จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 63

ภายในภูเขาแห่งหนึ่งทางตอนเหนือของประเทศจีน มีกองกำลังติดอาวุธนับร้อยป้องกันอยู่บริเวณเชิงเขาอย่างแน่นหนา

“ หลินเซียวหวู…รายงานสถานการณ์มา ”

เสียงจากวิทยุสื่อสารดังขึ้น

“ ทุกอย่างปกติดีครับ…ผมจะทำหน้าที่คุ้มกันภรรยาท่านผู้นำตระกูลอย่างดี หัวหน้าไม่ต้องเป็นห่วง ” ชายหนุ่มในชุดหน่วยรบพิเศษตอบอย่างมั่นใจ

สายตาเขากวาดมองไปยังรถหุ้มเกราะที่อยู่ด้านหลังเล็กน้อย ภายในรถคันนั้นมีหญิงสาวคนหนึ่งกำลังอุ้มทารกเพศหญิงอยู่ สายตาของเธอมองขึ้นไปบนยอดเขาตรงหน้าด้วยท่าทางกังวล

ภารกิจที่เขาได้รับมาในวันนี้คือดูแลความปลอดภัยของบุคคลที่นั่งอยู่ในรถคันนั้น แต่ถ้าว่ากันตามตรงตัวเขาอยากจะได้รับหน้าที่คุ้มกันบนยอดเขามากกว่า

เขาอยากจะร่วมเป็นสักขีพยานสำหรับเหตุการณ์ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สองพันปีของประเทศจีน

การทลายนภากาศขึ้นสู่แดนเทพ…

วันนี้บรรพชนเซียนแห่งตระกูลหลิน จะทำในสิ่งที่เคยได้ยินแต่ในตำนาน ต่อหน้าสักขีพยานนับร้อยของตัวแทนตระกูลอื่นๆที่มาร่วมสังเกตการณ์

หลินเซียวหวูได้มองขึ้นไปบนยอดเขาตรงหน้าด้วยแววตาคาดหวัง ทุกคนในหน่วยพิเศษไป๋หู่ได้อยู่บนยอดเขาหมดแล้ว มีเพียงตัวเขาคนเดียวที่ต้องทำภารกิจอยู่ด้านล่าง

‘ ฉันรู้สึกอิจฉาพวกหัวหน้าจริงๆ ’

บนยอดเขาเทียนหลง

กลุ่มคนนับร้อยของตระกูลหลิน กำลังยืนล้อมลานกว้างขนาดใหญ่ไว้เป็นวงกลม โดยที่ตัวแทนสังเกตการณ์จากตระกูลอื่นๆนั้น จะถูกจัดสถานที่แยกออกไป

พื้นที่ตรงกลางที่ถูกเว้นเอาไว้ มีหญิงสาวรูปร่างหน้าตางดงามดุจนางฟ้าที่ลงมาจากบนสวรรค์ยืนอยู่ รูปร่างของเธอนั้นมีส่วนเว้าโค้งที่แสนจะทรงเสน่ห์

หากมองเพียงภายนอก เธอดูเหมือนคนอายุเพียงสามสิบกว่าปี แต่อายุจริงๆของเธอนั้นเกือบจะ 400ปีแล้ว หญิงสาวนางนี้คือบรรพชนเซียนแห่งตระกูลหลิน...หลินซูซิน

ทันใดนั้น บนท้องฟ้าก็ได้มีชายชราคนหนึ่ง เดินเหยียบอากาศลงมายืนอยู่ตรงเบื้องหน้าของเธอ

“ สหายเซียนหลิน…ไม่เจอกันนาน ” ต้วนมู่เฉียนทักทายด้วยรอยยิ้ม

“ ดูเหมือนคุณจะก้าวหน้าขึ้นมากนะ…สหายเซียนต้วนมู่ ” หลินซูซินก็ทักทายกลับด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

ในแผ่นดินจีนแห่งนี้ เห็นจะมีเพียงชายชราที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเท่านั้น ที่มีฐานะและพลังฝีมือพอจะเทียบเคียงกับเธอได้

“ ความก้าวหน้าของฉันดูเล็กน้อยไปเลย…เมื่อเทียบกับสิ่งที่คุณจะทำในวันนี้ ” ต้วยมู่เฉียนพูดขึ้นด้วยความชื่นชม

“ ฉันเพียงแค่โชคดีเท่านั้น…อีกไม่นานคุณก็สามารถสัมผัสมันได้เหมือนกัน ” หลินซูซินกล่าวแบบถ่อมตัว

“ คุณมีความมั่นใจไหม…หลังจากผ่านมา 2,000ปี เรื่องนี้มันแทบจะกลายเป็นตำนานไปแล้ว ไม่มีเคยมีใครเห็นเหตุการณ์ว่ามีคนขึ้นไปได้จริงๆ ” ต้วนมู่เฉียนพูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวล

“ คุณไม่ต้องเป็นห่วง…ฉันเตรียมตัวมาอย่างดีแล้ว เพียงแต่ตอนที่ฉันจากไปฝากคุณดูแลตระกูลหลินให้ฉันด้วย ไม่เช่นนั้นวันไหนที่คุณขึ้นมา ฉันจะจัดการคุณ ” เธอพูดจาติดตลกออกมาเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ

ที่จริงแล้วในวันนี้เธอนั้นมีความมั่นใจเต็ม10ส่วน เพราะอาจารย์ของเธอก็เป็นเทพบนแดนสวรรค์ เรื่องรายละเอียดการบรรลุขอบเขตเซียนนภา เธอได้รับคำแนะนำมาจากอาจารย์เรียบร้อยแล้ว

ที่เอวของเธอยังแขวนป้ายดาราสวรรค์เอาไว้ มันสามารถป้องกันการโจมตีที่ต่ำกว่าขอบเขตเทพโลกาได้ถึง10ครั้ง ซึ่งจากข้อมูลที่เธอได้รับมาจากท่านอาจารย์

ทัณฑ์สายฟ้าจากสวรรค์ของเซียนนภาจะมีพลังไม่เกินขอบเขตแม่ทัพเทพเท่านั้น

‘ เคล็ดวิชาที่ฉันฝึกก็เป็นวิชาเดียวกับท่านอาจารย์ ซึ่งเป็นถึงระดับเทวะ มันไม่น่าจะมีอะไรผิดพลาดแน่นอน ’

‘ แต่ทำไมฉันถึงทำนายเรื่องที่จะเกิดในวันนี้ไม่ได้กันนะ…เหมือนมีพลังบางอย่างเข้ามาแทรกแซงการทำนายของฉัน ’

ที่จริงแล้วเธอสามารถบรรลุขอบเขตเซียนนภาได้ตั้งแต่เมื่อ 10ปีก่อนแล้ว แต่เพราะว่าเธอไม่สามารถทำนายผลของมันได้ จึงหยุดรอเพื่อเตรียมความพร้อมให้ได้มากที่สุด

จนมาถึงวันนี้เธอไม่สามารถรอได้อีกแล้ว หนทางของเซียนคือการต่อสู้กับสวรรค์ ถ้าตัวเธอถอดใจตั้งแต่ยังไม่เริ่มแบบนี้ แล้วจะมีหวังไปถึงจุดสูงสุดในแดนสวรรค์ได้อย่างไร

สำหรับเธอ นี่มันเป็นแค่เพียงก้าวแรกเท่านั้น…

“ หลินวู่ฉาง!...จดจำเอาไว้ให้ดี หากมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแล้วตระกูลหลินรับมือไม่ไหว ก็ให้ไปขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสต้วนมู่เฉียนนะ ” เธอใส่พลังปราณลงไปในเสียงทำให้มันดังก้องไปทั่ว

เหมือนเป็นการข่มขวัญตระกูลอื่น…

“ ทราบแล้วครับ ” หลินวู่ฉางรับคำอย่างจริงจัง

วันนี้จะเป็นวันที่คนในตระกูลหลินสามารถเดินยืดอกได้อย่างสง่างาม เพราะบรรพชนเซียนของตระกูลหลิน กำลังจะได้เป็นเทพแท้จริงบนแดนสวรรค์

แม้ตัวเขาจะไม่ได้มีสายเลือดของท่านบรรพชนเซียนก็ตาม เพราะวิชาที่ท่านฝึกนั้นต้องมีร่างกายที่บริสุทธิ์ ทำให้ตัวท่านไม่เคยแต่งงานมีลูกหลานมาก่อน ซึ่งในชีวิตของท่านนั้นคนตระกูลหลินทุกคนคือครอบครัว

เพราะเหตุนี้เองที่ทำให้ตระกูลหลินยิ่งใหญ่มาเกือบสี่ร้อยปี…

“ ตระกูลหลินทุกคนจงฟัง…หลังจากที่ฉันทำลายประตูเซียนเรียบร้อยแล้ว มันจะมีปราณสวรรค์ออกมาส่วนหนึ่ง ซึ่งมันจะมีประโยชน์ต่อผู้ฝึกตนที่ระดับต่ำกว่าเซียนมาก อย่าปล่อยโอกาสนี้ให้สูญเปล่าล่ะ” เธอกล่าวย้ำอีกครั้ง

นี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้มีผู้มาร่วมเป็นสักขีพยานมากมาย เพราะเพื่อต้องการพลังปราณสวรรค์นั่นเอง ตระกูลหลินจึงระดมยอดฝีมือทั้งหมดมาเพื่อมาป้องกันไม่ให้คนตระกูลอื่นมาแย่งชิง

“ เอาล่ะ…ได้เวลาแล้ว ”

สิ้นเสียงของหลินซูซิน ผู้คนที่อยู่รอบๆถอยห่างออกไปทันที ต้วนมู่เฉียนเองก็บินกลับขึ้นไปบนท้องฟ้าห่างออกไปไกลมาก

เพราะตัวเขาก็เป็นเซียนระดับสูงสุดเช่นกัน หากอยู่ใกล้เกินไป อาจจะไปดึงดูดทัณฑ์สายฟ้าได้ นั่นจะเพิ่มความลำบากให้หลินซูซินอีกมาก

ร่างของหลินซูซินลอยสูงขึ้นจากพื้นเรื่อยๆ พลังของเธอก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มันพุ่งสูงขึ้นจนถึงขีดสุดของขอบเขตเซียน

ท้องฟ้าทั้งหมดสั่นสะเทือน เหมือนกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน