จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 537

ภายในความเวิ้งว้างอันดำมืดของห้วงมิติทดสอบ เทพกระบี่กำลังยืนหลับตาอยู่ด้านหน้าแผ่นศิลาขนาดใหญ่ที่เปล่งแสงสีขาวเจิดจ้า ราวกับเป็นแสงแห่งความหวังท่ามกลางความมืดมิดทั้งปวง

นี่คือแผ่นหินโกลาหลสมบัติล้ำค่าในตำนาน ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่มหาเทพจูเซียนเคยครอบครองในอดีต และตกมาถึงมือจ้าวเทียนในปัจจุบัน

เพียงแต่ที่อยู่ตรงหน้าเทพกระบี่ นอกจากจะมีขนาดใหญ่กว่าเกือบสิบเท่าแล้ว บนพื้นผิวชั้นนอกของแผ่นหินยังถูกจารึกไว้ด้วยอักษรรูนโบราณจำนวนมาก พร้อมทั้งมีร่องรอยกระบี่หลายสิบสายซ้อนทับกันหลายชั้น

ทั้งหมดนี้คือเต๋าแห่งกระบี่ขั้นสูงสุด ที่จักรพรรดิอสูรกระบี่แสวงพ่ายตระหนักรู้ได้ก่อนจะสิ้นชีพในมหาสงคราม ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ล้ำค่าที่สุดในดินแดนมรดกแห่งนี้

“ ผ่านไปหนึ่งปีแล้วสินะ หากรวมระยะเวลาทั้งห้าด่านทดสอบ ข้าน่าจะอยู่ในเขตอาคมบิดเบือนมิติกาลเวลามาเกือบสองปีเห็นจะได้ ”

เทพกระบี่พูดกับตัวเองเบาๆ เวลาสองปีด้านในก็เท่ากับหนึ่งเดือนในโลกภายนอก ไม่รู้ป่านนี้พวกจ้าวเทียนและสหายคนอื่นๆจะร้อนใจกันขนาดไหนแล้ว

ต้องเข้าใจว่า ผู้เดียวที่จะเปิดประตูเคลื่อนย้ายของดินแดนมรดกได้ก็คือเทพกระปี่ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเขา คนอื่นๆก็ไม่มีทางออกจากสถานที่แห่งนี้ไปได้เด็ดขาด

ก่อนหน้านี้ เทพกระบี่ก็เคยคิดจะล้มเลิกการทดสอบกลางคัน เพื่อส่งตัวคนอื่นๆกลับไปยังโลกมนุษย์เหมือนกัน

แต่น่าเสียดายที่ดวงจิตจักรพรรดิอสูรกระบี่ไม่ให้ทางเลือกกับเขาเลย เพราะเมื่อใดที่ผู้สืบทอดตัดสินใจยอมแพ้กลางคัน เขตอาคมบิดเบือนมิติกาลเวลาก็จะสลายไปและดินแดนมรดกทั้งหมดก็จะถูกปิดตัวลงตลอดกาล

“ หวังว่า ทุกคนจะยอมให้อภัยกับความเห็นแก่ตัวของข้าในครั้งนี้ ”

พูดจบ เทพกระบี่ก็ยืนฝ่ามือไปสัมผัสกับแผ่นหินที่อยู่ตรงหน้าอย่างแผ่วเบา ทำให้ดวงจิตของเขาถูกดึงดูดเข้าไปด้านในทันที

วูป!

เมื่อแสงสว่างจางหายไป เทพกระบี่ก็ได้ถูกดึงเข้าสู่ห้วงเวลาในอดีตของมหาสงครามเทพมารบรรพกาลเมื่อหนึ่งล้านปีก่อนอีกครั้ง

ท่ามกลางการต่อสู้ของทั้งสองฝ่าย กองทัพเทพสวรรค์และมารร้ายแห่งห้วงอเวจีได้เปิดฉากสังหารกันอย่างมืดฟ้ามัวดิน ทำให้จักรวาลทั้งหมดสั่นสะเทือน ดวงดาวหลายล้านดวงต้องแตกสลายไปเป็นเถ้าธุลี สิ่งมีชีวิตนับล้านล้านต้องสูญสิ้นเผ่าพันธุ์

บุรุษชุดดำผู้หนึ่งที่มีกายทิพย์ใหญ่โตมโหฬาร ได้ฟาดฟันกระบี่ในมือออกไปไม่หยุดยั้ง รังสีกระบี่นับแสนนับหมื่นระเบิดเข้าใส่ศัตรูดุจคลื่นทะเลอันคลุ้มคลั่งไร้ผู้ใดเทียบติด เพียงพริบตาเดียวก็ทำลายทัพมารนับล้านจนสลายกลายเป็นฝุ่นผง

แม้การโจมตีนั้นจะสังหารฝ่ายตนเองไปพร้อมกัน แต่ท่วงท่าของเขาก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความเกรี้ยวกราดดุดัน ปราศจากความลังเลใดๆ ราวกับได้หลงลืมตัวตนและสรรพสิ่งรอบกายไปจนหมดสิ้น

แวบ!

เมื่อเทพกระบี่เดินมาหยุดตรงหน้าบุรุษชุดดำ ภาพเหตุการณ์ทุกอย่างก็หยุดชะงัก เหมือนมีบางสิ่งร่วงหล่นลงไปในบ่อน้ำที่สงบนิ่ง เกิดผลกระทบเป็นวงคลื่นแผ่กระจายออกไปรอบๆ

ชิ้ง!

แววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหารอันคลุ้มคลั่ง ของกองทัพเทพมารนับล้านที่กำลังพุ่งรบกันในสงคราม ต่างพากันจับจ้องมาที่เทพกระบี่เป็นสายตาเดียว

บูมมมม!

คลื่นความกดดันมหาศาลจากเทพมารยุคบรรพกาล ได้กดทับลงมาอย่างหนักหน่วงและรุนแรง ราวกับต้องการบดขยี้เทพกระบี่ให้แหลกสลายไปในเสี้ยววินาที

แต่ทว่า

“ จิตกระบี่อนัตตาเที่ยงแท้! ”

ภาพลวงตาของกระบี่สีทองขนาดยักษ์ได้ปรากฏซ้อนทับกับเทพกระบี่ มันเป็นเจตจำนงที่แหลมคมจนสามารถทะลวงฟ้าดิน ทั้งเด็ดเดี่ยวและไม่หวั่นเกรงสิ่งใด ทำให้จิตสังหารรวมไปถึงความกดดันที่ถาโถมเข้ามาสลายไปทันที

นี่คือเคล็ดวิชาลับที่เทพกระบี่ได้มาจากการเอาชนะด่านทดสอบที่สาม ตราบใดที่เขายังรักษาสภาวะเคล็ดวิชานี้เอาไว้ ต่อให้ศัตรูมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าตนเองหลายร้อยเท่า ก็ไม่อาจใช้จิตสังหารหรือความกดดันบดขยี้เขาจนพังทลายได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน