จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 588

ย้อนกลับไปยี่สิบนาทีก่อนหน้านี้

ภายในรังไหมสีทองขนาดยักษ์ ร่างกายจ้าวเทียนถูกห่อหุ้มไปด้วยพลังงานบริสุทธิ์ที่แสนอบอุ่น มันช่างให้ความรู้สึกที่ผ่อนคลายเป็นอิสระจากข้อผูกมัดทั้งมวล ราวกับได้กลายเป็นทารกที่อยู่ในครรภ์มารดาไม่มีผิด

‘ ฉันเข้าใจแล้ว ว่าทำไมกายทิพย์ของขอบเขตเซียนนภาถึงแข็งแกร่งกว่าขอบเขตแดนเทพมาก มันเป็นเพราะพลังงานฟ้าดินต้นกำเนิดที่ผ่านการกลั่นหลอมให้บริสุทธิ์ ปราศจากสิ่งเจือปนพวกนี้นี่เอง ’

พอได้ลองสัมผัสด้วยตนเอง จ้าวเทียนก็รู้สึกนับถือผู้คิดค้นวิถีเซียนเป็นอย่างมาก พวกเขาใช้การทำลายกฎสวรรค์ที่ผูกมัดร่างเพื่อกระตุ้นให้เกิดทัณฑ์สายฟ้า

จากนั้น ก็ใช้พลังของสายฟ้าสวรรค์ขจัดสิ่งปนเปื้อนในร่างกายตัวเอง แล้วค่อยหลอมรวมเข้ากับพลังงานฟ้าดินต้นกำเนิดเป็นขั้นตอนสุดท้าย ทำให้กายทิพย์ของเซียนนภาที่ถือกำเนิดใหม่ มีความบริสุทธิ์เหนือกว่าเหล่าเทพบนแดนสวรรค์มาก

จ้าวเทียนกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า ต่อไปในอนาคตเมื่อวิถีเซียนได้ถูกแพร่หลายออกไปเป็นวงกว้าง มันจะต้องโค่นล้มระบบฝึกตนเก่าๆ จางหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์แน่นอน

‘ บางที นี่อาจจะเป็นเหตุผลสำคัญที่วิถีเซียนไม่ถูกยอมรับบนแดนสวรรค์สินะ คงไม่มีผู้ยิ่งใหญ่คนไหนหรอก ที่จะยินยอมให้ผู้ฝึกตนรุ่นหลังเหยียบหัวตัวเองขึ้นไป ’

ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรือเทพเจ้า ต่างก็มีกิเลสตัณหาแอบซ่อนอยู่ในหัวใจทั้งสิ้น เมื่อได้รับอำนาจวาสนามา ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่อยากจะครอบครองมันให้นานที่สุด

ครืนน!

โลกภายในของจ้าวเทียน ได้รับการเติมเต็มจากพลังงานฟ้าดินต้นกำเนิดอย่างรวดเร็ว จนกระทั่ง มันได้วิวัฒนาการขึ้นเป็นโลกภายในที่สมบูรณ์

ซึ่งนั่นก็ส่งผลให้กายเนื้อของจ้าวเทียน ไม่อาจแบกรับพลังอันมหาศาลที่เพิ่มขึ้นมาได้อีกต่อไปและแตกสลายไปทันที

ทันใดนั้น

วิ้งงง!

จุดแสงสีทองจำนวนนับไม่ถ้วนได้ปรากฏขึ้น รอบๆโลกภายในของจ้าวเทียน ก่อนจะถูกเจตจำนงของเขาดึงดูดให้มาหลอมรวมกันเพื่อสร้างร่างกายใหม่

ขั้นตอนนี้ต้องใช้ทั้งพลังสมาธิและความแน่วแน่ของจิตใจเป็นอย่างมาก เพราะหากเผลอวอกแวกเพียงนิดเดียว กายทิพย์ที่กำลังถูกสร้างขึ้นก็จะพังทลายลงทันที เช่นเดียวกับเซียนเกือบสองพันคนที่ล้มเหลวไปในการทลายนภาวันแรก

‘ ทีนี้ก็ถึงขั้นตอนสำคัญแล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องยากสำหรับฉันก็เถอะ แต่ก็รู้สึกตื่นเต้นนิดๆแฮะ ’

จ้าวเทียนได้ใช้พลังจิตนำสมบัติล้ำค่าที่เตรียมไว้ออกมาเรื่อยๆ ทั้งโลหิตแก่นแท้ที่ขอมาจากเทพมังกรอ๋าวเฟิงก่อนหน้านี้ น้ำพุต้นกำเนิดหยินหยาง หัวใจหงส์เพลิงอมตะ

สุดท้ายก็คือ ไขกระดูกสันหลังและเส้นเอ็นมังกรบรรพกาล ที่ท่านอาจารย์ยึดมาจากคลังสมบัติราชวงศ์จักรพรรดิโลกอสูร ทั้งหมดถูกนำมาใช้ยกระดับกายทิพย์ของจ้าวเทียนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

ผ่านไปสิบลมหายใจ

แวบ!

ร่างอันเปลือยเปล่าของจ้าวเทียนปรากฏขึ้นภายในดวงแสงสีทอง ถึงแม้ลักษณะภายนอกของเขาจะไม่ค่อยเปลี่ยนไปมากนัก

แต่ทั้งกระดูกเลือดเนื้อรวมไปถึงอวัยวะภายในได้ถูกยกระดับจนถึงขีดสุด ราวกับเป็นร่างกายของอสูรเทวะยุคบรรพกาลก็ไม่ปาน ซึ่งทรงพลังเหนือกว่าสัตว์เทพในยุคสมัยนี้มากนัก

บูมม!

เซียนนภาขั้นต้น!

เซียนนภาขั้นกลาง!

เซียนนภาขั้นสูง!

จนกระทั่ง เมื่อระดับพลังของจ้าวเทียนขึ้นมาถึงเซียนนภาขั้นสูงสุด เขาก็ทำตามขั้นตอนที่เคยเรียนรู้มา โดยการหลอมรวมโลกภายในเข้ากับแก่นแท้เพื่อทะลวงขอบเขตเซียนทิพย์ทันที

แวบ!

ที่ด้านหลังจ้าวเทียน มีดวงแสงสีทองเปล่งกระกายเจิดจ้าถือกำเนิดขึ้น มันเริ่มดูดกลืนแก่นแท้แห่งเปลวเพลิงและพลังงานฟ้าดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว จนเมื่อบรรลุสู่ความสมบูรณ์แบบ ก็วิวัฒนาการกลายเป็นโลกทิพย์แห่งเปลวเพลิงในที่สุด

บูมมมม!

เซียนทิพย์ระดับหนึ่ง!

ความแข็งแกร่งของจ้าวเทียนเพิ่มขึ้นเกือบสิบเท่า ในตอนนี้ต่อให้เผชิญหน้ากับเทพโลการะดับหกขั้นสูงสุดเขาก็ไม่กลัว ต่อให้ไม่อาจเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ อีกฝ่ายก็ไม่สามารถสร้างบาดแผลเขาได้เช่นกัน

‘ ในที่สุดฉันก็ทำสำเร็จ แต่ถ้าจะต่อสู้กับเต๋าสวรรค์เพียงแค่นี้มันยังไม่พอ ’

ในเมื่อมีขุมพลังฟ้าดินมหาศาลอยู่ในมือ จ้าวเทียนจึงตัดสินใจเดินหน้าต่อ โดยการหลอมรวมอีกเก้าแก่นแท้ที่เหลือเข้าไป เพื่อบรรลุขอบเขตเซียนทิพย์ระดับสิบ คนแรกและคนเดียวในประวัติศาสตร์

แต่ทว่า

‘ ไม่ซิ วิธีนี้ไม่ถูกต้อง ฉันสัมผัสได้ว่าโลกทิพย์ภายในของฉัน สามารถรองรับแก่นแท้ได้อีกเพียงสองชนิดเท่านั้น ถ้ามากกว่านี้มันคงระเบิดแน่นอน ’

‘ ผิดพลาดตรงไหนงั้นเหรอ ทำไมไม่เหมือนกับสิ่งที่ผู้คิดค้นวิถีเซียนบันทึกไว้ หรือผู้อาวุโสหยวนตี้จะบอกข้อมูลฉันผิด ’

ตามที่ผู้อาวุโสหยวนตี้ ซึ่งเป็นจิตวิญญาณพิทักษ์คลังสมบัตินิกายจูเซียนได้กล่าวเอาไว้ มีอัจฉริยะผู้คิดค้นวิถีเซียนสองคนเท่านั้น ที่สามารถทะลวงขอบเขตเซียนทิพย์ได้สำเร็จ ส่วนอีกสามคนที่เหลือล้มเหลวจนโลกภายในระเบิดตาย

ปัญหาคือ สองคนที่ทลายขอบเขตเซียนทิพย์สำเร็จ ได้ขาดการติดต่อไปตั้งแต่สองพันปีก่อนแล้ว จนถึงปัจจุบันก็ยังคงไร้ข่าวคราว ดังนั้นเมื่อเกิดปัญหาขึ้น จ้าวเทียนก็ไม่รู้จะไปสอบถามเอาจากใครดี

‘ ถึงขั้นนี้แล้ว คงหวังพึ่งได้เพียงตัวเองเท่านั้นสินะ ’

จ้าวเทียนเริ่มพิจารณาขั้นตอนทุกอย่างใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่การสร้างโลกภายในของขอบเขตเซียนนภา ไปจนถึงการหลอมรวมแก่นแท้ของขอบเขตเซียนทิพย์

โดยนำมาเปรียบเทียบ กับข้อมูลที่เคยศึกษามาทั้งสองชีวิตของตนเอง รวมไปถึงแนวคิดต่างๆที่อ้างอิงจากในบันทึกโบราณ

เมื่อเวลาผ่านไป จ้าวเทียนก็พบว่าปัญหามันไม่ได้เกิดจากโลกภายในของเขามีขนาดเล็กเกินไป แต่มันผิดที่ทฤษฎีตั้งแต่แรก

ผู้คิดค้นวิถีเซียน น่าจะยังไม่ได้บรรลุแก่นแท้ระดับสูงหรือระดับสูงสุด ทำให้พวกเขาคิดกันไปเองว่า ทุกคนจะสามารถหลอมรวมแก่นแท้เก้าชนิด ใส่ลงไปในโลกภายในได้เหมือนกัน

ในความเป็นจริงแล้ว แก่นแท้ระดับต้นและระดับสูงมีพลังแตกต่างกันมาก นั่นจึงเป็นสาเหตุ ที่เมื่อหลอมรวมแก่นแท้เปลวเพลิงขั้นสูงเข้าไป มันก็กินพื้นที่โลกภายในจ้าวเทียนไปถึงหนึ่งในสามอย่างที่เห็น

‘ เรื่องนี้คงโทษพวกเขาไม่ได้หรอก ด้วยทรัพยากรและเวลาที่มีจำกัด การจะคิดค้นสิ่งใหม่ๆโดยไม่เกิดข้อผิดพลาดขึ้นมาเลย คงเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ’

ยิ่งเวลาผ่านไป สีหน้าจ้าวเทียนก็เริ่มหมองคล้ำลงเรื่อยๆ เพราะหากเขาทำตามขั้นตอนเดิม ก็จะบรรลุได้เพียงขอบเขตเซียนทิพย์ระดับสามเท่านั้น ซึ่งก็คงพอต่อกรกับเทพโลกาขั้นเก้าได้บ้าง แต่จะไม่มีส่วนช่วยใดๆในการต่อสู้กับเต๋าสวรรค์เลย

ในทางกลับกัน หากจ้าวเทียนยอมละทิ้งขุมพลังฟ้าดินที่เหลือ แล้วออกไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อหาวิธีสร้างแนวทางใหม่ๆ ก็จะสูญเสียโอกาสในการเพิ่มความแข็งแกร่งแบบก้าวกระโดดไปทันที

‘ ในเวลาแบบนี้ หากมีเทพมังกรอ๋าวเฟิงผู้รอบรู้อยู่ด้วยก็คงจะดีไม่น้อย ’

!!

‘ เดี๋ยวนะ เทพมังกรอ๋าวเฟิง ร่างแยกของมังกรบรรพกาลมิติโกลาหลที่แบ่งแยกดวงวิญญาณออกเป็นเก้าส่วนงั้นเหรอ บางทีฉันอาจจะใช้วิธีนี้ได้ ’

‘ ทุกคนกำลังรออยู่ ไม่มีเวลาให้ลังเลอีกต่อไป ลองเสี่ยงดูเลยก็แล้วกัน ’

วิ้งงง!

ไวเท่าความคิด จ้าวเทียนได้เรียกกระบี่ราชันสวรรค์ออกมา ก่อนที่จะสั่งให้มันค่อยๆตัดแบ่งโลกทิพย์ภายในของตัวเองออกเป็นสามส่วน โดยพยายามให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด

อ้ากกกกก!

ถึงแม้จะรู้สึกเจ็บปวดทุกข์ทรมานมากขนาดไหน จ้าวเทียนก็กัดฟันทนด้วยเจตจำนงอันแรงกล้าที่จะแข็งแกร่งขึ้น ทั้งหยดน้ำศักดิ์สิทธ์แห่งชีวิตและโอสถล้ำค่าต่างๆ ได้ถูกนำมาใช้รักษาตัวเองอย่างต่อเนื่อง

‘ ตอนนี้แหละ! ’

จ้าวเทียนได้หลอมรวมแก่นแท้มิติและแก่นแท้สังหาร เข้าไปในสองชิ้นส่วนโลกทิพย์ภายในที่ยังว่างอยู่ทันที เพื่อให้กลายเป็นแกนกลางของพวกมัน

จากนั้นเขาก็ดึงดูดพลังงานฟ้าดินจำนวนมหาศาลเข้ามา เพื่อฟื้นฟูชิ้นส่วนทั้งสามให้กลับมาเป็นโลกทิพย์ภายในที่สมบูรณ์

น่าเสียดายที่ความพยายามครั้งนี้ของเขากลับสูญเปล่า ถึงแม้สองแก่นแท้จะสามารถหลอมเข้าไปได้สำเร็จ แต่ชิ้นส่วนทั้งสามกลับไม่ฟื้นฟูขึ้นมาเป็นโลกทิพย์ภายในสามดวงอย่างที่คิด

‘ คงไม่มีทางเลือกสินะ เดิมทีฉันจะเก็บของสิ่งนี้ไว้ใช้ตอนบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเซียน ไม่นึกเลยต้องเอามาใช้ในสถานการณ์นี้ ’

แกร่ก!

จ้าวเทียนได้นำผลึกวิญญาณโกลาหลสามก้อน ใส่เข้าไปในชิ้นส่วนโลกทิพย์ของตัวเอง ซึ่งพลังของพวกมันก็ถูกดูดกลืนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้ชิ้นส่วนทั้งสามฟื้นฟูกลายเป็นโลกทิพย์ภายในที่สมบูรณ์ในพริบตา

บูมม!

เซียนทิพย์ระดับสอง!

เซียนทิพย์ระดับสาม!

มันยังไม่จบเพียงเท่านี้ จ้าวเทียนตัดสินใจหลอมรวมแก่นแท้ที่เหลือเข้าไปในโลกทิพย์ภายในทั้งสามของตนเองทันที

เซียนทิพย์ระดับสี่!

เซียนทิพย์ระดับห้า!

……………..

จนกระทั่ง จ้าวเทียนได้บรรลุขอบเขตเซียนทิพย์ระดับเก้าทุกอย่างก็สิ้นสุดลง เพราะโลกภายในทั้งสามของเขา ไม่สามารถหลอมรวมแก่นแท้เข้าไปได้อีก

หรือต่อให้มันยังเหลือพื้นที่ว่างจริงๆ ก็คงไม่อาจลองรับแก่นแท้กระบี่ขั้นสูงสุดที่ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของเต๋ากระบี่ไปแล้วแน่นอน

ยกเว้นจ้าวเทียน จะสามารถคิดหาวิธีเพิ่มขนาดโลกภายในของตัวเอง ให้ใหญ่โตกว่าซักเดิมสองเท่าถึงจะพอมีความหวังอยู่บ้าง

“ ช่างรู้สึกดีจริงๆ ฉันสัมผัสได้ถึงพลังมหาศาลอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน มันแทบจะเทียบเท่ากับสมัยที่ยังเป็นมหาเทพตี้เทียนเลยทีเดียว ” จ้าวเทียนยิ้มออกมาด้วยความพึงพอใจ ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าออกมาสวมใส่

ตัวตนในอดีตของจ้าวเทียน เป็นถึงจักรพรรดิเทพระดับสูงซึ่งอยู่เหนือกว่ามหาเทพอวี่หวงในตอนนี้หนึ่งขั้น

ยิ่งเมื่อรวมกับ เรื่องที่จ้าวเทียนมีเต๋ากระบี่และโลกทิพย์ภายในถึงสามดวง การจะสังหารคู่ต่อสู้ในระดับเดียวกันก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

“ หืม นี่ลั่วเออร์กับเยว่เออร์ กลายเป็นเทพโลการะดับเก้าได้อย่างไรกัน ” จ้าวเทียนเลิกคิ้วขึ้นด้วยความตกใจ

ตามหลักแล้วต้องบรรลุแก่นแท้ขั้นสูงสี่ชนิดขึ้นไป ถึงจะทะลวงขอบเขตเทพโลกาขั้นเก้าได้สำเร็จ แต่กิเลนน้อยทั้งสองอย่าว่าแต่แก่นแท้ขั้นสูงสี่ชนิดเลย แค่แก่นแท้ขั้นต้นชนิดเดียวพวกเธอก็ไม่มีด้วยซ้ำ

“ หรือว่า…มันจะเป็นเพราะพันธสัญญาคู่ชีวิต ทำให้พวกเธอพัฒนาความแข็งแกร่งขึ้นตามฉัน ” จ้าวเทียนรู้สึกเหตุผลนี้ดูจะเป็นไปได้มากที่สุด ไม่แปลกใจเลยที่มหาอำนาจในแดนสวรรค์ชอบล่อลวงสัตว์อสูรสายเลือดบริสุทธิ์มาทำพันธสัญญาด้วย

“ ท่านพ่อ! ”

กิเลนน้อยทั้งสองลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกัน แล้วรีบเปลี่ยนร่างมนุษย์เข้ามากอดแขนจ้าวเทียนทันที ซึ่งดูเหมือนพวกเธอจะยังควบคุมพลังใหม่ของตัวเองไม่ค่อยได้ จึงเผลอใช้แรงมากไปจนได้ยินเสียงกระดูกลั่นกรอบแกรบออกมา

“ ในเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว พวกเราก็ออกไปกันเถอะ ไม่รู้ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นอย่างไรบ้าง ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน