09.00 น. ณ ทะเลสาบมรกต
วันนี้ทีมวิศวกรที่ติดต่อเอาไว้ ได้มาถึงแล้ว ทุกคนกำลังเริ่มงานปรับปรุงโครงสร้างของเกาะต่างๆที่อยู่บริเวณทะเลสาบมรกต
ให้เป็นไปตามแบบแปลนที่จ้าวเทียนให้หวังซินหยางวาดให้
สิ่งที่จ้าวเทียนต้องการให้ทำนั้น เป็นส่วนของอาคารที่พักและสถานที่สำหรับใช้ฝึกฝนบนเกาะที่ตั้งอยู่รอบๆ ส่วนคฤหาสน์จีนโบราณที่อยู่ตรงเกาะนั้นเขาให้เก็บเอาไว้ตามเดิม
เพราะมันได้ถูกสร้างเลียนแบบสำนักดาราสวรรค์ ทำให้สามารถกักเก็บพลังจิตวิญญาณในธรรมชาติเอาไว้ได้ ซึ่งเขาคิดว่าคฤหาสน์หลังนี้ศิษย์พี่หญิงคงลงทุนไปมหาศาล
เพราะวัสดุทุกชิ้นที่ใช้ในการก่อสร้างถือเป็นของชั้นยอด โดยเฉพาะตัวตึกที่ใช้เป็นห้องทำงานนั้น ถูกสร้างขึ้นจากไม้พะยูงที่มีอายุหลายร้อยปี มันเป็นวัตถุล้ำค่าที่มีส่วนช่วยให้อายุยืนยาว
หากให้เขาประเมินราคาดู แค่ตัวตึกหลังนั้นก็คงจะเกินพันล้านไปแล้ว การที่ศิษย์พี่หญิงขายหมู่เกาะทั้งหมดให้เขาในราคาแค่สองพันล้านนั้น มันเหมือนกับการให้ของขวัญตามธรรมเนียมกับศิษย์น้องมากกว่า
“ บอสครับ…คนของผมมากันครบแล้ว ” เฉินจิ้งพูดขึ้นเสียงดัง
ด้านหลังของเขามีกองกำลังจำนวน 50 คน ยืนเข้าแถวตอนเรียงห้าอย่างเป็นระเบียบ รูปร่างของพวกเขากำยำสูงใหญ่ เพราะได้รับการฝึกฝนมาอย่างหนัก
จ้าวเทียนมองดูคนเหล่านั้นด้วยความพอใจ แม้ว่าแต่ละคนจะมีอายุเพียง 17-18ปี แต่แววตาและบรรยากาศที่ปลดปล่อยออกมากลับเหมือนทหารอาชีพไม่มีผิด
“ ทั้งหมด…ทำความเคารพ! ”
หญิงสาวผมสั้นคนหนึ่งที่ยืนอยู่หัวแถวด้านขวา ได้พูดขึ้นด้วยท่าทางเข้มแข็งเหมือนผู้ชาย
พรึบ!
พวกเขาทั้งหมดทำความเคารพแบบทหารพร้อมกัน!
“ หญิงสาวคนนั้น…เธอเป็นหัวหน้าเหรอ ” จ้าวเทียนหันไปถามเฉินจิ้งด้วยความแปลกใจ
พอเขาลองสังเกตดูในบรรดาห้าสิบคนนี้ มีผู้หญิงอยู่ถึงสิบคน ซึ่งมันแปลกมาก ไม่ใช่ว่าเขาบอกเฉินจิ้งว่าต้องการทหารหนุ่มที่แข็งแกร่งหรอกเหรอ แล้วหญิงสาวพวกนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
สิ่งที่เขาต้องการคือกองกำลังนักรบที่พร้อมสู้ศึกจนตัวตาย และพร้อมทำตามคำสั่งโดยไม่มีปริปาก เพราะเขาต้องการจะนำกองกำลังนี้เข้าไปในโลกใบเล็กของสำนักโบราณด้วย
“ เอ่อ…คือ ” เฉินจิ้งมีอาการอ้ำอึ้งขึ้นมาทันที
จ้าวเทียนเมื่อเห็นท่าทางของเฉินจิ้งก็ส่ายหน้าด้วยความผิดหวัง
“ ที่นายมอบโอกาสนี้ให้พวกเธอ…เพราะเป็นคนรู้จักของนายเหรอ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเฉยชา
ถ้าเป็นแบบที่คิดจริง ก็ต้องบอกว่าเฉินจิ้งได้สร้างความผิดหวังให้เขามาก จริงอยู่ที่การเป็นผู้เชี่ยวชาญในสามสิบวันเป็นเงื่อนไขที่เย้ายวนมาก
แต่โอกาสแบบนี้ใช่ว่าจะมอบให้ใครได้ง่ายๆ เพราะตัวของเขาเองต้องสิ้นเปลืองทรัพยากรไปมหาศาล เพราะฉะนั้นคนที่จะได้รับมันจะต้องมีคุณสมบัติเพียงพอ
“ ไม่ใช่ครับบอส…พวกเธอมีคุณสมบัติตามที่บอสต้องการทุกอย่าง ” เฉินจิ้งตอบขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง
หืม
“ งั้นขอฉันทดสอบดูหน่อย! ” จ้าวเทียนพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
วูป!
แกร่ก!
พื้นปูนที่อยู่ใต้เท้าเขาแตกร้าวทันที บรรยากาศกดดันปกคลุมคนทั้งหมดไว้
“ สนามพลังปรมาจารย์!!”
อั่ก!
กึกๆ
ทั้งห้าสิบคนที่ยืนอยู่ได้รับผลกระทบทันที เหมือนกับอากาศที่อยู่รอบๆแข็งตัวขึ้น จนแม้แต่จะหายใจก็ยังลำบาก กระดูกในร่างกายราวกับถูกบดขยี้
พวกเขาทั้งหมดรู้สึกถึงพลังงานอันมหาศาล ที่กดทับลงมาจากบนท้องฟ้าอย่างรุนแรง มีหลายคนที่เหมือนจะทนไม่ไหวแล้วคุกเข่าลงไป แต่ก็ยังคงกัดฟันฝืนทนเอาไว้
ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ รู้ว่านี่เป็นการทดสอบสำหรับพวกเขา ซึ่งถ้าหากล้มเหลวก็คงถูกขับออกไปและสูญเสียโอกาสที่ไขว่คว้าหามาทั้งชีวิต
ผ่านไปอีกสิบนาทีเริ่มมีคนที่ทนไม่ไหวและทำท่าจะล่วงลงไป แต่พวกเขาก็ยังคงฝืนเอาไว้ได้อยู่ ตอนนี้สำหรับจ้าวเทียนทุกคนผ่านการทดสอบแล้ว
เพียงแต่เขาต้องการดูความสามารถทั้งหมดของคนเหล่านี้ จึงไม่ได้พูดออกไป
“ นับว่าไม่เลว…ฉันจะใช้พลังเพิ่มขึ้นอีก 1 ส่วนก็แล้วกัน ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยใบหน้าไร้อารมณ์
บูมม!
“ อั่ก! ” “ อ้าก! ” ๆๆๆ
เกือบสามสิบคนทรุดลงไปทันที ซึ่งมันได้สร้างความแปลกใจให้กับจ้าวเทียนมาก เพราะคนที่ทรุดลงไปมีเพียงสองคนเท่านั้นที่เป็นผู้หญิง
“ น่าสนใจจริงๆ…สนามพลังปรมาจารย์ของฉันในตอนนี้ แม้แต่ระดับผู้เชี่ยวชาญเองก็ยังได้รับผลกระทบ นับว่าพวกคุณไม่สร้างความผิดหวังให้ฉัน ”
“ หลังจากนี้ฉันจะใช้ออร่าร่วมด้วย…คนที่ยังยืนอยู่ได้ จะได้ขึ้นเป็นหัวหน้าหน่วยของกองกำลัง และฉันรับปากว่าพวกคุณจะได้เข้าสู่ขอบเขตปรมาจารย์แน่นอน ”
เมื่อได้ยินสิ่งที่เจ้าเทียนพูด แววตาของคนที่ยืนอยู่ก็เปล่งประกายทันที เพราะนั่นคือขอบเขตปรมาจารย์ที่พวกเขาเห็นเป็นจุดหมายของชีวิต
แม้แต่ฐานทัพที่พวกเขาอาศัยมาตั้งแต่เกิด ก็มีปรมาจารย์เพียงห้าคนเท่านั้น หากชายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า สามารถทำได้อย่างที่พูดจริงๆ
ต่อให้ต้องแลกทุกสิ่งทุกอย่างมันก็คุ้มค่า…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน