ช่วงเวลาที่สมาพันธ์เซียนเริ่มบุกโจมตีขุมกำลังต่างๆของแดนสวรรค์ ทางตอนเหนือของที่ราบสูงทิเบตก็ปรากฏร่างของหญิงสาวคนหนึ่งขึ้น
เธอสวมหมวกปีกสีทองหรูหรา ใส่ชุดเกราะสีเงินทับบนชุดคลุมสีขาวสง่างาม ซึ่งก็สอดคล้องกับดวงตาสีฟ้าที่แฝงไปด้วยปัญญา และเส้นผมสีน้ำตาลเปล่งประกายระยิบระยับ ทั้งหมดนี้ทำให้รูปลักษณ์ของเธอมีเสน่ห์และดูสูงศักดิ์ในเวลาเดียวกัน
“ ทางนั้นสินะ ”
หลังเทพีอาเธน่าหลับตาตรวจสอบอะไรบางอย่างอยู่ครู่หนึ่ง ร่างของเธอก็ฝ่ามิติไปยืนอยู่ตรงหน้าภูเขาสูงชัน ที่มีลักษณะคล้ายคมกระบี่แทงทะลุพื้นดินขึ้นมา
บนหน้าผาหินของภูเขาที่ความสูงประมาณสองร้อยเมตร ถูกจารึกไว้ด้วยตัวอักษรขนาดใหญ่หนึ่งแถว ซึ่งมีลายเส้นงดงามราวกับถูกเขียนโดยปลายพู่กันของจิตกรแห่งยุค
เทพีอาเธน่าดูออกว่าตัวอักษรทั้งสี่คำนี้ ถูกแกะสลักด้วยรังสีกระบี่ขนาดใหญ่เสร็จทั้งหมดในขั้นตอนเดียว อีกทั้งยังจงใจทิ้งเจตจำนงกระบี่อันแหลมคมเอาไว้
หากมีใครเผลอจ้องมองเป็นเวลานาน ดวงตาของผู้นั้นก็จะรู้สึกเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว หรือหนักหน่อยก็อาจจะตาบอดไปเลย แสดงให้เห็นถึงขอบเขตกระบี่อันลึกล้ำของผู้เขียนได้เป็นอย่างดี
สิ่งนี้เหมือนเป็นการทดสอบความสามารถของผู้ที่มาเยือน หรืออีกนัยหนึ่งก็ถือเป็นการส่งคำเตือนให้ผู้ที่หลงเข้ามา จงถอยกลับไปโดยดีตราบเท่าที่ยังมีโอกาส
“ หนึ่งกระบี่ทะลวงสวรรค์งั้นรึ ” เทพีอาเธน่าอ่านข้อความบนหน้าผาด้วยน้ำเสียงดูถูก เธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายช่างเย่อหยิ่งจองหองเสียจริง
เป็นเพียงกบในกะลาครอบกล้าดีอย่างไรมาลบหลู่แดนสวรรค์ ถ้าไม่กลัวจะส่งผลกระทบต่อแผนการ เธอคงเลือกทำลายภูเขาที่ดูขัดสายตาลูกนี้ไปแล้ว
วิ้งงงง!
เทพีอาเธน่าใช้เขายูนิคอร์น วาดอักษรรูนหลายร้อยตัวกลางอากาศอย่างรวดเร็ว เธอต้องการสร้างเขตอาคมผนึกมิติขนาดใหญ่ครอบคลุมภูเขาทั้งลูก
เพื่อป้องกันไม่ให้เป้าหมายหลบหนี และตัดขาดการเชื่อมต่อทุกอย่างจากโลกภายนอก ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงการใช้แผ่นหยกสื่อสารด้วย
ทันใดนั้น
“ ยินดีต้อนรับสู่สถานที่พำนักของข้า ท่านคงเป็นเทพีอาเธน่า เทพสงครามผู้ยิ่งใหญ่แห่งเขาโอลิมปัสใช่หรือไม่ ”
!!
เสียงที่ดังขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว ทำให้ขั้นตอนสร้างเขตอาคมของเทพีอาเธน่าต้องหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เธอจะรีบตั้งสติแล้วทำทุกอย่างให้เสร็จในเวลาไม่กี่อึดใจ
บูมมม!
เมื่อเห็นเขตอาคมผนึกมิติทำงานอย่างสมบูรณ์ เทพีอาเธน่าก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก แม้จะรู้สึกสงสัยอยู่บ้างว่าทำไมอีกฝ่ายถึงไม่ลงมือขัดขวางในตอนที่กำลังสร้างเขตอาคมอยู่ แต่ตอนนี้เธอต้องการคำตอบเรื่องอื่นมากกว่า
วูป!
เพียงก้าวเดียว เทพีอาเธน่าก็ไปปรากฏกายอยู่บนยอดเขาสูงเหนือหมู่เมฆ สายตาของเธอจับจ้องไปทางชายคนหนึ่ง ที่กำลังนั่งดื่มชาอยู่เพียงลำพัง ตรงลานกว้างด้านหน้ากระท่อมไม้ไผ่
‘ สมแล้วที่ได้รับสมญานามว่าเทพกระบี่ นอกจากจะบรรลุแก่นแท้กระบี่ในระดับสูงมากแล้ว ทั้งท่วงท่าและแววตายังแผ่พุ่งรังสีคุกคามออกมาอีกด้วย ให้ความรู้สึกเหมือนตอนสัมผัสกระบี่ที่แหลมคมสุดเปรียบปานเลยทีเดียว ’
เทพีอาเธน่าจำเป็นต้องประเมินความแข็งแกร่งของฝ่ายตรงข้ามใหม่อีกครั้ง เพราะนอกจากจ้าวเทียนแล้ว ชายที่อยู่ตรงหน้านี้ก็เป็นมนุษย์คนที่สอง ซึ่งเธอสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายอย่างชัดเจน
“ เจ้าสามารถมองเห็นตัวข้า ที่สวมหมวกล่องหนอยู่งั้นรึ ” เทพีอาเธน่าถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง เธอไม่แปลกใจที่ถูกเทพกระบี่ดาดเดาตัวตนออก เพราะในการต่อสู้ครั้งนั้นจ้าวเทียนคงนำเอาเรื่องราวของเธอไปเล่าให้อีกฝ่ายฟังเรียบร้อยแล้ว
แต่ที่เทพีอาเธน่ารู้สึกติดใจ ก็คือเรื่องที่พลังพิเศษของหมวกล่องหนใช้กับอีกฝ่ายไม่ได้ผลต่างหาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน