แปดโมงเช้าหลังจากที่เสร็จสิ้นการฝึกฝนตอนเช้า จ้าวเทียนก็นั่งรอสาวๆแต่งตัวอยู่ตรงห้องรับแขก
เมื่อคืนพวกเขาสนุกกันจนถึงห้าทุ่ม จึงแยกย้ายกันกลับ ตอนนี้ตระกูลลี่กับตระกูลกงได้สนิทสนมกันจนแทบจะแยกไม่ออกแล้ว
อาจเป็นเพราะทำธุรกิจในวงการสมุนไพรเหมือนกัน และต่างก็เป็นตระกูลในยุทธภพ ทำให้ผสมกลมกลืนกันได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับตัวเขากับน้องสาวนั้น ความรู้สึกที่ได้สนุกสนานพร้อมกันแบบตระกูลใหญ่ เป็นสิ่งที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
เพราะตั้งแต่เกิดมาพ่อของเขาก็ออกจากตระกูลมาแล้ว ไม่ว่าจะงานเทศกาลอื่นๆ หรืองานตรุษจีนพวกเขาก็ฉลองกันเองภายในครอบครัวแค่สี่คน ไม่เคยมีบรรยากาศสนุกสนานแบบเมื่อคืน
ในระหว่างที่จ้าวเทียนกำลังคิดอะไรเพลินๆ
ก๊อกๆ
!!
จ้าวเทียนมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย วันนี้พวกเขานัดเจอกันที่ทะเลสาบมรกต ไม่น่าจะมีใครมาหาเขาที่อพาร์ทเม้นท์
แกร๊ก แอ้ด!
“ หวังซินหยาง…นายมาได้ยังไงเหรอ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
“ ปู่อยากให้ผมออกไปพร้อมกับพวกพี่…วันนี้พี่จะไปติดต่อซื้อเกาะส่วนตัวใช่ไหม ผมมีความรู้ด้านสถาปัตยกรรมอยู่บ้างคงจะพอช่วยได้ ” หวังซินหยางตอบ
“ งั้นนายก็ไปกับฉันเลย…หลังจากเสร็จธุระที่ทะเลสาบมรกต ฉันจะพานายไปดูบริษัทด้วยกัน ” จ้าวเทียนบอกด้วยสีหน้าสบายๆ
ดวงตาเขาเปล่งแสงสีทองออกมาเล็กน้อย ภายในดวงจิตของหวังซินหยางนั้น มีวิญญาณอีกดวงถูกผูกติดเอาไว้อยู่
เมื่อคืนเทพธิดาตัวจิ๋วได้ออกมาเตือนเขาแล้ว วิญญาณดวงนี้มีอิทธิฤทธิ์เทียบเท่าขอบเขตปรมาจารย์เลยทีเดียว แต่จะต่อสู้ด้วยยากมาก เพราะการโจมตีทางกายภาพจะไม่สามารถทำอะไรพวกวิญญาณได้
‘ เหมือนจะไม่ได้ประสงค์ร้ายนะ…แต่ถ้าปล่อยไว้นานเกินไปก็คงจะไม่ดี มันจะส่งผลกระทบต่อตัวหวังซินหยางเองได้ ’
ตอนนี้เขาก็คงต้องเฝ้าดูไปก่อน หรือไม่ก็ต้องหาโอกาสไปพูดคุยกับผู้เฒ่าหวังเจี้ยนหลินเรื่องที่ว่าจะจัดการกับวิญญาณดวงนี้อย่างไร
เวลาผ่านไปซักพัก
เมื่อสามสาวแต่งตัวกันเสร็จก็ออกมาด้านนอก แม้จะแปลกใจอยู่บ้างที่เห็นหวังซินหยาน แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเมื่อวานได้พูดคุยกันไปบ้างแล้ว
จ้าวหยูเหมยดูเหมือนจะสนใจวิถีชีวิตที่อเมริกามาก เพราะเธอได้ตั้งคำถามกับหวังซินหยานตลอดการเดินทาง โดยมีโม่ปิงหยูร่วมผสมโรงบ้างเป็นระยะ
“ พี่ซินหยาง อยู่ที่อเมริกาคนเดียวมาตลอดเลยเหรอ ” จ้าวหยูเหมยถามขึ้นอย่างสงสัย
“ ไม่ใช่…ตอนเด็กๆพี่อยู่กับพ่อแม่ แต่พวกท่านก็เสียไปตอนพี่อายุ 10 ขวบ ” หวังซินหยางตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย สำหรับเหตุการณ์ที่ผ่านมาตัวเขาทำใจได้นานแล้ว แต่ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
‘ วันนี้แปลกมาก…ทำไมฉันถึงตอบคำถามมาตลอดทางเลยล่ะ ปกติฉันควรจะรำคาญแล้วก็นิ่งเงียบสิ ’
ตัวของหวังซินหยางนั้นไม่ได้รู้เลยว่า เหตุผลที่เขาหลุดพูดเรื่องราวส่วนตัวออกไปเยอะขนาดนี้ เป็นเพราะเด็กสาวที่นั่งอยู่ด้านหลัง โม่ปิงหยู
คนที่อยู่รอบๆตัวเธอจะมีจิตใจที่สงบเป็นสมาธิ รู้สึกปลอดโปร่งสบายใจ ทำให้หวังซินหยางที่เงียบขรึมไม่ค่อยพูด สามารถพูดคุยกับพวกจ้าวหยูเหมยได้แบบเป็นธรรมชาติ
ณ ทะเลสาบมรกต เมืองเทียนจิน
เมื่อรถของจ้าวเทียนขับเข้ามาจอดก็พบว่า คนอื่นๆได้มาถึงกันแล้ว โดยธุระในวันนี้มีแต่คนหนุ่มสาวที่ออกมาจัดการกันเอง
“ ว้าว…มันช่างสวยงามจริงๆ ” จ้าวหยูเหมยร้องขึ้นด้วยความประทับใจ
“ หนูชอบบรรยากาศที่นี่มากเลย…เราจะได้อาศัยอยู่ที่นี่ใช่ไหมคะ” โม่ปิงหยูพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้น เธอวิ่งตามจ้าวหยูเหมยไปอย่างร่าเริง
ทุกคนมองท่าทางมีความสุขของเด็กสาวทั้งสองด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้จ้าวเทียนกำลังมองหาคนที่เขานัดเอาไว้อยู่
“ สวัสดีครับ…คุณคือคนที่จะมาซื้อหมู่เกาะทะเลสาบมรกตใช่ไหมครับ ” ชายร่างอ้วนเดินเข้ามาทักจ้าวเทียน
“ ใช่แล้วครับ…คุณคือผู้จัดการไป๋ใช่ไหม ไม่ทราบว่าผมต้องเซ็นต์เอกสารอะไรบ้าง เรื่องเงินผมเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว ” จ้าวเทียนถามด้วยความรอบคอบ
“ คือ…ก่อนหน้านี้ ทางเจ้าของหมู่เกาะทะเลสาบมรกตเขาติดต่อมาว่าต้องการพบหน้าคนซื้อก่อนถึงจะตัดสินใจซื้อขายนะครับ ” ผู้จัดการไป๋พูดออกมาด้วยความลำบากใจ
เมื่อสามวันก่อนเขาได้โทรคุยกับจ้าวเทียนเรียบร้อยแล้ว เมื่อคนซื้อจ่ายเงินครบก็สามารถโอนกรรมสิทธิ์เกาะทั้งหมดให้ได้เลย
แต่เมื่อวาน อยู่ดีๆเจ้าของก็โทรมาขอเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการซื้อขาย เป็นขอนัดเจอกับคนซื้อก่อนจึงจะตัดสินใจขาย
“ งั้นคุณพาผมไปพบเจ้าของหมู่เกาะทะเลสาบมรกตหน่อยได้ไหม ” จ้าวเทียนพูดอย่างจริงจัง เขาพอจะคาดเดาตัวตนอีกฝ่ายออก นั่นก็คือตระกูลหลิน
“ ตกลงครับ…แต่คงต้องให้คุณเข้าพบได้แค่คนเดียวนะครับ ” ผู้จัดการไป๋พูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
เมื่อจ้าวเทียนได้ยินดังนั้น เขาก็เดินไปบอกคนอื่นให้เดินสำรวจรอบๆไปก่อน ระหว่างรอเขากลับมา
ผู้จัดการไป๋ได้พาจ้าวเทียนขึ้นเรือสปีดโบ๊ท เดินทางไปยังเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะทั้งหมด
เมื่อเรือสปีดโบ๊ทเข้าใกล้ตัวเกาะ ก็จะมองเห็นคฤหาสน์จีนโบราณอายุหลายร้อยปี ถูกสร้างไว้อย่างโดดเด่น ตรงใจกลางของเกาะ
ภายในคฤหาสน์จีนโบราณ
ผู้จัดการไป๋ได้พาจ้าวเทียน เดินเขามายังตัวตึกด้านใน ตลอดเส้นทางที่เดินผ่านมา มีการวางกองกำลังคุ้มกันไว้อย่างแน่นหนา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน