บนโลกมนุษย์ เสวี่ยหลงรวมไปถึงเหล่าเทพเจ้ามังกรทั้งเก้าตน กำลังจ้องมองการต่อสู้ของจ้าวเทียนที่นอกระบบสุริยะด้วยสีหน้าตกตะลึง พวกเขาไม่เคยคาดคิดมาก่อน ว่าวิถีเซียนซึ่งถูกคิดค้นได้ไม่กี่พันปี จะทรงพลังถึงขนาดนี้
“ เขา…เขาใช่จ้าวเทียนจริงๆงั้นรึ แน่ใจนะ ว่าไม่ใช่ร่างอวตารของโฮ่วอี้หรือร่างแยกของหลินซินเยว่ปลอมตัวมา ” เทพมังกรอ๋าวเถียนอ้าปากค้าง เมื่อเห็นจ้าวเทียนต่อยมหาเทวีเฟรย่าปลิวกระเด็น ในขณะที่ใช้กระบี่ทำลายอาคมระเบิดห้วงมิติของมหาเทวีฟริกก์ไปพร้อมกัน
“ เหอะ บ่นอะไรของเจ้าน่ะอ๋าวเถียน มันก็ต้องเป็นจ้าวเทียนตัวจริงอยู่แล้ว ผู้ถูกเลือกที่ข้าทุ่มเทบ่มเพาะขึ้นมา จะธรรมดาสามัญได้อย่างไร ” เทพมังกรอ๋าวเฟิงแสร้งพูดขึ้นอย่างเป็นต่อ ทั้งที่ภายในใจก็รู้สึกตื่นตระหนกไม่ต่างจากคนอื่น
“ นี่มันจะเหลือเชื่อเกินไปแล้ว จ้าวเทียนอยู่ในรังไหมนั่นแค่หนึ่งชั่วโมงเท่านั้น เหตุใดระดับพลังจึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ”
“ ช่างเป็นพละกำลังที่มหาศาลยิ่งนัก เฉพาะความแข็งแกร่งของร่างกายเขาเพียงอย่างเดียว ก็น่าจะทัดเทียมกับอสูรเทวะยุคบรรพกาลได้เลย ”
เหล่าเทพเจ้ามังกรยังคงส่งเสียงชื่นชมออกมาเป็นระยะ ถึงแม้ในตอนแรกจะรู้สึกไม่ชอบใจอยู่บ้าง ที่ผู้ถูกเลือกของตนประกาศยอมแพ้ต่อการทดสอบกลางคัน
แต่เมื่อได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของจ้าวเทียน เหล่าเทพเจ้ามังกรก็เข้าใจความหวาดกลัวของพวกเขาในที่สุด
หากต้องเผชิญหน้ากับตัวตนอันไร้ขีดจำกัดเช่นนี้ ทางที่ดีก็อย่าไปเป็นศัตรูด้วยโดยเด็ดขาด ถ้าไม่อยากกลายเป็นขั้นบันใดให้อีกฝ่ายเหยียบย่ำขึ้นไป
“ เสวี่ยหลง ในฐานะที่เจ้าเคยเข้าร่วมมหาสงครามเทพมาร คิดว่าความแข็งแกร่งของจ้าวเทียนเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าให้เปรียบเทียบกับสิบสุดยอดจักรพรรดิเทพยุคบรรพกาลในอดีต ”
เทพมังกรอ๋าวเฟิงถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม ซึ่งก็ดึงดูดความอยากรู้อยากเห็นของพวกเทพมังกรตนอื่นๆได้ทันที
เพราะในช่วงเวลาเกิดมหาสงครามเทพมาร พวกเขาทั้งหมดกำลังปิดผนึกตนเองอยู่ในโลกมนุษย์ ก็เลยไม่ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากนัก
“ บอกต่อพวกท่านตามตรง ข้าเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ถ้าวัดจากความสามารถที่นายน้อยแสดงออกมาในตอนนี้ ก็น่าจะด้อยกว่าจักรพรรดิอสูรศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งอ่อนแอที่สุดในสิบจักรพรรดิเทพอยู่หนึ่งขั้น ” เสวี่ยหลงหยุดคิดเล็กน้อย ก่อนจะตอบออกมาอย่างไม่แน่ใจนัก
เขารู้ดีว่านี่ยังไม่ใช่พลังที่แท้จริงของจ้าวเทียน เนื่องจากยังไม่ปรากฏสัญลักษณ์ศึกหมื่นตะวันขึ้นที่กลางหน้าผาก เลยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายมีขีดจำกัดอยู่ที่ตรงไหน
จากรายนามสิบจักรพรรดิเทพยุคบรรพกาล อันดับที่หนึ่งตลอดกาลก็คือ จักรพรรดิหมื่นตะวันทั้งเก้ารุ่น เพราะไม่เคยมีผู้ใดสามารถแย่งชิงตำแหน่งอันทรงเกียรตินี้ ไปจากตระกูลเหยียนได้มาก่อน
อันดับที่สองจักรพรรดิเก้าศรดับตะวันโฮ่วอี้ และอันดับที่สามจักรพรรดิอสูรกระบี่แสวงพ่ายนั้นมีพลังฝีมือทัดเทียมกัน
ทั้งคู่เคยนัดประลองกันสามครั้งแต่ก็ไม่ปรากฏผลแพ้ชนะ เพราะถูกจักรพรรดิหมื่นตะวันรุ่นเก้า เข้ามาแทรกแซงในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายตลอด สุดท้ายก็เลยคบหาเป็นสหายกัน
ต่อมาอันดับที่สี่ก็คือ จักรพรรดินีหงส์อมตะปิงเยว่ ผู้มีลำดับความอาวุโสสูงที่สุดในสิบจักรพรรดิเทพทั้งหมด
แม้ว่าเธอจะถือกำเนิดขึ้นในยุคสมัยเดียวกับสามผู้ปกครองเอกภพ แต่กลับเลือกสร้างขุมกำลังของตนเองและปกครองอย่างเงียบๆ ไม่ได้ต่อสู้เพื่อช่วงชิงอำนาจเหมือนคนอื่นๆ ทำให้ไม่ค่อยได้แสดงความสามารถให้เป็นที่ประจักษ์มากนัก
นี่จึงเป็นเหตุผล ที่อันดับของจักรพรรดินีหงส์อมตะปิงเยว่ อยู่ต่ำกว่าจักรพรรดิขั้นสูงสุดสามคนแรก ทั้งที่ตัวเธอบรรลุขอบเขตนี้มาก่อนพวกเขาหลายพันล้านปี
ส่วนอันดับที่ห้าถึงอันดับที่เก้า จะถูกครอบครองโดยผู้นำเผ่าพันธุ์มหาอำนาจต่างๆ อาทิเช่นจักรพรรดิโลกวิญญาณ จักรพรรดิภูติดารา จักรพรรดิอาชูร่า จักรพรรดิปีศาจสวรรค์ และจักรพรรดิมังกรทอง
ซึ่งทั้งหมดล้วนอยู่ในขอบเขตจักรพรรดิเทพขั้นสูงทั้งสิ้น ระดับพลังจึงไม่แตกต่างกันมากนัก สามารถแย่งชิงตำแหน่งกันเองได้ตลอดเวลา
“ ด้อยกว่าจักรพรรดิอสูรศักดิ์สิทธิ์หนึ่งขั้นงั้นรึ นั่นก็หมายความว่าจ้าวเทียนมีความแข็งแกร่งเหนือกว่าจักรพรรดิเทพขั้นต้นแล้วสินะ ช่างเป็นการยกระดับพลังที่น่าสะพรึงกลัวจริงๆ ” พูดจบ เทพมังกรอ๋าวเถียนก็ถอนหายใจเบาๆ
ถึงแม้จักรพรรดิอสูรศักดิ์สิทธิ์ จะมีขอบเขตจักรพรรดิเทพขั้นกลางเช่นเดียวกับมหาเทพอวี่หวง แต่ในเรื่องความแข็งแกร่งไม่อยู่ระดับเดียวกันแน่นอน การที่เสวี่ยหลงประเมินจ้าวเทียนเอาไว้สูงขนาดนี้ มันเหนือความคาดหมายของทุกคนไปเยอะมาก
“ เอาล่ะ ในเมื่อพวกเจ้ารับรู้ถึงพลังที่แท้จริงของจ้าวเทียนแล้ว ก็ถึงเวลาทำตามข้อตกลงของพวกเราเสียที ” เทพมังกรอ๋าวเฟิงพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง พร้อมกับยื่นฝ่ามือออกไปด้านหน้า
“ พี่อ๋าวเฟิง เรื่องนี้… ” เทพมังกรอ๋าวมู่พยายามจะพูดบางอย่าง
“ หืม พวกเจ้าคิดจะไม่ทำตามสัญญางั้นรึ ในอดีตพวกเราเคยตั้งเงื่อนไขไว้นี่ ว่าหากมีผู้ถูกเลือกคนใด สามารถบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเทพหรือมีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกัน ก็จะได้รับสิทธิ์ครอบครองสิ่งสืบทอดมหาเทพผานกู่ทันที โดยไม่ต้องรอให้ถึงเวลาเข้ารับการทดสอบตามกฎ ” เทพมังกรอ๋าวเฟิงพูดขัดขึ้นเสียงดัง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน