จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 614

การระเบิดพร้อมกันของขีปนาวุธนิวเคลียร์เกือบสามร้อยหัว ส่งผลให้ศูนย์หลบภัยขนาดใหญ่หลายสิบประเทศถูกทำลายเป็นผุยผง ถึงแม้เหล่าซูเปอร์อีโร่และผู้ฝึกตนจะพยายามเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มความสามารถ

แต่เมื่อคำนวณค่าความเสียหายที่เกิดจากแรงระเบิดทำลายล้าง และกัมมันตภาพรังสีนิวเคลียร์ที่แผ่ขยายปกคลุมไปทั่ว มันก็จะกลายเป็นมหาภัยพิบัติอันน่าสะพรึงกลัวที่สุดในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว

ณ ฐานบัญชาการพันธมิตรสหประชาชาติ

“ อัฟกานิสถานและประเทศข้างเคียงอีกสามประเทศถูกทำลาย ”

“ ท่านครับ พวกเราขาดการติดต่อกับรัฐบาลญี่ปุ่น เกาหลีเหนือ และกัมพูชาไปเมื่อครู่นี้ ”

“ ………….. ”

ข้อมูลต่างๆได้ถูกรายงานเข้ามาในที่ประชุมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้นำแต่ละประเทศที่เข้าร่วมมีสีหน้ามองคล้ำลงชัดเจน เนื่องจากครอบครัวของพวกเขาไม่ได้อยู่ในสถานที่แห่งนี้ด้วย

ปัง!

“ บัดซบ นี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้น ” ประธานาธิบดีสหรัฐทุบโต๊ะเสียงดังเมื่อได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น และมองเห็นเศษซากประหลักหักพังของศูนย์หลบภัยสำคัญทั่วโลก

“ ท่านครับ ตอนนี้หน่วยข่าวกรองของพวกเรา ได้รับข้อมูลล่าสุดที่เชื่อถือได้มาเรียบร้อยแล้ว ทั้งหมดนี้จะต้องเป็นการกระทำของบริษัทHTIอย่างแน่นอน ”

“ พวกเขาฉวยโอกาสที่ทุกประเทศ กำลังมุ่งความสนใจไปที่การต่อสู้บนเทือกเขาคุนหลุน แล้วส่งกองกำลังติดอาวุธบุกยึดสถานีปล่อยนิวเคลียร์สามสิบหกแห่ง จากนั้นก็แฮกระบบสั่งการเพื่อยิงขีปนาวุธทั้งหมดออกมาพร้อมกัน ”

“ จากการประเมินโดยดาวเทียมควอนตัม การระเบิดของนิวเคลียร์ได้คร่าชีวิตประชาชนไปมากกว่าสองพันล้านคน และตัวเลขนี้ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆจากกัมมันตภาพรังสีที่เกิดขึ้น ”

“ ว่าไงนะ บริษัทHTIงั้นเหรอ พวกมันจะทำเรื่องบ้าๆแบบนี้ไปเพื่ออะไร ” ประธานาธิบดีสหรัฐรู้สึกโมโหมาก เพราะเดิมทีเขานึกว่าเป็นฝีมือของสิ่งมีชีวิตจากนอกโลก แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นมนุษย์ด้วยกันซะอย่างนั้น

“ หืม ทุกคนดูที่จอภาพเร็ว ” ประธานาธิบดีจีนที่นิ่งเงียบมาตลอดส่งเสียงเตือนขึ้น ทำให้ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่จอภาพซ้ายบน ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงของประเทศเยอรมันอย่างเคร่งเครียด

วังวนเมฆโลหิตขนาดใหญ่โตมโหฬารปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า ก่อนที่ดวงอาทิตย์ก็ถูกเงามืดเข้ากลืนกิน เกิดเป็นปรากฏการณ์สุริยุปราคาเต็มดวง

จากนั้น

วูป!

ภาพลวงตาของประตูสีดำบานยักษ์ก็ปรากฏขึ้นมาเหนือประเทศเยอรมัน และเมื่อมันถูกเปิดออก กองทัพปีศาจมารร้ายจากขุมนรกก็ถาโถมออกมามืดฟ้ามัวดิน ราวเป็นฝูงผึ้งที่ได้กลิ่นน้ำหวาน

ซึ่งหลังจากที่ประตูบานแรกถูกเปิดออก กลุ่มเมฆโลหิตที่ลอยอยู่เหนือเศษซากศูนย์หลบภัยทั่วโลก ก็กลายเป็นประตูข้ามภพปลดปล่อยกองทัพมารดุร้ายกระหายเลือดออกมาเช่นเดียวกัน

สิบล้าน…ร้อยล้าน…พันล้าน

เหตุการณ์ที่ปรากฏบนจอภาพ ราวกับเป็นวันสิ้นโลกที่ถูกบันทึกอยู่ในพระคัมภีร์ไบเบิ้ลไม่มีผิด เพียงแต่เป้าหมายของกองทัพมารร้าย ไม่ใช่กองทัพทูตสวรรค์แต่มันคือมนุษย์ที่แสนอ่อนแอ

“ ไม่นะ หรือนี่จะเป็นจุดจบของมนุษยชาติจริงๆ ”

ในเวลาเดียวกัน

บนภูเขาจักรวาลซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของแดนสวรรค์ เงาร่างมังกรสีทองขนาดใหญ่โตมหึมา ได้ถูกคมกระบี่ของจ้าวเทียนตัดออกเป็นหลายล้านส่วน ก่อนที่เขาจะพุ่งทะยานเข้าไปใช้หัตถ์ราชันดับตะวัน ทำลายดวงวิญญาณอีกฝ่ายจนมอดไหม้ไม่มีเหลือ

นี่คือ วาระสุดท้ายของบรรพชนมังกรทอง ผู้ก่อตั้งวังสวรรค์อันเป็นมหาอำนาจอันดับหนึ่งในศิลาเกียรติยศ

ถึงแม้เจตจำนงของอีกฝ่ายจะได้รับอัญเชิญมาด้วยพิธีกรรมสูงสุด ทำให้มีความแข็งแกร่งทัดเทียมกับสมัยยังมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับจักรพรรดิเซียนเต๋าอย่างจ้าวเทียน มันก็ยังไม่เพียงพอ

“ ยอมแพ้ซะ สงครามครั้งนี้รู้ผลแพ้ชนะแล้ว ” จ้าวเทียนพูดเสียงเย็นชา พร้อมกับปลดปล่อยมหามรรคาจักรพรรดิปกคลุมกองทัพฝ่ายศัตรูที่หลงเหลืออยู่

กึก!ๆ

ร่างของจื่อเวยมหาเทวราช และแปดขุนพลมังกรสวรรค์สั่นสะท้านอย่างรุนแรง พวกเขาคือขุมกำลังสุดท้ายที่มหาเทพอวี่หวงสั่งให้ปกป้องภูเขาจักรวาล

‘ แม้แต่บรรพชนมังกรทอง ที่มีขอบเขตจักรพรรดิขั้นสูงสุดก็ยังพ่ายแพ้งั้นเหรอ นี่พวกเรากำลังเผชิญหน้ากับตัวตนเช่นใดกัน ’

จื่อเวยมหาเทวราชคิดขึ้นอย่างหวาดกลัว เมื่อเห็นกองทัพของตนถูกออร่าความกดดันของจ้าวเทียน บีบบังคับให้ลงไปคุกเข่าราวกับฝูงมดปลวกที่ไร้ทางสู้

แต่ทว่า

ในเสี้ยววินาทีนั้น จ้าวเทียนที่ควบคุมสถานการณ์ทั้งหมดเอาไว้ได้แล้ว ก็มีสีหน้าตกตะลึงราวกับรับรู้ได้ถึงเรื่องราวบางอย่าง

ทำให้เขาหันหลัง รีบเข้าไปช่วยเหลือจักรพรรดินีปิงเยว่ผนึกราชันอสูรเพลิงเซอร์เทอร์และเจตจำนงวานรเทพสามตาทันที เนื่องจากทั้งสองมีร่างอมตะที่ไม่อาจถูกทำลายได้ จึงต้องปล่อยให้สู้กันเองอยู่ในโลกมายาไร้สิ้นสุด

‘ บัดซบ มหาเทพจูเซียนถูกเต๋าสวรรค์ครอบงำจริงๆ แม้แต่จักรพรรดิโลกมารก็มีส่วนร่วมในแผนการครั้งนี้ด้วย ฉันต้องรีบจัดการทุกอย่างแล้วกลับไปช่วยเหลือทุกคนให้เร็วที่สุด ’

ภาพวาดหมื่นภพสี่ฤดูถูกทำลาย คลื่นเปลวเพลงสีทองได้กวาดออกไปเผาไหม้ จื่อเวยมหาเทวราชและแปดขุนพลมังกรสวรรค์จนไม่เหลือซาก จากนั้นห้วงมิติก็ถูกบิดเบือนบดขยี้ทหารสวรรค์สิบล้านนายเป็นจุล

“ อ้ากกก พวกเรายอมแพ้แล้ว ได้โปรดไว้ชีวิตด้วย ”

เหล่าผู้รอดชีวิตที่อยู่ห่างไกลจากสนามรบ พากันตัวสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว พวกเขาพยายามขอร้องอ้อนวอนให้จ้าวเทียนยอมละเว้นอีกครั้ง

“ เหอะ มันสายไปแล้ว ” จ้าวเทียนแค่นเสียงอย่างดูถูก ก่อนจะคว้ามือไปทางผู้ที่ยังเหลือรอดโดยไม่เหลือบตามอง

วูป! ตูมมม!

เกิดหลุมดำดูดกลืนทหารสวรรค์นับล้านให้มารวมกันเป็นก้อนกลม และเมื่อจ้าวเทียนหุบฝ่ามือกำเป็นหมัด ร่างของทหารสวรรค์เหล่านั้นก็ระเบิดเป็นหมอกเลือดทันที

เหตุการณ์ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วจบลงในเวลาเพียงอึดใจเดียว แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของจักรพรรดิเซียนสิบแก่นแท้ในตำนานได้ชัดเจน

“ เจ้า…เจ้าทำได้อย่างไร ” จักรพรรดินีปิงเยว่มองจ้าวเทียนด้วยสีหน้าเหม่อลอย ในใจนางรู้สึกตื่นตระหนกกับพลังอันน่าสะพรึงกลัวของอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก

ไม่เพียงแต่จ้าวเทียน จะเอาชนะเจตจำนงของบรรพชนมังกรทองที่อยู่ในจุดสูงสุด เขายังจะเหลือพลังพอกวาดล้างกองทัพศัตรูจนหมดสิ้นอีกงั้นเหรอ หรือบุรุษผู้นี้จะมีพลังไร้ขีดจำกัดจริงๆ

“ อาจารย์ป้า ให้ฉันช่วยคุณ ” จ้าวเทียนไม่ได้ตอบคำถาม เขารีบถ่ายทอดพลังอันอบอุ่นสายหนึ่งเข้าไปในร่างจักรพรรดินีปิงเยว่

ทำให้เธอสามารถกำราบราชันอสูรเพลิงเซอร์เทอร์ และเจตจำนงอมตะของวานรเทพสามตาได้สำเร็จ ก่อนจะส่งโลกมายาที่กักขังพวกมันกลับคืนสู่มิติโกลาหลในเวลาต่อมา

ทันใดนั้น

ครืนนน!

เมื่อผู้พิทักษ์หายตัวไป ภูเขาจักรวาลทั้งหมดก็สั่นทะเทือนอย่างรุนแรง กำแพงมิติตรงหน้าจ้าวเทียนแตกร้าวเหมือนกระจก แล้วพังทลายเกิดเป็นเส้นทางที่จะตรงเข้าไปยังมหาวิหารเทพเจ้าสูงสุด

“ ไปกันเถอะ พวกเราจะต้องจบศึกนี้ให้เร็วที่สุด ” จ้าวเทียนรีบบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกมนุษย์ให้จักรพรรดินีปิงเยว่ฟัง ซึ่งเธอเองก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เพราะไม่คิดว่ากองทัพโลกมารจะเปิดสงครามในช่วงเวลาวิกฤตแบบนี้

แวบ!

หลังพวกจ้าวเทียนก้าวเข้าไปในเส้นทางสีทอง ภาพตรงหน้าก็ถูกบิดเบือนเคลื่อนย้ายทั้งสองไปยังอาณาเขตหวงห้าม ที่อยู่บนจุดสูงสุดของภูเขาจักรวาล