บนยอดเขาคุนหลุน
กองกำลังสมาพันธ์เซียนนับหมื่น กำลังยืนล้อมพื้นที่กว้างขนาดใหญ่ไว้เป็นวงกลม โดยมีตัวแทนมหาอำนาจผู้มีพลังพิเศษทั่วโลก ส่งคนมาสังเกตการณ์อยู่ตามสถานที่ซึ่งถูกรัฐบาลจีนจัดสรรไว้ให้เบื้องหลัง
พื้นที่ตรงกลางที่ถูกเว้นว่างเอาไว้ มีชายหนุ่มชุดดำหน้าตาหล่อเหลานั่งทำสมาธิอยู่อย่างสงบ ทั่วร่างกายของเขาปลดปล่อยกลิ่นอายแห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ เหมือนหลอมรวมฟ้าดินผสานเป็นหนึ่งเดียวกับสรรพสิ่งรอบตัว
“ บอสครับ ได้เวลาแล้ว ” เฉินจิ้งในชุดเกราะพร้อมรบเดินเข้ามาหาจ้าวเทียนด้วยสีหน้าจริงจัง
ระดับพลังของเขาในตอนนี้คือเซียนนภาขั้นสูงสุด ซึ่งมันเหนือกว่าในอดีตอย่างเทียบกันไม่ติด เพียงแค่อยู่ใกล้ๆก็สามารถสัมผัสถึงรังสีคุกคามสั่นสะท้านจิตวิญญาณได้ชัดเจน
“ เทพกระบี่ออกมาจากดินแดนมรดกหรือยัง ” จ้าวเทียนถามกลับไปเบาๆ พร้อมกับลืมตาขึ้นช้าๆ นัยน์ตาของเขาทั้งสองได้เปล่งประกายเจิดจ้าราวกับดวงสุริยันไม่มีผิด โชคดีที่ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที จึงไม่ส่งผลเสียต่อคนอื่นๆมากนัก
“ ผู้อาวุโสเทพกระบี่ยังไม่ออกจากการเก็บตัวเลยครับ แต่ผู้อาวุโสเสวี่ยหลงได้นำกองกำลังเงาตะวันแยกย้ายไปประจำตำแหน่งแทนเรียบร้อยแล้ว ”
“ ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ออกมางั้นเหรอ แต่ก็เอาเถอะ ให้ผู้อาวุโสเสวี่ยหลงจัดการแทนก็คงไม่มีปัญหาอะไร ” จ้าวเทียนรู้สึกหมดคำพูดเล็กน้อย ไม่นึกเลยว่าการเทศนาเต๋าครั้งแรกของตัวเองจะส่งผลกระทบต่อเทพกระบี่ขนาดนี้
ถึงแม้เสวี่ยหลงจะเป็นอาวุธมีชีวิตที่ทรงอำนาจเหนือผู้ใด แต่เมื่อไม่ได้อยู่ข้างกายผู้ทำพันธสัญญา ก็จะปลดปล่อยอานุภาพที่แท้จริงออกได้ไม่ถึงครึ่ง โดยเฉพาะตอนที่อยู่ในโลกมนุษย์ซึ่งถูกจำกัดพลังเอาไว้แบบนี้
‘ บางทีพวกเราอาจจะนึกกังวลไปเองก็ได้ เพราะทั้งเสี่ยวเหมยและกองทัพหุ่นเชิดก็ยอมไปคุ้มกันบริเวณรอบนอกภูเขาคุนหลุนโดยดี ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวผิดปกติอะไร ’
เมื่อวานหลังจากได้รู้ความจริงว่า กงเสี่ยวเหมยถูกลบความทรงจำไปบางส่วน จ้าวเทียนจึงวางแผนส่งกองทัพหุ่นเชิดของมหาเทพจูเซียน ออกไปให้ไกลจากสถานที่สำคัญที่สุดเพื่อป้องกันความเสี่ยง
เนื่องจากตอนนี้ยอดเขาคุนหลุน ได้ถูกเทพมังกรทั้งเก้าเปลี่ยนให้กลายเป็นเขตอาคมผนึกกักขังขนาดใหญ่ ไว้ใช้จัดการกับร่างแยกของเต๋าสวรรค์ ขอเพียงอีกฝ่ายกล้าบุกเข้ามาก็จะไม่มีวันหลบหนีออกไปได้แน่นอน
หน้าที่เพียงหนึ่งเดียวของจ้าวเทียน ก็คือล่อให้เต๋าสวรรค์ส่งร่างแยกที่แข็งแกร่งลงมาก็เท่านั้น ยิ่งดึงดูดความสนใจฝ่ายตรงข้ามได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งดี จะได้เปิดโอกาสให้จักรพรรดินีปิงเยว่และโฮ่วอี้โจมตีมหาวิหารสวรรค์ได้สำเร็จ
‘ หืม ว่าแต่ตอนที่อยู่ในมิติลับกับท่านอาจารย์มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ทำไมฉันรู้สึกเหมือนตัวเองลืมเรื่องราวที่สำคัญมากบางอย่างไป ’
สิ่งที่จ้าวเทียนจำได้ ก็คือเรื่องที่อาจารย์ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเคล็ดวิชาฝึกตน พร้อมทั้งมอบแผ่นป้ายเจ้าสำนักให้ในตอนท้าย จากนั้นพอรู้ตัวอีกทีเขาก็กลับมานอนอยู่ในห้องของตัวเองแล้ว
เมื่อจ้าวเทียนพยายามขุดคุ้ยความทรงจำที่หายไป ความรู้สึกเลือนรางบางอย่างก็ปรากฏขึ้น มันคืออ้อมกอดอันอ่อนโยน และสัมผัสอันแผ่วเบาที่ริมฝีปาก
‘ นี่ฉันกำลังคิดบ้าอะไรอยู่ มันจะต้องเป็นความฝันแน่นอน ผู้หญิงที่น่าเคารพนับถืออย่างท่านอาจารย์จะมาจูบฉันได้อย่างไร ’
จ้าวเทียนสัมผัสริมฝีปากตนเองพร้อมกับฝืนยิ้มออกมา ดูเหมือนช่วงนี้เขาจะขาดความยับยั้งชั่งใจจริงๆ แค่ได้มีโอกาสเที่ยวสองต่อสองกับท่านอาจารย์เข้าหน่อย ก็เก็บเอาไปฝันอย่างเลอะเลือนเสียแล้ว
“ เอ่อ บอสครับ ทุกคนกำลังรออยู่นะ ” เฉินจิ้งพูดเตือนขึ้น เพราะเห็นจ้าวเทียนยืนยิ้มสีหน้าเหม่อลอยอยู่คนเดียว
“ อะแฮ่ม โทษที เมื่อครู่นี้ฉันกำลังรวบรวมสมาธิอยู่ เอาล่ะ มาเริ่มแผนการของพวกเรากันเถอะ ” พูดจบ จ้าวเทียนก็กวาดสายตาไปทางลี่เหยาเหยาเล็กน้อย ก่อนจะพุ่งทะยานขึ้นฟ้าไปทันที
“ หึหึ ไม่นึกว่าคนอย่างบอสจะมีมุมนี้เหมือนกันแฮะ ” เฉินจิ้งหัวเราะออกมาเบาๆ เขามองออกว่าเมื่อครู่จ้าวเทียนกำลังคิดถึงเรื่องผู้หญิงอยู่ เลยจงใจขยับมายืนบังสายตาคนอื่นเอาไว้ให้
‘ ในเวลาสำคัญแบบนี้ เขากลับไม่รู้สึกกดดันเลยสินะ สมแล้วที่เป็นไอดอลในดวงใจฉัน ’
เฉินจิ้งพยักหน้าอย่างชื่นชม เขารู้สึกว่าตัวเองติดตามคนไม่ผิดจริงๆ
ทางด้านลี่เหยาเหยา ที่เห็นจ้าวเทียนหันมามองตัวเองแวบหนึ่ง ก็ได้เกิดความรู้สึกแปลกๆขึ้นมา แต่เพราะตอนนี้เธอกำลังแอบจับตาดูกงเสี่ยวเหมยอยู่ จึงไม่ได้ให้ความสนใจมากมาย
‘ ขออย่าให้มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเลยนะ ฉันไม่อยากต่อสู้กับพี่เสี่ยวเหมยจริงๆ ’
ลี่เหยาเหยานึกอ้อนวอนอยู่ในใจ เมื่อวานแค่ให้หลอกลวงอีกฝ่ายเธอก็รู้สึกผิดมากพออยู่แล้ว ถ้าหากสุดท้ายต้องมาใช้แผนการที่เตรียมไว้จริงๆ ความสัมพันธ์อันดีที่ผ่านมาคงถูกทำลายลงไม่มีเหลือแน่
ในเวลาเดียวกัน
ร่างของจ้าวเทียนพุ่งสูงขึ้นไปบนฟ้าเรื่อยๆ พร้อมกับระเบิดพลังออกมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงขีดจำกัดของขอบเขตเซียน
โลกภายในของเขาได้ปลดปล่อยคลื่นพลังมหาศาลออกมา ทำให้ชั้นบรรยากาศสั่นสะเทือนเป็นวงกว้าง ท้องฟ้าเริ่มพังทลายเหมือนกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
“ เคล็ดกายาอมตะไม่ดับสูญ! ”
วูป!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน