ตอน ภาคสามบทที่่230 สองหมื่นล้านชีวิต! จาก จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
ภาคสามบทที่่230 สองหมื่นล้านชีวิต! คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน ที่เขียนโดย ZigFheZ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
ในอดีต มหาปุโรหิตสามารถใช้พลังจิตวิญญาณอันสูงล้ำของตน บดขยี้ผู้แข็งแกร่งที่มีพลังทัดเทียมกันได้อย่างง่ายดาย ทำให้ตัวเขาเกิดความรู้สึกเย่อหยิ่งจองหองและยังนึกดูถูกผู้ฝึกตนในจักรวาลนี้เป็นอย่างมาก
จนกระทั่ง เมื่อมหาปุโรหิตต้องมาเผชิญหน้ากับจ้าวเทียน ความมั่นใจที่เคยมีก็ได้พังทลายลงทันที เพราะตั้งแต่เริ่มต้น เขาก็ถูกกดขี่ข่มเหงโดยฝ่ายตรงข้าม จนหมดสิ้นหนทางตอบโต้อย่างสิ้นเชิง
“ เป็นไปไม่ได้ ตัวตนอมตะเช่นข้าจะพ่ายแพ้ให้ผู้เยาว์รุ่นหลังได้อย่างไร ” มหาปุโรหิตพูดขึ้นด้วยใบหน้าซีดขาว ราวกับทนรับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นไม่ได้
“ นี่คือ คำพูดสุดท้ายของแกงั้นเหรอ ” จ้าวเทียนส่ายหน้าเบาๆ พร้อมกับหันไปโจมตีใส่เหล่านักบวชระดับสูงหลายหมื่นคน ที่พยายามจะเข้ามาช่วยเหลือมหาปุโรหิต
ตูมมม!
ฝ่ามือขนาดยักษ์ปกคลุมสรรพสิ่งเสมือนแบ่งแยกจักรวาล ส่งผลให้ห้วงมิติเวลาเริ่มบิดเบี้ยวและพังทลายลง ทำให้เหล่านักบวชถูกบดขยี้กลายเป็นหมอกเลือดไปในพริบตา
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นภายในอึดใจเดียว โดยที่มหาปุโรหิตไม่มีโอกาสช่วยเหลือใครได้เลย เขาทำได้เพียงเฝ้ามองลูกน้องของตน ต้องมาตายไปอย่างไร้ประโยชน์เท่านั้น
‘ เห็นที ข้าคงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากปลุกเจตจำนงของนายท่านให้ตื่นจากการหลับใหลอันยาวนาน ’
มหาปุโรหิตคิดขึ้นอย่างสิ้นหวัง เนื่องจากถ้าใช้วิธีนี้ ผลประโยชน์ทั้งหมดที่เคยได้รับก็จะตกเป็นของผู้อื่นทันที เพราะนายท่านของเขาไม่มีทางยอมกลับไปหลับจำศีลอีกครั้งแน่นอน
“ เหล่าสาวกทั้งหลาย บัดนี้ถึงเวลาพิสูจน์ความศรัทธาของพวกเจ้าแล้ว ”
สิ้นเสียงมหาปุโรหิต แววตาของนักบวชที่เหลืออยู่ทุกคนก็สูญสิ้นประกาย เหมือนเป็นซากศพเดินได้ที่ไร้ชีวิตและจิตใจ จากนั้นร่างกายของพวกเขาก็ถูกเปลวเพลิงสีฟ้ากลืนกิน ค่อยๆมอดไหม้หายไปในความว่างเปล่า
บูมมม! ครืน!
ทันใดนั้น แผ่นหินโกลาหลขนาดยักษ์ที่จารึกหลักคำสอน ก็ได้พลิกคว่ำลงแล้วแตกสลายกลายเป็นอักษรรูนโบราณสีทองจำนวนนับไม่ถ้วน
พวกมันทั้งหมด ได้รวมกันก่อตัวขึ้นเป็นประตูบานหนึ่ง ซึ่งมีภาพการถือกำเนิดของความโกลาหลแรกเริ่ม และการพังทลายของห้วงมิติเวลาอยู่อีกด้านของประตู
วูป!
ร่างสูงพร่ามัวราวกับเดินข้ามผ่านยุคสมัยได้ปรากฏขึ้น ดวงตาของเขาน่าสะพรึงกลัวเหมือนดวงอาทิตย์สีดำ ที่กำลังปะทุคลื่นลาวาสีทองอันร้อนแรง
ครืนนน!
ออร่าของบุรุษผู้นี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความว่างเปล่าบิดเบี้ยวราวกับจะพังทลาย แม้แต่เจตจำนงของเขา ก็ยังทรงพลังพอจะทำลายกาแล็กซี่ทั้งหมดได้ด้วยความคิดเดียว
นี่คือตัวตนอันแข็งแกร่งที่ถูกสร้างขึ้นจาก การเซ่นสังเวยดวงวิญญาณเทพโลกาหลายแสนคน และพลังความศรัทธาหนึ่งล้านปีที่ถูกกักเก็บไว้ในศิลาหลักคำสอน
“ แย่แล้ว ” ไวเท่าความคิด จ้าวเทียนรีบพุ่งทะลวงฝ่าความว่างเปล่าไปปรากฏขวางหน้าจักรพรรดินีปิงเยว่อย่างร้อนรน ซึ่งก็เป็นเวลาเดียวกับตอนที่บุรุษผู้นั้นตบฟาดฝ่ามือออกไปพอดี
“ หัตถ์สวรรค์บรรพกาล! ”
“ หมัดราชันจักรพรรดิ! ”
เปรี้ยง! ตูมมมมมมมม!
เมื่อหมัดและฝ่ามือปะทะกัน ก็มองเห็นร่างเต๋าอมตะที่ก่อตัวขึ้นจากรังสีกระบี่นับล้านของจ้าวเทียน ค่อยๆพังทลายไปเรื่อยๆโดยเริ่มจากแขนขวาไปจนถึงลำตัว ส่วนโลกมิติมายาที่จักรพรรดินีสร้างขึ้นได้ถูกทำลายไปตั้งแต่ต้นแล้ว
วูป!
สุดท้ายเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างจบลง ร่างเต๋าอมตะที่หลงเหลือเพียงใบหน้าของจ้าวเทียน ก็กลับคืนสู่กายเนื้อในสภาพไร้ซึ่งบาดแผล ยกเว้นก็แต่ใบหน้าของเขาที่เปลี่ยนเป็นซีดขาวอย่างน่ากลัว
“ อย่างที่คิดไว้ มีขอบเขตผู้ปกครองเอกภพซ่อนอยู่จริงๆ ” จักรพรรดินีปิงเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ขณะช่วยปรับสมดุลพลังภายในร่างจ้าวเทียน
“ อาจารย์ป้าระวังตัวด้วย อีกฝ่ายชั่วร้ายกว่าที่คิดมาก ” จ้าวเทียนพูดเตือนเบาๆ เขาสัมผัสได้ว่า แววตาที่บุรุษลึกลับใช้มองจักรพรรดินีปิงเยว่ มันเต็มเปี่ยมไปด้วยความโลภและความกระหายอย่างชัดเจน
“ ที่รอดจากการโจมตีของนายท่านได้ ก็เป็นเพราะพลังของแม่น้ำแห่งเต๋าสินะ ” มหาปุโรหิตพูดขึ้นอย่างเย็นชา หากอีกฝ่ายไม่มีสมบัติโกลาหนแรกเริ่ม คงถูกเจ้านายเขาสังหารไปเรียบร้อยแล้ว
“ หึหึ พอเอาชนะพวกขี้แพ้ไป ก็จะร้องเรียกให้ตัวหัวหน้าโผล่ออกมาสู้แทน มันเหมือนบทละครน้ำเน่าเลยว่าไหม” จ้าวเทียนพูดเย้ยหยันกลับไป โดยที่ไม่แสดงท่าทีหวาดกลัวอีกฝ่ายแม้แต่น้อย
เนื่องจากตัวเขาเองก็ยังเก็บซ่อนไพ่ตายเอาไว้มากกว่าหนึ่งอย่างเช่นกัน เพียงแค่หากยังไม่ถึงขีดสุดจริงๆเขาจะไม่ยอมใช้มันเด็ดขาด อย่างน้อยก็จนกว่าจะเผชิญหน้ากับผู้บงการตัวจริง
“ ไอสารเลว เจ้าว่าใครเป็นพวกขี้แพ้ ” มหาปุโรหิตกัดฟันพูดขึ้นด้วยความโกรธ
แต่ยังไม่ทันที่เขาจะทำอะไรไปมากกว่านี้ สีหน้าของบุรุษลึกลับก็เปลี่ยนเป็นเคร่งเครียด เหมือนตรวจสอบพบเจอ เรื่องเหนือความคาดหมายบางอย่างในมหาวิหารเทพเจ้าสูงสุด
จึงได้หันไปด่าทอพร้อมกับออกคำสั่งบางอย่างให้มหาปุโรหิต ก่อนจะกลายเป็นลำแสงสีทองหายเข้าไปในมหาวิหารทันที
เพราะนอกจาก อีกฝ่ายจะขโมยอายุขัยของสิ่งมีชีวิตทั้งมวลในจักรวาลแล้ว ยังแอบปลูกฝังเมล็ดพันธุ์เพื่อบงการชีวิตจิตใจอีกด้วย
“ เหอะ ได้ถวายชีวิตรับใช้ผู้ยิ่งใหญ่เช่นข้า ก็ถือเป็นบุญวาสนาของพวกมันแล้ว ” มหาปุโรหิตแค่นเสียงเย็นชา ไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านต่อคำด่าทอของจักรพรรดินีปิงเยว่แม้แต่น้อย
อย่าได้เห็นว่าผู้ถูกครอบงำเหล่านี้ เต็มไปด้วยผู้ฝึกตนระดับต่ำที่ไม่ได้สร้างโลกภายใน แต่เมื่อทุกคนระเบิดพลังออกมาแล้วโจมตีพร้อมกัน แม้แต่จักรพรรดิเทพเองก็ใช่จะรับมือได้ไหว
โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในอาณาเขตของวิหารเต๋าสวรรค์สูงสุด ที่สาวกทุกคนจะได้รับความแข็งแกร่งที่เพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“ ยังดีอยู่บ้าง ที่ดูเหมือนเมล็ดพันธุ์เต๋าของมัน จะครอบงำผู้คนในเจ็ดขุมกำลังชั้นยอดที่ได้รับการปกป้องจากเจตจำนงของบรรพชนมหาเทพไม่ได้ ” จ้าวเทียนพูดกับตัวเองเบาๆ เมื่อเห็นว่าไม่มีศิษย์สำนักตนและสาวกขุมกำลังชั้นยอดอื่นๆรวมอยู่ในนั้น
แวบ!
ดวงตาของจ้าวเทียนและจักรพรรดินีปิงเยว่เปล่งกระกายเจิดจ้า ทั้งคู่ได้ใช้เคล็ดวิชาเนตรจักรวาลหมื่นสรรพสิ่งตรวจสอบบรรดาผู้ถูกครอบงำ ทำให้ได้รู้ว่ามีเพียงสังหารมหาปุโรหิตเท่านั้น จึงจะปลดปล่อยทุกคนให้เป็นอิสระได้
เพียงแต่หากดูจากท่าทีระมัดระวังตัวของฝ่ายตรงข้าม ก็คงเลือกสั่งการอยู่ในแนวหลัง แล้วปล่อยให้พวกเหล่าสาวกเป็นกองกำลังระเบิดพลีชีพแน่นอน
‘ ด้วยพลังของสมบัติโกลาหลแม่น้ำแห่งเต๋า การจะกวาดล้างศัตรูทั้งหมดก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ปัญหาคือคนเหล่านั้นเกือบครึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์นี่ซิ ’
บนแดนสวรรค์ไม่ได้มีแต่ผู้ฝึกตนเท่านั้น มันยังมีคนธรรมดาที่เป็นครอบครัวหรือลูกหลานของเหล่าศิษย์ที่เติบโตขึ้นมาในนิกายอีกด้วย
ซึ่งพวกเขาทั้งหมดก็คอยทำหน้าที่จิปาถะต่างๆ เช่นปลูกสมุนไพร ทำอาหาร คอยดูแลเรื่องอื่นๆที่อยู่นอกเหนือจากการต่อสู้
หากจะให้จ้าวเทียนหลับหูหลับตาสังหารเด็ก สตรี คนชราที่ไม่เกี่ยวข้องเหล่านี้ มันก็จะดูโหดร้ายอำมหิตมากเกินไป
เพราะเขาต้องการเป็นจักรพรรดิที่มีเกียรติ ไม่ใช่ราชาทรราชที่ฆ่าฟันไม่เลือกหน้าเพื่อผลประโยชน์ของตนเอง
“ ให้ข้าเป็นผู้ลงมือเปิดทาง ตัวเจ้ายังมีอนาคตอีกยาวไกล อย่าได้มาแปดเปื้อนบาปกรรมอันหนักหนาสาหัสในครั้งนี้เลย ”
พูดจบ จักรพรรดินีปิงเยว่ก็กลับคืนร่างเป็นอสูรเทวะต้นกำเนิดหงส์อมตะดาราสวรรค์ เตรียมตัวจะพุ่งทะยานเข้าใส่กองทัพศัตรู
“ ช้าก่อน ” จ้าวเทียนรีบเอาตัวเข้ามาขวางไว้ ไม่ว่าจะเป็นเพราะความสัมพันธ์ส่วนตัว หรือด้วยมโนธรรมที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เขาก็ไม่มีทางปล่อยให้จักรพรรดินีปิงเยว่ต้องแบกรับตราบาปแทนตนเองแน่นอน
“ เจ้ายังมัวลังเลอะไรอีก พวกเราไม่มีเวลาให้เสียแล้วนะ ” จักรพรรดินีปิงเย่วพูดขึ้นอย่างร้อนรน เพราะหากยังไม่รีบจบศึกโดยเร็วที่สุด บางทีสถานการณ์เลวร้ายบนโลกมนุษย์อาจจะสายเกินแก้แล้วก็ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน
ดีๆๆเดินเรื่องดี...
ต่อๆไป...
ขอบคุณทีมงานที่นำเรื่องดีๆมาลงให้อ่าน...