จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 592

สรุปบท ภาคสามบทที่่205 นี่ฉันยังไม่เอาจริงเลยด้วยซ้ำ: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน

สรุปตอน ภาคสามบทที่่205 นี่ฉันยังไม่เอาจริงเลยด้วยซ้ำ – จากเรื่อง จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน โดย ZigFheZ

ตอน ภาคสามบทที่่205 นี่ฉันยังไม่เอาจริงเลยด้วยซ้ำ ของนิยายแฟนตาซีเรื่องดัง จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน โดยนักเขียน ZigFheZ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ณ อาณาเขตด้านนอกระบบสุริยะ

จ้าวเทียน ได้เรียกหุ่นเชิดอีกาทองคำสามขาออกมา ให้มันสร้างพื้นที่ปิดผนึกมิติเพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูหลบหนี ก่อนจะมอบหมายหน้าที่จัดการเทพบาลเดอร์ให้ปิงกู่ลั่วและปิงกู่เยว่ ส่วนตัวเขาก็มุ่งความสนใจไปที่สองมหาเทวีแห่งแอสการ์ด

เปรี้ยงง! ตูมมม!ๆๆๆๆ

หอกกับกระบี่ปะทะกันอย่างถี่รัว ส่งผลให้ความว่างเปล่าแตกเป็นเสี่ยงๆห้วงมิติพังทลาย เงาร่างของมหาเทวีเฟรย่าสลับสับเปลี่ยนตำแหน่งกับจ้าวเทียนอย่างรวดเร็ว จนมองเห็นเป็นภาพลวงตาทั้งคู่ทับซ้อนกันนับหมื่นนับแสน

“ คำสาปกลืนวิญญาณ! ”

มหาเทวีฟริกก์หมุนตัววาดคฑาในมือออกไปเป็นวงกลม ปรากฏอักขระรูนสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนปกคลุมพื้นที่ทั้งหมด ราวกับต้องการกลบฝังทั้งจ้าวเทียนและมหาเทวีเฟรย่าไว้ในทะเลแห่งคำสาป

“ เหอะ น่ารำคาญจริงๆ ” จ้าวเทียนแค่นเสียงด้วยความไม่พอใจ ตัวเขากำลังทดสอบความสามารถด้านต่างๆ ของร่างกายที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างเพลิดเพลิน ดันมาถูกขัดจังหวะซะได้

แวบ!

ร่างจ้าวเทียนไปปรากฏตรงตรงหน้ามหาเทวีฟริกก์ แล้วฟาดฟันกระบี่ออกไปหลายสิบครั้งในเสี้ยววินาที ในขณะที่อีกฝ่ายก็หยิบโล่หนามสีเงินขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เหมือนได้คาดการณ์เอาไว้ก่อน

“ โล่ศักดิ์สิทธิ์อุลดีล จงสะท้อนการโจมตีทั้งหมดกลับไปซะ”

ฉัวะ!ๆๆๆ เปรี้ยง!ๆๆๆ

คลื่นกระบี่ที่ถูกสะท้อนกลับมา ได้ถูกจ้าวเทียนใช้สัญชาตญาณอันเฉียบคม ปัดป้องไว้ได้หมดโดยไม่จำเป็นต้องมอง

“ หัตถ์ราชันดับตะวัน! ”

ตูมม!

แค่จ้าวเทียนกำฝ่ามือเป็นหมัด ก็มีคลื่นเปลวเพลิงสีทองระเบิดขึ้นภายในร่างมหาเทวีฟริกก์ อานุภาพของมันรุนแรงกว่าตอนใช้กับเทพแอรีสหลายร้อยหลายพันเท่า จนแม้แต่ม่านพลังป้องกันของอาวุธเทพเจ้าที่แท้จริงก็ยังพังทลาย

ทำให้อีกฝ่ายต้องตัดสินใจ ใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามโอนย้ายความเสียหายทั้งหมดไปยังโล่สีเงินที่อยู่ในมือ ส่งผลให้เครื่องป้องกันระดับศักดิ์สิทธิ์ขั้นสูงสุดชิ้นนี้ถูกทำลายลงทันที

“ เฟรย่า สังหารมันซะ! ” มหาเทวีฟริกก์ร้องตะโกนออกมาเสียงดัง พร้อมกับรีบปลดปล่อยเวทผนึกเก้าสิบเก้าบทที่แอบร่ายไว้ใส่จ้าวเทียนในพริบตา

“ ไม่จำเป็น ต้องให้เจ้ามาสั่ง! ”

“ ทะลวงไร้สิ้นสุด! ”

มหาเทวีเฟรย่าพุ่งทะลวงความว่างเปล่าเข้ามา ก่อนจะระเบิดพลังทั้งหมดแทงหอกแห่งชัยชนะใส่จ้าวเทียน หลายแสนครั้งในอึดใจเดียว

ฉัวะ!ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

มองเห็นคลื่นลำแสงสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วน ซัดกระหน่ำใส่ห้วงมิติจนพังทลาย กลืนกินเงาร่างจ้าวเทียนหายไปจนหมด จนแม้แต่มหาเทวีฟริกก์ก็ยังพลอยถูกลูกหลงไปด้วย ได้รับบาดเจ็บสาหัสหมดสติไปทันที

“ ในที่สุด พวกเราก็ชนะ ” มหาเทวีเฟรย่าพูดขึ้นอย่างอ่อนแรง นางไม่เคยนึกฝันมาก่อน ว่าผู้ฝึกตนรุ่นเยาว์คนหนึ่งจะสร้างความกดดันให้สองมหาเทวีผู้ยิ่งใหญ่ได้ขนาดนี้

แต่ยังไม่ทัน ที่มหาเทวีเฟรย่าจะได้ไปช่วยเหลือพวกพ้องหรือตรวจสอบสถานการณ์เพิ่มเติม อณูแสงขนาดเล็กเท่าฝุ่นผงจำนวนนับล้านๆ ก็ได้ถูกดึงดูดให้มารวมกันตรงจุดที่จ้าวเทียนหายตัวไป

“ เคล็ดกายาอมตะมิดับสูญ! ”

วูป!

ท่ามกลางดวงแสงสีทองที่เปล่งกระกายเจิดจ้า จ้าวเทียนได้ปรากฏกายขึ้นต่อหน้ามหาเทวีเฟรย่าอีกครั้ง โดยปราศจากบาดแผลใดๆทั้งสิ้น

อันที่จริงด้วยความความสามารถของจ้าวเทียนในตอนนี้ การจะทำลายอาคมผนึกเก้าสิบเก้าบท และหลบหลีกการโจมตีนั้นของมหาเทวีเฟรย่าไม่ใช่เรื่องยาก

แต่เพราะต้องการทดสอบขีดจำกัดความแข็งแกร่งของร่างกายตนเอง ว่าจะแบกรับกระบวนท่าไม้ตายของผู้ยิ่งใหญ่ได้หรือเปล่า จ้าวเทียนจึงยินยอมให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีเข้ามาตรงๆ

“ นี่มัน ไม่จริงใช่ไหม ”

สิ่งที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้มีจิตใจแข็งแกร่งอย่างมหาเทวีเฟรย่ารู้สึกสิ้นหวังเป็นอย่างมาก ราวกับทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยทำมาดูไร้ประโยชน์โดยสิ้นเชิง

“ ไม่ต้องห่วง ฉันยังไม่คิดสังหารพวกเธอตอนนี้หรอก ” จ้าวเทียนพูดอย่างเย็นชา ก่อนจะแทงกระบี่ออกไปดุจประกายแสงหลายสิบครั้ง ทำลายการป้องกันทั้งหมดของอีกฝ่ายโดยสิ้นเชิง

“ จะถอยกลับไปดีๆ หรือกลายเป็นซากศพอยู่ตรงนี้ก็จงเลือกเอา ”

คำพูดประโยคนี้ของจ้าวเทียน ถือเป็นการประกาศสงครามอย่างชัดเจน ไม่เปิดโอกาสให้มีการเจรจาต่อรองใดๆทั้งสิ้น ยิ่งเมื่อรวมกับเจตนาฆ่าที่กระบี่ของเขาปลดปล่อยออกมา มันก็ทำให้กองกำลังทั้งสามฝ่ายเผลอก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัว

เหตุผลที่เหล่าเทพมักจะหยิ่งผยองและไม่เกรงกลัวความตาย ก็เนื่องจากความตายสำหรับพวกเขานั้นเป็นเหมือนการนอนหลับพักผ่อน เพียงเริ่มฝึกตนใหม่แค่ไม่กี่ร้อยปี ก็สามารถฟื้นคืนความทรงจำกลับมาได้อีกครั้ง

แต่กับจ้าวเทียนมันไม่เหมือนกัน เพราะเทพองค์ใดที่ถูกสังหารโดยเต๋ากระบี่ของเขา ก็จะสูญเสียตัวตนดั้งเดิมไปอย่างสมบูรณ์ จนหมดโอกาสหวนคืนกลับมาได้ตลอดกาล ราชันเทพโอดินก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด

“ ข้า…ข้าเข้าใจแล้ว พวกเราจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ ” เทพสึคุโยมิกัดฟันพูดขึ้นด้วยสีหน้าหมองคล้ำ ก่อนจะพากองกำลังฝ่ายตนถอยไปอยู่ด้านข้าง แม้แต่มหาเทวีเฟรย่ากับมหาเทวีฟริกก์ยังพ่ายแพ้ แล้วตัวเขาจะไปรนหาที่ตายเพื่ออะไร

“ แล้วพวกแกล่ะ ฮอรัส ยังคิดจะขัดขวางฉันอยู่อีกไหม ” จ้าวเทียนถามเสียงเย็นชา พร้อมกับเบี่ยงคมกระบี่ไปชี้หน้าอีกฝ่ายทันที แสดงเจตนายั่วยุอย่างชัดเจน

“ พี่ฮอรัส อย่าไปกลัวมัน ถ้าพวกเราทั้งหมดร่วมมือกันต้องชนะแน่นอน ” เทพบาลเดอร์ฝืนอาการบาดเจ็บรีบตะโกนออกมาสุดเสียง

“ ลั่วเออร์ ทำให้มันหุบปากหน่อย ” จ้าวเทียนพูดออกมาเบาๆ

“ ได้เลยคะ ท่านพ่อ ” เด็กสาวตอบรับด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะหันไปประเคนหมัดใส่ฝายตรงข้ามอย่างเมามัน

เปรี้ยง!ๆๆ พลั่ก!ๆๆ

ไม่กี่อึดใจต่อมา ใบหน้าอันหล่อเหลาของเทพบาลเดอร์ ฟกช้ำบวมปูดไม่ต่างไปจากหัวหมูนอนหมอบสิ้นสภาพอยู่แทบเท้าเด็กสาว

“ คำตอบล่ะ ” จ้าวเทียนหันไปกดดันพวกเทพฮอรัสอีกครั้ง

“ หากข้ายอมถอยกลับไป เจ้าจะช่วยไว้ชีวิตบาลเดอร์ได้หรือไม่ พวกเรายินดีมอบสมบัติล้ำค่าและหินวิญญาณระดับเทพห้าแสนก้อนให้เป็นการตอบแทน ” เทพฮอรัสพยายามเจรจาต่อรองอย่างสุดความสามารถ

เขารู้ว่าจ้าวเทียนไม่มีทางปล่อยมหาเทวีเฟรย่ากับมหาเทวีฟริกก์ไปแน่ เลยเปลี่ยนเป้าหมายมาเป็นที่ว่าที่กษัตริย์องค์ต่อไปของแอสการ์ดแทน

“ ไม่นะ…ตัวข้าจะเป็นยังไงก็ช่าง…ได้โปรดช่วยท่านแม่ ” เทพบาลเดอร์พยายามฝืนพูดออกมาอีกครั้ง เขามองไปทางเทพฮอรัสด้วยสายตาอ้อนวอน ซึ่งภาพเหตุการณ์นี้ก็ทำให้จ้าวเทียนเริ่มรู้สึกใจอ่อนขึ้นมา

‘ เอาเถอะ ในชีวิตที่แล้ว เทพบาลเดอร์ก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของโม่ปิงหยู ฉันจะยอมละเว้นเขาก็แล้วกัน จะได้ไม่ถือเป็นการบีบคั้นฝ่ายตรงข้ามมากเกินไป ’

‘ เหนือสิ่งอื่นใด ฉันจะได้มีหินวิญญาณไว้แลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือจากเจตจำนงของโลกมนุษย์อีกด้วย ถือว่าไม่ขาดทุนเท่าไหร่นัก ’

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน