จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 627

สรุปบท ภาคสามบทที่่240 2in1 นครศักดิ์สิทธิ์ที่พังทลาย กับ ราชันผู้หวนคืน: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน

ตอน ภาคสามบทที่่240 2in1 นครศักดิ์สิทธิ์ที่พังทลาย กับ ราชันผู้หวนคืน จาก จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

ภาคสามบทที่่240 2in1 นครศักดิ์สิทธิ์ที่พังทลาย กับ ราชันผู้หวนคืน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายแฟนตาซี จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน ที่เขียนโดย ZigFheZ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

ณ โลกมนุษย์ ย้อนกลับไปเมื่อตอนที่ดวงอาทิตย์ดับแสง และความมืดแผ่ขยายเข้าปกคลุมสรรพสิ่ง กองทัพมารร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนก็พุ่งทะยานออกมา จากรอยแยกมิติใจกลางวังวนสีแดงขนาดยักษ์

แม่ทัพและขุนพลมาร ที่มีขอบเขตมารโลการะดับต้นระดับกลางนับพัน เหล่าทหารนายกองมารระดับสูง ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าเซียนนภานับล้าน ไพร่พลทหารมารชั้นต่ำหลายพันล้านตน

นี่คือมหาสงคราม…ที่จะนำพามวลมนุษยชาติไปสู่ความสิ้นหวังอย่างแท้จริง

ครั้งนี้เหล่าผู้ทรยศมวลมนุษยชาติ ได้ทำพิธีเซ่นสังเวยอัญเชิญกองทัพจักรพรรดิมารจุติลงมาบนโลกด้วยตัวพวกเขาเอง เป็นเหตุให้ม่านพลังป้องกันของจ้าวเทียน ที่ปกคลุมอาณาเขตนอกโลกสูญเสียประสิทธิภาพของมันไป

ท่ามกลางความมืดมิดที่แฝงไปด้วยกลิ่นอายชั่วร้าย ออร่าอันบ้าคลั่งกระหายเลือดและจิตสังหารอันน่าสะพรึงกลัวของกองทัพมาร ได้ส่งผลกระทบแพร่กระจายเป็นวงกว้าง

ต่อผู้รอดชีวิตที่เกือบยี่สิบเปอร์เซ็นบนโลก ทำให้จิตใจของพวกเขาพังทลายนอนเป็นผัก หรือไม่ก็ถูกกลิ่นอายมารปนเปื้อนจนสังหารกลืนกินพวกเดียวกันเอง จนสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายไปทั่วทุกประเทศ

โดยเฉพาะการระเบิดของขีปนาวุธนิวเคลียร์หลายร้อยลูก ซึ่งมีเกือบครึ่งได้ถูกกำหนดเป้าหมายไปที่เขตอาคมผนึกกายแท้ของเทพมังกรทั้งเก้าอย่างแม่นยำ

ไม่ว่าจะเป็นโพรงถ้ำลึกลับด้านในภูเขาคุนหลุนของเทพมังกรอ๋าวเถียน มหาวิหารใต้สมุทรของเทพมังกรอ๋าวเฟิง รวมไปถึงสถานที่ซ่อนกายของเทพมังกรตนอื่นๆ ล้วนถูกการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์เปิดเผยร่องรอยออกมาจนหมดสิ้น

ถึงแม้อานุภาพของขีปนาวุธนิวเคลียร์ จะไม่อาจสร้างความเสียหายให้ม่านพลังป้องกันของเทพมังกรได้มากนัก แต่เมื่อกองทัพมารกับกองทัพหุ่นเชิดของนิกายจูเซียนมาถึง มันก็กลายเป็นหายนะไปทันที

โดยเฉพาะฝ่ายทัพมารนั้น มีจักรพรรดิมารปอสวิ๋นและสองราชันมารผู้ยิ่งใหญ่นำทัพมารหลายพันล้านตนด้วยตัวเอง

ทำให้เหล่าเทพเจ้ามังกร ไม่อาจฝืนใช้สมาธิคงสถานะเขตอาคมที่ใช้ผนึกพวกฟ่านเจี้ยนหลงเอาไว้ได้อีกต่อไป จำเป็นต้องแยกย้ายกันไปปกป้องร่างจริงตนเองอย่างเร่งด่วน

ภาระอันหนักอึ้งเลยต้องตกเป็นของร่างแยกจ้าวเทียน ที่ต้องต่อสู้กับสองร่างอวตารเต๋าสวรรค์เพียงลำพัง เนื่องจากเสวี่ยหลงฝืนใช้เคล็ดวิชาต้องห้ามจนถึงขีดจำกัด เลยกลับคืนสู่ร่างกระบี่ดังเดิมไม่อาจต่อกรกับศัตรูได้อีก

ส่วนพวกลี่เหยาเหยา ก็ต้องเผชิญหน้ากับกงเสี่ยวเหมยที่ถูกจิตมารครอบงำ ซึ่งด้วยช่องว่างระหว่างเทพโลการะดับเก้าขั้นสูงกับเซียนทิพย์ระดับต้น ทำให้พวกเธอต้องร่วมมือกันทุ่มสุดตัว ไม่อาจแบ่งแยกสมาธิได้แม้แต่นิดเดียว

ดังนั้น ทั้งสมาพันธ์เซียนและสมาคมซูเปอร์ฮีโร่ รวมไปถึงกองทัพพันธมิตรโลกมนุษย์ จึงต้องดิ้นรนรับมือกับกองทัพมารที่ดูจะแข็งแกร่งกว่าหลายร้อยเท่าด้วยตนเอง โดยไร้ซึ่งการสนับสนุนใดๆจากพวกจ้าวเทียนทั้งสิ้น

คงไม่แปลกนัก ถ้าจะบอกว่าการแปรพักตร์ของนิกายจูเซียนและการบุกรุกของกองทัพมาร ทำให้มวลมนุษยชาติเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์แห่งการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์อย่างแท้จริง

ประเทศอิตาลี นครศักดิ์สิทธิ์วาติกัน

ภายในพระมหาวิหารใจกลางกรุงโรม ซึ่งเป็นสถานที่ประทับของพระสันตะปาปาผู้ปกครองสูงสุดคริสตจักรโรมันคาทอลิก และยังเป็นฐานบัญชาการหลักของศาสนจักรแห่งแสงในโลกมนุษย์

ชายชราชุดขาวและเหล่าบาทหลวงระดับสูงหลายสิบคน กำลังนั่งเหม่อมองภาพใบหน้าของผู้คนนับร้อยนับพันบนคอมพิวเตอร์หลายสิบเครื่อง ทยอยถูกตัดขาดการเชื่อมต่อไปเรื่อยๆด้วยความสิ้นหวัง

“ นี่เครือข่ายของพวกเรา ในต่างประเทศถูกทำลายลงหมดแล้วงั้นเหรอ ทั้งที่สงครามเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นได้เพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น ” พระสันตะปาปาพูดทำลายความเงียบ ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูเย็นยะเยือกยิ่งกว่าเดิม

“ หากท่านหญิงโซเฟียยังอยู่ละก็ เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น ”

“ พวกเราลองใช้พิธีกรรมอัญเชิญ จิตวิญญาณของท่านหญิงลงมาอีกครั้งดีไหม บางทีตอนนี้สงครามแห่งจักรพรรดิเทพอาจจะจบลงแล้วก็ได้ ”

ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่ม แต่ข้อเสนอของเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากบาทหลวงเกือบทั้งหมดในห้องทันที

เพราะนับตั้งแต่ได้มีการก่อตั้งศาสนจักรแห่งแสงขึ้นมา สตรีศักดิ์สิทธิ์โซเฟียก็เป็นผู้ชี้นำทุกคนมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเผชิญอุปสรรคขวากหนามอย่างไร ขอเพียงยังมีนางอยู่ศาสนจักรแห่งแสงก็จะไม่มีวันถูกทำลายแน่นอน

“ พอเถอะ พวกท่านก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ เพราะก่อนจากไป ท่านหญิงโซเฟียได้แต่งตั้งซิสเตอร์ออโรร่าขึ้นเป็นสตรีศักดิ์สิทธิ์คนใหม่แล้ว นั่นแสดงให้เห็นว่า ท่านหญิงได้เสร็จสิ้นภารกิจบนโลกมนุษย์เรียบร้อยและคงไม่คิดกลับลงมาอีก ”

สิ่งที่พระสันตะปาปาพูดออกมา ตรงกับความจริงที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เดิมทีที่โซเฟียจุติดวงวิญญาณลงมาถือกำเนิดใหม่บนโลกมนุษย์ ก็เพื่อสืบหาความจริงเรื่องสมบัติมหาเทพผานกู่ และป้องกันไม่ให้โลกมารใช้ประโยชน์จากเรื่องนี้

ซึ่งก็แน่นอนว่า ตั้งแต่ที่เทพมังกรทั้งเก้าประกาศยอมรับจ้าวเทียนเป็นผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวของมหาเทพผานกู่

ภารกิจอันยาวนานของโซเฟียก็ถือเป็นอันยุติลงเรียบร้อย นางเลยไม่มีเหตุผลอะไรให้ต้องทนลำบากอยู่ในร่างมนุษย์ที่แสนอ่อนแออีก

ทำให้เมื่อจักรพรรดิแห่งแสงสว่าง พระราชทานตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพ และมอบโอสถศักดิ์สิทธิ์ทะลวงขอบเขตสามเม็ดให้เป็นรางวัล โซเฟียจึงรีบละทิ้งตัวตนมนุษย์ กลับคืนสู่กายทิพย์เทพโลกาของตนเองด้วยความเต็มใจ

“ ซิสเตอร์ออโรร่างั้นหรือ…นางไม่คู่ควรที่จะแบกรับอนาคตของศาสนจักรแห่งแสงหรอก ดูจากการที่นางสั่งให้พวกเรารีบไปรวมตัวกันที่คฤหาสน์ดาราสวรรค์ แทนที่จะนำกองกำลังกลับมาปกป้องนครวาติกันบ้านเกิดของตัวเอง ก็พอจะมองเห็นได้ชัดเจน ”

“ ระวังปากของพวกท่านด้วย อย่าลืมว่าในปัจจุบันซิสเตอร์ออโรร่าคือผู้นำสูงสุดของพวกเรา ”

พระสันตะปาปาพูดขัดเสียงดัง เนื่องจากไม่ต้องการให้เกิดความแตกแยกขึ้น ในช่วงเวลาสำคัญ ถึงแม้ภายในใจจะคิดเห็นไม่แตกต่างไปจากคนอื่นก็ตาม

เพราะไม่อย่างนั้น เหล่าอัศวินวาติกันทั้งหมดคงถูกเคลื่อนย้ายไปที่ประเทศจีนตั้งแต่เมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนแล้ว ไม่ใช่มามัวเสียเวลาป้องกันนครศักดิ์สิทธิ์เหมือนในปัจจุบัน

ปัง!

อัศวินองครักษ์คนหนึ่ง ได้ผลักกระแทกบานประตูเหล็กเข้ามาอย่างร้อนรน ในสภาพที่เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลหลั่งโลหิตโทรมกาย

“ สิบเจ็ดกองอัศวินพิพากษาและหนึ่งร้อยนักรบศักดิ์สิทธิ์ ที่ถูกส่งออกไปกวาดล้างกองกำลังบริษัทHTI ทั้งหมดถูกสังหารไม่มีผู้รอดชีวิตแม้แต่คนเดียว”

“ ส่วนหน่วยอัศวินพิทักษ์วาติกันทั้งห้าหมื่นนาย ก็ได้สร้างอาณาเขตแห่งแสงสว่างปกป้องสถานที่แห่งนี้เอาไว้ แต่ก็คงต้านได้อีกไม่นานนัก ท่านแม่ทัพคริสโตเฟอร์จึงส่งผู้น้อยมาแจ้งให้ทุกท่านเตรียมตัวอพยพโดยด่วน ”

หลังกล่าวจบ อัศวินผู้นั้นก็พยายามกระเสือกกระสนนำพาร่างกายอันบอบช้ำ ก้าวเดินไปคุกเข่าทำความเคารพพระสันตะปาปาตามวิถีอัศวินเป็นครั้งสุดท้าย

“ เจ้าทำหน้าที่ได้ดีมาก จงพักผ่อนให้สบายเถิด ดวงวิญญาณของเจ้าจะได้หวนคืนสู่อ้อมกอดของพระบิดาอย่างแน่นอน ”

สิ้นเสียงพระสันตะปาปา มุมปากของอัศวินคนนั้นก็ปรากฏรอยยิ้มยินดี ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงสิ้นใจตายไปอย่างสงบ

แกร่ก! ครืนนนน!

การจะเอาชนะเหล่าเทพจากแดนสวรรค์ หรืออสูรมารร้ายจากขุมนรก ก็มีแต่ต้องเอาชนะขีดจำกัดของความเป็นมนุษย์เท่านั้น

ถึงแม้วิถีฝึกตนที่พวกจ้าวเทียนยอมเปิดเผยออกมาจะทำได้เช่นเดียวกัน แต่มันก็ใช้เวลานานมากเกินไปสำหรับผู้ที่ไม่เคยมีพื้นฐานอะไรเลย

ดังนั้น หลังการบุกรุกของเหล่าเทพสวรรค์เมื่อสองปีก่อน พระสันตะปาปาจึงหยิบยกเอาผลงานวิจัยของบริษัท HTI มาพัฒนาต่อ

ซึ่งก็แน่นอนว่า พวกเขาคงไม่กล้าไปขอซื้อซากศพเทพสวรรค์จากพวกจ้าวเทียนเพราะกังวลจะไปดึงดูดความสนใจของโซเฟียเข้า หนทางสุดท้าย จึงเหลือแค่ซากศพร่างแยกเทพอสูรที่ได้ซื้อมาจากหลินซูซินในตอนแรกเท่านั้น

ขอเพียงให้เวลากับพวกเขาอีกเพียงครึ่งปี การจะสร้างกองทัพนักรบอสูรสงครามจำนวนหลายหมื่นคนหลายแสนคน ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าเซียนนภาขั้นสูงสุด ก็จะไม่ใช่ความฝันอีกต่อไป

“ เอาเถอะ เห็นแก่ความสัมพันธ์ในอดีต ฉันจะให้ทางเลือกกับแกแล้วกัน จงสั่งให้อัศวินทั้งหมดยอมแพ้และมาเข้าร่วมกองทัพมารซะ ”

“ ขอเพียงพวกแกยอมเปลี่ยนตัวเอง เป็นนักรบอสูรสงครามด้วยความสมัครใจ ฉันขอสัญญาว่าจะให้พวกแกรักษาสติสัมปชัญญะเอาไว้ จะไม่มีทางกลายเป็นอาวุธที่ไร้ซึ่งชีวิตจิตใจแน่นอน ”

“ ว่าอย่างไร จะยอมตายเหมือนสุนัขข้างถนน หรือมาร่วมปกครองโลกมนุษย์ไปด้วยกัน ”

ขอเสนอของฝ่ายตรงข้าม ทำให้พระสันตะปาปายิ้มมุมปากออกมาทันที ก่อนจะชูนิ้วกลางใส่ใบหน้าอีกฝ่าย

“ ไอพวกสารเลว ลงนรกไปซะ!!! ”

วิ้งงง!

ตราประทับสีทองเริ่มกระพริบแสงถี่รัว พระสันตะปาปาได้ปลดข้อจำกัดของสมบัติศักดิ์สิทธิ์ เพื่อหวังระเบิดตัวเองสังหารฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากที่สุด

แต่ทว่า

แคว่ก!

ยังไม่ทันที่พระสันตะปาปาจะได้ทำในสิ่งที่คิดไว้ รอยแยกมิติซึ่งอยู่ใจกลางวังวนสีแดงท่ามกลางท้องฟ้าอันมืดมิด ก็ได้ถูกฉีกกระชากเปิดออกจากภายใน จนเกิดรอยแตกร้าวรูปใยแมงมุมแพร่กระจายไปทั่ว

บูมมมมม! ครืนนนน!

พริบตานั้น ศีรษะดำทมิฬของอสรพิษขนาดยักษ์ตัวหนึ่ง ก็พุ่งทะยานออกมาพร้อมกับกลิ่นอายราชันอสูรบรรพกาลที่สั่นสะเทือนสวรรค์ปฐพี

ความกดดันแห่งจักรพรรดิอสูร ได้ทำให้สิ่งมีชีวิตทั้งมวลร่วงลงไปนอนหมอบอยู่บนพื้นอย่างสิ้นสภาพ ไม่เว้นแม้แต่พระสันตะปาปา เหล่าอัศวิน กองทัพมารและกองกำลังบริษัทHTI

“ อืม…สองปีแล้วสินะ ที่ฉันจากโลกมนุษย์ไป กลิ่นอายของบ้านเกิดช่างทำให้รู้สึกคิดถึงวันวานในอดีตจริงๆ ”

บุรุษวัยกลางคน ที่ยืนอยู่บนศีรษะราชันอสรพิษพูดขึ้นอย่างสะทกสะท้อนใจ แต่เมื่อเขากวาดสายตามองภาพบ้านเรือนที่ถูกทำลายรอบๆ ก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติทันที

“ หืม ที่นี่ไม่น่าจะใช่ประเทศจีนนะ ชิงเออร์ พิกัดของเธอผิดพลาดหรือเปล่า ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน