จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 589

ตอนนี้สงครามบนโลกมนุษย์ได้จบลงแล้ว กองทัพวัลคีรีและกองทัพแอสการ์ดเดี้ยนได้ถูกสังหารจนหมดสิ้นไม่มีเหลือ แม้แต่ บรุนฮิลด์หัวหน้าสิบสามวัลคีรีชั้นสูงก็ยังต่อสู้จนตัวตายไปพร้อมกับพี่น้องคนอื่นๆ

ส่วนกองทัพอมตะห้าแสนนายนั้น ได้เข้าไปอยู่ในท้องตุ๊กตาหมียักษ์เรียบร้อย ทั้งดวงวิญญาณและกายทิพย์ของพวกเขา ถูกเผาผลาญโดยเปลวเพลิงสีฟ้าอย่างต่อเนื่อง

จนสุดท้าย กองทัพอมตะก็พังทลายลงอย่างสมบูรณ์ กลายเป็นพลังงานมหาศาลให้ตุ๊กตาหมีดูดกลืนไปเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง จากนั้น ทั้งตัวมันและหลินซิงเสวียนก็ได้กลายเป็นดักแด้ไปอีกครั้ง

“ ผู้อาวุโสเสวี่ยหลง คุณคาดเดาตัวตนที่แท้จริงของซิงเสวียนออกไหม ” ลี่เหยาเหยาถามขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

“ ไม่เลย ข้ารับรู้เพียงแค่นางไม่ใช่ศัตรูเท่านั้น ” เสวี่ยหลงตอบอย่างไม่ค่อยแน่ใจนัก เขาไม่เคยเผชิญหน้ากับตัวตนลึกลับแบบนี้มาก่อน

ถ้าไม่ใช่เพราะมีทักษะพิเศษ ที่สามารถสัมผัสได้ถึงจิตมุ่งร้ายและความคิดด้านลบของศัตรู เขาก็คงไม่กล้าปล่อยให้หลินซิงเสวียนทำตามใจแน่นอน

“ ทุกคน! ดูที่รังไหมสีทองซิ ดูเหมือนมันกำลังจะระเบิดออกมาเลย ” เฉินจิ้งตะโกนออกมาเสียงดัง ทำให้คนอื่นๆรีบหันไปมองทันที

ครืนนน! บูมมมม!

ไวเท่าความคิด รังไหมสีทองได้ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะระเบิดออกมาเสียงดัง ส่งผลให้พลังงานฟ้าดินต้นกำเนิดจำนวนมหาศาลถูกปลดปล่อยออกมา

แวบ!

ร่างจ้าวเทียนได้พุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ใช้ฝ่ามือทั้งสองสร้างวังวนขนาดยักษ์ดูดกลืนพลังงานฟ้าดินต้นกำเนิดสามส่วนเข้ามา ปรากฏเป็นเขตแดนศักดิ์สิทธิ์ปกคลุมกองกำลังสมาพันธ์เซียนและกองทัพพันธมิตรทั้งหมด

“ ไม่มีเวลาแล้ว รีบดูดซับพลังงานพวกนี้เร็ว ” จ้าวเทียนตะโกนขึ้นเสียงดัง เขาต้องการใช้โอกาสนี้เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ทุกคน

“ นี่มัน ช่างเป็นพลังงานที่บริสุทธิ์จริงๆ เหนือกว่าตอนที่ข้าทลายประตูเซียนเสียอีก ” เทพกระบี่รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก

เขาสัมผัสได้ว่าโลกภายในของตัวเองกำลังฟื้นฟูด้วยความเร็วเหนือขีดจำกัด ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงพลังชีวิตที่เคยแห้งเหือดเช่นกัน ทำให้รูปโฉมกลับคืนมาอยู่ในวัยหนุ่มในพริบตา

“ อืมมม ความแข็งแกร่งของข้ากำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ”

“ ไม่จริงน่า นี่ข้ากำลังจะทลายขอบเขตอีกครั้งงั้นเหรอ ”

“ ท่านผู้นำจ้าวเทียน จงเจริญ! ”

เหล่าผู้ฝึกตนร้องตะโกนออกมาด้วยความดีใจ ทุกคนพากันนั่งสมาธิใช้เคล็ดวิชาดูดซับพลังงานฟ้าดินต้นกำเนิดอย่างมีความสุข

“ หืม นี่มัน ” ซูเปอร์แมนฉีกยิ้มขึ้น ก่อนจะตะโกนออกมาเสียงดัง

“ สมาคมซูเปอร์ฮีโรทั้งหมด จงรีบทำตามเหล่าผู้ฝึกตนซะ พลังงานพวกนี้มีประโยชน์กับพวกเราเช่นกัน ”

เวลานี้ไม่มีใครมัวลังเลอีกต่อไปแล้ว ทั้งผู้ฝึกตน ผู้มีพลังพิเศษ ปีศาจ สัตว์อสูร หรือแม้แต่คนธรรมดา ต่างพากันคว้าโอกาสดีๆที่จ้าวเทียนมอบให้อย่างเต็มความสามารถ

ซึ่งก็แน่นอนว่า ผู้ได้รับประโยชน์ที่สุดนั้นคือลี่เหยาเหยากับเฉินจิ้ง ซึ่งเป็นเซียนนภาขั้นสูงสุดอยู่แล้ว เมื่อได้รับการส่งเสริมจากจ้าวเทียน ทั้งสองก็เริ่มหลอมรวมแก่นแท้เข้ากับโลกภายใน เพื่อบรรลุขอบเขตเซียนทิพย์ทันที

“ ให้เลือกผสานแก่นแท้ระดับต้น กับแก่นแท้ระดับกลางเข้าไปในโลกภายในก่อน อย่าเพิ่งรีบหลอมรวมแก่นแท้ระดับสูงเข้าไป จนกว่าฉันจะหาขั้นตอนที่เหมาะสมได้ ” เสียงของจ้าวเทียนได้ดังก้องเข้าไปในจิตวิญญาณของเซียนนภาทุกคน

วิธีการตัดแบ่งโลกภายในตัวเอง มันทั้งอันตรายและสิ้นเปลืองมากเกินไป เขาจึงไม่อยากแนะนำให้ทุกคนทำตาม

ทันใดนั้น

ครืนนนน!

โลกทั้งใบก็เหมือนถูกปลุกตื่นจากการหลับใหลอันยาวนาน พลังงานฟ้าดินต้นกำเนิดมหาศาลที่ปกคลุมท้องฟ้า

ได้กลายเป็นจุดแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วน จมหายเข้าไปใน ภูเขา ท้องทะเล พื้นดิน และสิ่งมีชีวิตทั้งมวลที่ถือกำเนิดจากโลกใบนี้

บูมมมม!

“ นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผู้นำสมาพันธ์จ้าวหมายความว่าไงกัน ”

“ ศัตรู? ผู้รุกราน? พวกเราก็ต้องต่อสู้ด้วยงั้นเหรอ ”

“ อ้ากกก ไม่เอา ฉันเป็นนักธุรกิจนะ ไม่ใช่นักรบ จะให้ไปสู้กับศัตรูได้อย่างไร ”

เมื่อทุกคนเข้าใจเรื่องราวทั้งหมด ก็เกิดความสับสนวุ่นวายขึ้นทั่วทุกมุมโลกทันที ส่วนใหญ่หยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาตำรวจ ทหาร หรือแม้แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาล เพื่อขอความช่วยเหลือ

บางส่วนก็รีบเก็บเสื้อผ้าเงินทอง หลบหนีออกไปจากเมืองใหญ่หาสถานที่ซ่อนตัวในป่าเขา นี่เป็นปฏิกิริยาตอบสนองของคนปกติ ที่เคยชินกับการใช้ชีวิตสงบสุขมานาน ทำให้ขาดความกล้าในการเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

แตกต่างกับเผ่าพันธุ์ปีศาจและสัตว์อสูร ที่ดิ้นรนเอาชีวิตรอดในสังคมมนุษย์มานาน ทำให้มีจิตวิญญาณในการต่อสู้สูงกว่ามาก

เมื่อเสียงของจ้าวเทียนขาดหายไป พวกเขาก็ออกหาสถานที่ห่างไกลผู้คน แล้วรีบดูดซับพลังงานฟ้าดินกันอย่างกระตือรือร้นทันที

สิบนาทีผ่านไป

เมื่อจ้าวเทียนลองใช้สัมผัสวิญญาณตรวจสอบดู สุดท้ายก็มีมนุษย์ธรรมดาเพียงยี่สิบเปอร์เซ็นเท่านั้น ที่เลือกทำตามคำแนะนำของเขา

โดยการค้นหาเคล็ดวิชาฝึกตนในอินเตอร์เน็ต และเปิดทีวีดูรายการถ่ายทอดสดขั้นตอนดูดซับพลังงานฟ้าดิน ที่รัฐบาลแต่ละประเทศทยอยกันออกอากาศแปลเป็นภาษาต่างๆ

“ ช่างเป็นพวกโง่เขลาเบาปัญญาจริงๆ แทนที่จะแสวงหาความแข็งแกร่งเพื่อรักษาชีวิตและทรัพย์สินตนเอง กลับกรีดร้องวุ่นวายขอให้ผู้อื่นมาปกป้องดูแล ” เสวี่ยหลงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดูถูก

เพราะตัวเขาเป็นอาวุธมีชีวิตเลยไม่จำเป็นต้องดูดซับพลังงานฟ้าดินแบบคนอื่นๆ เลยเลือกที่จะมาสังเกตการณ์อยู่กับจ้าวเทียนแทน

“ ในปัจจุบัน อารยธรรมของมนุษย์โลกยืนอยู่บนจุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารมานาน ทำให้ไม่เคยเผชิญหน้ากับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่ามาก่อน เมื่อเกิดสงครามขึ้นก็เลยคิดแต่จะเอาตัวรอดเป็นเรื่องธรรมดา ” พูดจบ จ้าวเทียนก็ถอนหายใจเบาๆ

เขาได้มอบโอกาสในการเอาชีวิตรอดให้กับทุกคนแล้ว ส่วนจะมีซักกี่คนที่สามารถคว้าเอาไว้ได้นั้น มันก็ไม่ใช่ปัญหาที่ตัวเขาต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวอีก

ปล่อยให้คณะผู้นำรัฐบาลประเทศต่างๆ รับผิดชอบกันไปเองน่าจะดีที่สุด