นับตั้งแต่บรรลุขอบเขตเซียนทิพย์เก้าชั้นฟ้า จ้าวเทียนก็พิชิตศึกโดยไร้คู่มือเปรียบติดมาตลอด ไม่ว่าศัตรูจะเป็นร่างกลับชาติมาเกิดใหม่ของเทพีแห่งโชคชะตา หรือบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่แห่งราชวงศ์เทพเจ้าแอสการ์ด ตัวเขาก็เอาชนะมาได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
แม้แต่ในครั้งนี้ เมื่อรู้ว่าจะต้องต่อกรกับร่างอวตารเต๋าสวรรค์ลำดับที่ห้า จ้าวเทียนก็ยังมีความมั่นใจเช่นเดิม จนเป็นสาเหตุให้เกิดความประมาทและพลาดท่าเสียทีในที่สุด
ซึ่งเหตุการณ์พลิกผันที่เกิดขึ้น ก็ทำให้พวกลี่เหยาเหยาเผลอส่งเสียงกรีดร้องออกมาโดยไม่รู้ตัว แต่ยังไม่ทันที่พวกเธอจะเคลื่อนไหว
จ้าวเทียนที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล ก็ได้พุ่งทะยานกลับไปบนฟ้าเผชิญหน้ากับหมิงไท่หู่เสียก่อน เพราะอาการบาดเจ็บเพียงแค่นี้ ย่อมไม่อาจทำอะไรผู้ฝึกเคล็ดวิชาอมตะอย่างเขาได้อยู่แล้ว
“ ไม่ผิดแน่ เจ้าคือต้นเหตุที่ทำให้ราชวงศ์ภูติอัสนีถูกกวาดล้างไปสินะ ” เสวี่ยหลงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา พร้อมกับชี้หน้าฝ่ายตรงข้ามด้วยความโกรธ
“ หึหึ ก็ใครใช้ให้จักรพรรดิของพวกมันดื้อรั้นไม่ยอมเชื่อฟังข้าละ ” ฟ่านเจี้ยหลงหัวเราะอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะพูดขึ้นต่อ
“ การจะเอาชนะผู้ฝึกเคล็ดวิชาหมื่นตะวัน ก็มีแต่ต้องครอบครองกายาโกลาหลของบรรพชนเผ่าพันธุ์ภูติอัสนี ซึ่งสามารถดูดกลืนพลังแห่งธาตุทั้งสี่ได้เท่านั้น ”
“ ข้าจึงตัดสินใจเดินทางไปขุดสุสานบรรพชนภูตอัสนี ที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของพวกมันด้วยตนเอง สุดท้าย ไอพวกที่คิดต่อต้านข้าก็เลยถูกกวาดล้างไปจนหมด ”
“ สารเลวจริงๆ แม้แต่ญาติมิตรตนเอง เจ้าก็ยัง… ” เสวี่ยหลงไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาด่าทอฟ่านเจี้ยนหลงอีกต่อไป
เพราะจักรพรรดิภูติอัสนี ซึ่งถูกสังหารไปก็มีศักดิ์เป็นพ่อตาของอีกฝ่ายเอง ทำให้ตอนเกิดเรื่องขึ้น ไม่มีใครเคยคาดเดามาก่อนว่าจะเป็นฝีมือของฟ่านเจี้ยนหลง
“ ตอนนี้ข้าอยากจะรู้นัก ว่าผู้สืบทอดเคล็ดวิชาหมื่นตะวันรุ่นที่สิบ จะต่อสู้กับกายาโกลาหลที่ไม่เกรงกลัวเปลวเพลิงได้อย่างไร ” ฟ่านเจี้ยนหลงรู้สึกมั่นใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากนี่คือกายศักดิ์สิทธิ์ในตำนาน ที่หลายร้อยล้านปีจะปรากฏขึ้นมาซักครั้ง
อันที่จริง หากไม่ติดที่ฟ่านเจี้ยนหลงครอบสายเลือดราชันกระบี่ฟ้าสามภพอยู่ก่อน บางทีเขาคงเลือกเปลี่ยนไปใช้กายาโกลาหลเองแล้ว
“ ปล่อยหมิงไท่หู่ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง เจ้าไปจัดการศัตรูอีกคน ” เทพเจ้ามังกรส่งกระแสจิตถึงจ้าวเทียน
“ ฉันรับมือได้ ผู้อาวุโสไม่ต้องกังวล ” จ้าวเทียนตอบกลับไปอย่างจริงจัง เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่มีทางยอมให้เขาเปลี่ยนคู่ต่อสู้ง่ายๆแน่นอน
บางที ถ้าทำอะไรผิดสังเกตขึ้นมา พวกมันก็อาจจะเปลี่ยนเป้าหมายหันไปโจมตีพวกลี่เหยาเหยาเพื่อบีบบังคับเขาด้วยซ้ำ
“ ตกลง ข้าจะรีบเอาชนะศัตรูให้เร็วที่สุด แล้วค่อยไปช่วยเหลือเจ้าภายหลัง ” เทพเจ้ามังกรให้คำสัญญากับจ้าวเทียน
ส่วนเหตุผลที่ทั้งคู่เจตนาไม่พูดถึงฟ่านเจี้ยนหลง ก็เพราะอีกฝ่ายทรงพลังมากเกินไป โดยเฉพาะเคล็ดวิชากระบี่ฟ้าไร้ลักษณ์อันน่าสะพรึงกลัว ซึ่งได้บรรลุระดับเดียวกับผู้ปกครองราชันกระบี่ฟ้าสามภพไปแล้ว
ก็เลยต้องปล่อยให้เสวี่ยหลง ที่เคยมีประสบการณ์ต่อสู้กับอีกฝ่ายหลายครั้งในอดีต ช่วยถ่วงเวลาเอาไว้ก่อน
“ สังหารมันซะ! ”
“ อย่าปล่อยให้มีผู้ใดรอดไปได้ ”
พริบตานั้น เทพเจ้ามังกรได้เคลื่อนย้ายมิติเข้าประชิดตัวร่างอวตารเต๋าสวรรค์ลำดับที่หกทันที ส่วนเสวี่ยหลงก็ได้ใช้เคล็ดวิชาหนึ่งกระบี่ทลายไร้สิ้นสุด ต่อกรกับเคล็ดกระบี่ฟ้าไร้ลักษณ์ของฟ่านเจี้ยนอย่างดุเดือด
“ อย่าคิดหลบหนีเป็นอันขาด มิเช่นนั้น ข้าจะสังหารพวกพ้องของเจ้าให้หมด ” หมิงไท่หู่พูดเสียงขึ้นเย็นชา เขาตั้งใจข่มขู่จ้าวเทียนซึ่งๆหน้าโดยไม่บิดบัง
“ เหอะ ถ้าคิดว่าทำได้ก็ลองดู ” จ้าวเทียนแค่นเสียงอย่างดูถูก ถึงแม้อีกฝ่ายจะแก้ทางเคล็ดวิชาหมื่นตะวันได้แล้วอย่างไร นั่นไม่ใช่อาวุธเพียงอย่างเดียวที่เขามีซักหน่อย
“ เขตแดนจักรพรรดิสายฟ้า! ”
บูมมม!
หมิงไท่หู่ระเบิดสนามพลังสายฟ้า ปิดผนึกตรึงร่างกายของจ้าวเทียนเอาไว้ ก่อนจะหมุนตัวเป็นพายุเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่องและรุนแรง
“ ข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็น ว่าเหตุใดกายาโกลาหลของข้า ถึงเป็นกายศักดิ์สิทธิ์อันดับหนึ่งในจักรวาล ”
ฉัวะ! เปรี้ยง!ๆๆๆๆๆ
ทั้งฝ่ายได้พุ่งเข้าปะทะกันหลายสิบครั้งในเสี้ยววินาที จนมองเห็นเป็นภาพติดตาบิดเบือนห้วงมิติรอบๆ ซึ่งถ้านับเพียงความเร็วอย่างเดียว ก็จะเป็นทางฝ่ายหมิงไท่หู่ที่เร็วกว่าจ้าวเทียนครึ่งขั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน