ย้อนกลับไปเมื่อ ร่างจิตวิญญาณแห่งเปลวเพลิงของจ้าวเทียนมาถึงโลกมนุษย์ เขาก็ร่วมมือกับเสวี่ยหลงไล่ต้อนศัตรูไปยังเทือกเขาคุนหลุน
ซึ่งฝ่ายหมิ่งไท่หู่ก็เจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก เขายอมเสียสละแขนซ้ายรับกระบี่เสวี่ยหลง แล้วพุ่งทะยานไปทางพวกลี่เหยาเหยา เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเสวี่ยหลงและจ้าวเทียนแบบตรงๆ
“ ฮ่า ฮา ฮ่า จงตายซะให้หมด ” หมิ่งไท่หู่สังหารทุกคนที่ขวางหน้า จนเกิดเป็นเส้นทางโลหิตสายหนึ่ง เศษชิ้นส่วนร่างกายปลิวกระเด็นเต็มท้องฟ้า ซากศพบนพื้นกองท่วมสูงเป็นภูเขาขนาดย่อม
ฉัวะ!ๆ
หมิงไท่หู่ใช้ฝ่ามือแทนดาบฟาดฟันออกไปอย่างรวดเร็ว ตัดร่างครึ่งมังกรของเฉินจิ้งขาดเป็นสี่ส่วน แม้แต่พวกโม่ซินหนานที่พุ่งเข้ามาช่วยเหลือ ก็ยังโดนลูกหลงถูกสังหารไปพร้อมกัน
“ บัดซบ ฉันจะฆ่าแก ” จ้าวเทียนร้องตะโกนขึ้นด้วยความเดือดดาล พุ่งเข้าประชิดตัวศัตรูด้วยความโกรธแค้น แต่ก็ต้องหยุดชะงักลง เมื่อเห็นฝ่ายตรงข้ามคว้าคอโม่ปิงหยูมารับกระบี่ของตนเอง
ฉึก!
คมกระบี่ของจ้าวเทียนแทงทะลุหน้าผากโม่ปิงหยูออกไปทางด้านหลังศีรษะ เฉียดแก้มซ้ายหมิงไท่หู่ไปเพียงคืบเดียว
“ อาจารย์ คะ ทำไม… ” โม่ปิงหยูพูดได้แค่นี้ ก็สิ้นใจลงพร้อมกับน้ำตาแห่งความเศร้าเสียใจ
อ้ากกกกกกก!
จ้าวเทียนร้องคำรามออกมาเสียงดัง ดวงตาเขาแดงฉานดุจสัตว์ร้าย ราวกับสูญเสียสติสัมปชัญญะไปโดยสิ้นเชิง
“ ข้าล่ะ ชอบสีหน้าของเจ้าเวลานี้จริงๆ ” หมิงไท่หู่พูดขึ้นด้วยร้อยยิ้ม ในขณะที่ใช้มือขวาจับลำคอลี่เหยาเหยายกสูงขึ้นเหมือนเป็นการยั่วยุจ้าวเทียน
“ ไอสารเลว ปล่อยเธอเดี๋ยวนี้ ”
“ ดูเหมือนเจ้าจะรักภรรยามากสินะ ถ้าอยากให้ข้าปล่อยนางก็จงไปทำลายอาคมผนึกเทพเจ้ามังกรซะ ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งนางไปอยู่กับพวกพ้องของเจ้าในนรกแน่นอน ” หมิงไท่หู่จ้องมองจ้าวเทียนอย่างเย็นชา
ทั้งยังเจตนาปลดปล่อยพลังเข้าไปทำลายอวัยวะภายในของลี่เหยาเหยา จนเธอดิ้นทุรนทุรายและกรีดร้องออกมด้วยความเจ็บปวดต่อหน้าจ้าวเทียนอีกด้วย
“ ข้าจะให้เวลาเจ้า เพียงสามลมหายใจเท่านั้น… ” หมิงไท่หู่ยังไม่ทันเริ่มนับถอยหลัง ก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง
คล้ายกับมีมือที่มองไม่เห็นมาบีบเค้นหัวใจตนเองอย่างแรง นี่คือสัญชาตญาณแห่งความเป็นความตาย ที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีวิกฤตถึงชีวิตเท่านั้น
“ ตัดวิญญาณ! ”
ฉัวะ!
ร่างของหมิงไท่หู่ถูกผ่าครึ่งเป็นสองส่วน ก่อนที่ภาพตรงหน้าเขาจะแตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเหมือนเศษกระจก
ทั้งกองซากศพ ทั้งโลหิตที่ไหลท่วมปฐพี รวมไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ทั้งหมด ล้วนเป็นภาพมายาที่ถูกสร้างขึ้นทั้งสิ้น
ฉัวะ! ๆๆๆๆๆๆๆ
เหมือนยังไม่สาแก่ใจ เสวี่ยหลงสะบัดกระบี่ฟาดฟันร่างกายของฝ่ายตรงข้ามจนกลายเป็นฝุ่น หลงเหลือเพียงดวงวิญญาณที่กำลังจะสลายไปเท่านั้น
“ โลกมายาสมบูรณ์แบบงั้นรึ เป็นไปไม่ได้ จักรพรรดิเทพขั้นสูงเยี่ยงข้า จะพลาดเสียทีให้พวกนางได้อย่างไร ” ดวงวิญญาณของหมิงไท่หู่ จ้องมองลี่เหยาเหยาและเทพธิดาซวนเฉวียน ที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยแววตาว่างเปล่า
“ ต้องโทษที่แกดูถูกพวกเรามากเกินไป คิดหรือว่าตอนที่แกหลบหนีออกไป ฉันจะไม่เตรียมการอะไรไว้เลย ” ลี่เหยาเหยาตอบกลับไปอย่างเย็นชา ในมือของเธอถือลูกแก้วอุทัยหมื่นโลกา ซึ่งกักเก็บพลังส่วนหนึ่งของจักรพรรดินีปิงเยว่ผู้เป็นอาจารย์เอาไว้
“ ลงนรกไปซะ แล้วฉันจะส่งพวกพ้องของแกตามไปทีหลัง ” พูดจบ จ้าวเทียนก็คว้าไปที่ดวงวิญญาณฝ่ายตรงข้ามทันที
แต่ทว่า
“ ถ้าข้าตาย เจ้าก็ต้องตายด้วย ” ดวงวิญญาณหมิงไท่หู่คำรามออกมาด้วยความเครียดแค้น ก่อนจะสลายเป็นหมอกควันพุ่งเข้าไปในร่างกายจ้าวเทียน
“ คำสาปบรรพกาล เมล็ดพันธุ์แห่งจุดจบ! ”
นี่คืออาวุธลับสุดท้าย ที่ฟ่านเจี้ยนหลงจัดเตรียมไว้เผื่อกรณีที่หมิงไท่หู่พ่ายแพ้ให้กับจ้าวเทียน ซึ่งมันก็จะเปลี่ยนพลังแห่งการกลืนกินของกายาโกลาหล ให้กลายเป็นพิษร้ายบ่อนทำลายจิตวิญญาณคู่ต่อสู้
แวบ!
ภายในจิตวิญญาณจ้าวเทียน ปรากฏภาพดวงอาทิตย์ขนาดใหญ่ลอยเคว้งคว้างอยู่ในจักรวาลอันมืดมิด ซึ่งบัดนี้มันได้ถูกรุกล้ำด้วยพลังงานคำสาปจากเมล็ดพันธุ์แห่งจุดจบ จนมองเห็นเป็นหมอกควันสีเทาถาโถมเข้าใส่อย่างรวดเร็ว
ครืนนน!
พื้นผิวสีส้มทองของดวงอาทิตย์ เริ่มเต็มไปด้วยจุดด่างดำดูน่าเกลียด และพายุอันรุนแรงที่พ่นเปลวเพลิงหมุนวนเป็นวงโค้งออกมาบนฟ้า จนดูราวกับเป็นรยางค์อันน่าสะพรึงกลัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน