเท่าอยู่ดี ซึ่งเรื่องนี้ก็ต้องยกความดีความชอบให้ศูนย์วิจัยลับของจ้าวเทียน

เนื่องจากพวกเขาประสบความสำเร็จ ในการผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ากับการปรุงโอสถของผู้ฝึกตน ทำให้สามารถผลิตเม็ดยาหยวนตัน เม็ดยาจินตัน และเม็ดยาหยวนอิงได้เป็นจำนวนมาก

ยิ่งเมื่อรวมกับสวนสมุนไพรล้ำค่าของนิกายจูเซียน สวนสมุนไพรโบราณในคลังสมบัติลับหมื่นตะวัน และทรัพยากรจำนวนมหาศาล ที่จ้าวเทียนได้รับมาจากพันธมิตรโจรสลัดอวกาศ จึงไม่แปลกที่เม็ดยาแต่ละเม็ดจะมีคุณภาพสูงมาก อีกทั้งยังมีสรรพคุณเหนือกว่าปกตินับสิบเท่า

เมื่อเหล่าผู้ฝึกตนได้รับเคล็ดวิชาระดับสูง และโอสถชั้นยอดป้อนให้ถึงมือทุกอาทิตย์ ต่อให้พวกเขาจะด้อยศักยภาพขนาดไหน หากไม่คิดมีความแข็งแกร่งก้าวกระโดดอย่างพรวดพราดก็คงทำไม่ได้แล้ว

ณ เทือกเขาหิมาลัยประเทศเนปาล

เครื่องบินรบที่ถูกติดตั้งเทคโนโลยีล่องหนจากต่างดาวจำนวนสามลำ บินโฉบลงมาจากความสูงสองหมื่นเมตร ด้วยอนุภาคแสงนิวตรอนที่ปกคลุมเครื่องบินเหล่านี้ ทำให้บุกทะลวงฝ่าเขตอาคมเฝ้าระวังชั้นนอกของศัตรูได้โดยอีกฝ่ายไม่ทันรู้ตัว

ครืน!ๆๆ

เมื่อประตูด้านข้างเครื่องบินเปิดออก เจ้าสำนักหัวซานหยางเจี๋ยก็พายอดฝีมือขอบเขตครึ่งก้าวเซียนนภาสองร้อยคนในสำนัก พุ่งเข้าโจมตีภูเขาน้ำแข็งลูกหนึ่ง ซึ่งถูกตรวจสอบพบว่าเป็นภาพมายาจากการบิดเบือนมิติ

“ เก้ากระบี่เดียวดาย ! ”

เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เงากระบี่ดุจอัสนีบาตรเกรี้ยวกราดดุดันหลายร้อยสาย ของกองกำลังหัวซานฟาดถล่มไปที่พื้นที่ว่างเปล่าเหนือภูเขาน้ำแข็ง

ทำให้อากาศแตกสลาย เกิดเป็นช่องว่างมิติสีดำขนาดใหญ่ ก่อนที่จะปรากฏแผ่นดินลอยฟ้าขึ้นแทนที่ภูเขาน้ำแข็งลูกนั้น

ที่แท้ภูเขาน้ำแข็ง ก็คือภาพมายาที่ถูกสร้างขึ้นเพื่ออำพรางฐานทัพของนิกายภูติศักดิ์สิทธิ์บนโลกมนุษย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำขุมกำลังชั้นสูงภายใต้บัญชามหาเทพอวี่หวง

ส่วนเหตุผลที่ศิษย์หัวซานทั้งสองร้อยคน สามารถใช้เคล็ดวิชาเก้ากระบี่เดียวดายได้นั้น ก็เพราะเทพกระบี่ยกเลิกข้อจำกัดในการสืบทอดเคล็ดวิชาไปแล้ว ขอเพียงเป็นศิษย์ดั้งเดิมของสำนักที่ผ่านการทดสอบ ก็มีสิทธิ์เข้าถึงเคล็ดวิชาได้ทุกคน

“ บัดซบ! ไอพวกสมาพันธ์เซียนบุกมาอีกแล้ว ” ไต้ม่อฮวงผู้อาวุโสสูงสุดนิกายภูติศักดิ์สิทธิ์ตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาล และรีบพากองกำลังฝ่ายตนเอง พุ่งทะยานเข้าไปรับมือศัตรูทันที

ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา พวกเขาได้เผชิญหน้ากับฝ่ายตรงข้ามถึงสองครั้ง จนสูญเสียทั้งทรัพยากรและกำลังพลไปจำนวนมาก สุดท้ายจึงต้องหลบหนีมาซ่อนตัวที่เทือกเขาหิมาลัย แต่ไม่นึกเลยว่าจะถูกพบตัวอยู่ดี

“ คู่ต่อสู้ของแก คือฉัน ”

เคาท์แดรกคูลากับแวมไพร์ระดับขุนนางอีกสองตน ปรากฏกายขึ้นขวางหน้าไต้ม่อฮวงไว้ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ถูกเลือกของเทพมังกร ก็เข้าร่วมแผนปฏิบัติการนี้เช่นกัน

“ คมเขี้ยวโลหิตแห่งความตาย! ”

พรึบ!ๆๆๆ

สิ้นเสียง แวมไพร์ทั้งสามตนก็ระเบิดกลายเป็น ฝูงค้างคาวกระหายเลือดจำนวนหลายหมื่นตัว พุ่งเข้ากัดกินไต้ม่อฮวงจากทุกทิศทาง ถึงแม้พวกมันถูกทำลายไปก็จะสามารถฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ทุกครั้ง ราวกับเป็นอมตะไม่มีผิด

“ ไสหัวไปให้พ้นทางข้าซะ ไอปีศาจชั้นต่ำ ” ไต้ม่อฮวงคว้าอาวุธศักดิ์สิทธิ์คู่กายออกมาโบกสะบัดไปเบื้องหน้า เกิดเป็นพายุเปลวเพลิงสีครามม้วนกวาดออกไป ทำให้กองทัพค้างคาวกว่าครึ่งมอดไหม้เป็นเถ้าถ่านทันที

“ ลืมข้าไปแล้วงั้นรึ ”

ฉัวะ! เปรี้ยง!

สำนึกกระบี่ของหยางเจี๋ยพุ่งทะลวงเข้าใส่ข้อมือศัตรู ดุจดาวหางที่เปล่งแสงเจิดจ้าฉีกกระชากท้องฟ้ายามราตรี ทั้งจังหวะและเวลาล้วนสมบูรณ์ถึงขีดสุด

ทำให้ไต้ม่อฮวงที่กำลังจะทะลวงฝ่าฝูงค้างคาวที่เหลือออกไป ต้องกลับกลายเป็นฝ่ายถอยฉากออกมาตั้งรับอย่างร้อนรนแทน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน