จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 58

ณ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติ

ตอนนี้เวลาผ่านไปเกือบ 30 นาทีแล้ว หลังจากที่หลินซิงเสวียนกับตุ๊กตาหมีตัวนั้นได้กลับไป แต่ชายสองคนที่อยู่ในห้องยังคงนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

“ ผู้อาวุโสต้วนมู่…คุณสัมผัสพลังของผู้อาวุโสหลินได้ไหม ” ท่านผู้นำถามขึ้นด้วยความกังวล

ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นห่วงในความปลอดภัยของตระกูลหลินอีกแล้ว เพราะหลินซูซินไม่ใช่คนที่จะตัดสินใจทำอะไรโดยไม่มั่นใจ

ถ้าเธอบอกว่าสามารถจัดการพวกศัตรูที่จ้องจะเล่นงานตระกูลหลินได้ นั่นก็หมายความว่าเธอทำได้อย่างที่บอกจริงๆ แต่เขากลัวว่าปักกิ่งอาจจะเกิดการนองเลือดครั้งใหญ่ขึ้น

โดยเฉพาะตระกูลหลี่ที่เป็นเหมือนแกนนำของกลุ่มศัตรูของตระกูลหลิน…

“ ฉันจับสัมผัสพลังของเธอไม่ได้เลย…ตอนนี้เธอเหลือเพียงดวงวิญญาณเท่านั้น พลังปราณทั้งหมดสูญสิ้น ตามหลักแล้วเธอไม่น่าจะต่อสู้ได้อีก ”

“ ถึงแม้จะคิดแบบนั้น…แต่หากให้สู้กับเธอตอนนี้ ฉันก็มีความมั่นใจเพียงแค่ 5 ส่วนเพราะสัญชาตญาณของฉันสัมผัสถึงอันตรายจากเธอได้ ” ต้วนมู่เฉียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

ท่านผู้นำที่ได้ยินแบบนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นตกตะลึง เพราะตามข้อมูลที่เขาได้รู้มา ต้วนมู่เฉียนเป็นยอดฝีมืออันดับ 1 ในประเทศมาตั้งแต่สมัยก่อนเปลี่ยนระบบการปกครอง

ย้อนไปตั้งแต่สมัยที่ท่านประธานเหมาก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนเมื่อห้าสิบกว่าปีก่อน ต้วนมู่เฉียนก็ดำรงตำแหน่งผู้อาวุโสสูงสุดและผู้คุ้มกันลับของประเทศจีนมาโดยตลอด

ตอนนี้ตำแหน่งประธานาธิบดีได้เปลี่ยนมา 7 คนแล้ว แต่ต้วนมู่เฉียนก็ยังคงทรงอำนาจเช่นเดิม ตำแหน่งของเขาไม่มีใครสั่นคลอนได้

“ ผู้อาวุโสหลิน ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์เมื่อ 12 ปีก่อน เธอมีพลังฝีมืออยู่ในระดับไหนเหรอ ท่านพอจะบอกผมได้ไหม ” ท่านผู้นำถามขึ้น

ต้วนมู่เฉียนเงียบไปครู่หนึ่ง แววตาของเขาหวนรำลึกถึงอดีตที่ผ่านมา

“ เมื่อ 300 ปีก่อน…ตอนที่สำนักโบราณพวกนั้นปรากฏตัวขึ้นมาครั้งแรก เวลานั้นราชวงศ์ชิงอยู่ในช่วงที่จักรพรรดิองค์ใหม่เพิ่งขึ้นครองราชย์ ทำให้ไม่สามารถต่อต้านการโจมตีของพวกสำนักโบราณได้”

“ ตอนนั้นฉันได้รวบรวมยอดฝีมือในยุทธภพ ตั้งเป็นสมาพันธ์ชาวยุทธเพื่อร่วมมือกับทหารเข้าต่อสู้กับคนในสำนักโบราณ พวกเรานั้นได้เปรียบในเรื่องจำนวนคนที่มากกว่าอีกฝ่ายเป็นพันเท่า ”

“ แต่ผลการต่อสู้ในครั้งนั้นกลับไม่เป็นไปตามที่พวกเราวางแผนไว้ ศิษย์จากสำนักโบราณเพียงคนเดียวสามารถรับมือกับทหารนับร้อยพร้อมอาวุธได้สบาย ส่วนพวกผู้อาวุโสนั้นยังเหนือกว่าเป็นสิบเท่า ”

“ เพียงเวลาแค่ไม่ถึงเดือน เมืองต่างๆก็ถูกยึดครองจนหมดสิ้น ยกเว้นแต่เพียงเหมืองหลวง ตัวฉันเองก็ถูกสามเจ้าสำนักโบราณลอบโจมตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ”

“ หลังจากที่พวกเราตั้งใจจะปกป้องเมืองหลวงจนตัวตาย หลินซูซินก็ปรากฏตัวขึ้น เธออาศัยตำแหน่งผู้นำของสี่ตระกูลใหญ่ ระดมยอดฝีมือระดับสูงหลายร้อยคน เข้าลอบโจมตีพวกสำนักโบราณ ”

“ ด้วยศาสตร์แห่งการทำนายของหลินซูซิน ทำให้พวกเรารู้ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของศัตรูและเป็นฝ่ายไล่ต้อนพวกมันจนพ่ายแพ้ ครั้งนั้นพวกเราสามารถสังหารผู้อาวุโสระดับสูงในสำนักโบราณไปได้ถึง 10 คน ”

“ หากวัดกันที่ระดับฝีมือฉันเหนือกว่าเธออยู่เพียงเล็กน้อย แต่หากเธอต้องการกำจัดฉันจริงๆ มันก็ไม่ได้ยากสำหรับเธอเลย ”

“ หลังจากการต่อสู้ครั้งนั้น…เธอก็วางมือจากตำแหน่งหัวหน้าตระกูล แล้วเก็บตัวฝีกฝนมาตลอด 300 ปี ”

“ จนเมื่อฉันได้พบกับเธออีกครั้ง…พลังของเธอก็อยู่ห่างจากขอบเขตเซียนนภาในตำนานเพียงครึ่งก้าวเท่านั้น ” ต้วนมู่เฉียนอธิบายขึ้นด้วยท่าทีให้ความเคารพ

ตั้งแต่ที่เซียนนภาคนล่าสุดขึ้นสู่แดนสวรรค์ ตอนนี้ก็ผ่านมาได้กว่า 2,000 ปี แล้ว แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถไปถึงขอบเขตนั้นได้อีกเลย

จนเมื่อเวลาผ่านไป…

ขอบเขตเซียนนภาก็กลายเป็นเพียงตำนานเท่านั้น…

เมื่อได้ฟังสิ่งที่ต้วนมู่เฉียนพูด ท่านผู้นำก็มีสีหน้าเคร่งเครียดทันที เพราะเขาเข้าใจความแข็งแกร่งของชายชราตรงหน้าดี

ในตอนที่เขาเพิ่งรับตำแหน่งประธานาธิบดี ต้วนมู่เฉียนเคยออกไปปฏิบัติภารกิจลับที่สนามรบในตะวันออกกลางครั้งหนึ่ง

ภาพที่ดาวเทียมสอดแนมถ่ายไว้ได้คือ เศษซากของรถถังนับสิบคันที่ถูกทำลายเป็นชิ้นๆ กับเลือดที่ไหลนองไปทั่วสนามรบ กองกำลังติดอาวุธของฝ่ายศัตรูนับพันพินาศสิ้นในวันเดียว

ถ้าหากสิ่งที่หลินซูซินพูดออกมาเป็นความจริง ว่าเธอสามารถฟื้นคืนพลังได้ครึ่งหนึ่งแล้ว พวกศัตรูที่กล้าท้าทายเธอคงจบไม่สวยแน่นอน

“ เราควรจัดการคนพวกนั้นก่อนที่เรื่องมันจะบานปลายไหม ” ท่านผู้นำถามขึ้น

“ คุณแค่ส่งคำเตือนไปก็พอ…ฉันจะเป็นคนดูแลเรื่องนี้เอง ” ต้วนมู่เฉียนตอบด้วยสีหน้ามั่นใจ

ด้วยกองกำลังพิเศษทั้ง 4 เขามีความมั่นใจว่าจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ในสมัยนี้ได้มีการค้นคว้าอาวุธเพื่อจัดการกับพวกที่อยู่ในขอบเขตเซียนโดยเฉพาะ

มันไม่ใช่ยุคที่ผู้ฝึกตนจะสามารถทำอะไรได้ตามใจอีกแล้ว…

“ แล้วเรื่องของชายหนุ่มคนนั้นล่ะ” ท่านผู้นำถามต่อ

“ สำหรับชายหนุ่มที่ชื่อ จ้าวเทียน…ฉันได้ตรวจสอบข้อมูลของเขามาซักพักแล้ว ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตวิทยาของหน่วยพิเศษ ได้ทำการวิเคราะห์นิสัยของเขาออกมา ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน