จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 67

หลินซูซินเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์อันสูงส่ง ทำให้ตัวเธอฝึกฝนได้รวดเร็วกว่าคนธรรมดามาก

ยิ่งเมื่อได้เป็นศิษย์หลักของเจ้าสำนักดาราสวรรค์บนดินแดนแห่งทวยเทพ ก็ยิ่งทำให้เธอเหนือล้ำกว่าเซียนคนอื่นไปไกล

เพราะมีท่านอาจารย์อยู่บนแดนสวรรค์ ทำให้เธอได้ฟังเรื่องราวของเหล่าผู้แกร่งกล้าที่ต่อสู้กับอสูรร้ายในตำนานอย่างกล้าหาญ

ชื่อเสียงอันโด่งดังของพวกเขาได้ถูกเล่าสืบต่อกันมาด้วยความเคารพยกย่องจากลูกหลานของผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือ

ตัวเธอในตอนนั้นจึงมีความใฝ่ฝันว่าต้องการเป็นวีรสตรีที่ได้รับการยกย่องแบบนั้นบ้าง ทำให้ความซวยตกมาเป็นของเหล่าภูตผีปีศาจร้ายบนโลกมนุษย์

เพราะหลังจากที่เธอขับไล่พวกสำนักโบราณกลับไปเมื่อ 300ปีก่อน เธอก็ได้ออกกวาดล้างปีศาจร้ายในตำนาน ตามสถานที่ต่างๆ ในประเทศจีนอย่างจริงจัง

หากปีศาจตนไหนที่เธอไม่สามารถกำจัดได้ เธอก็จะนำพวกมันมากักขังเอาไว้ในเขตอาคมผนึกมาร เพื่อไม่ให้ไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น

นี่จึงเป็นเหตุผลที่ภายหลังในยุคปัจจุบัน ผู้คนมีความคิดที่ว่าภูตผีปีศาจนั้นเป็นเรื่องหลอกลวงไม่มีอยู่จริง เพราะไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน

นั่นก็เพราะพวกมันถูกหลินซูซินจับมาผนึกเอาไว้หมดแล้ว…

โดยเขตอาคมผนึกมารนั้นเธอสร้างได้ไว้ ในถ้ำที่อยู่บนเกาะเล็กๆในทะเลสาบมรกต ซึ่งถ้ำแห่งนั้นก็อยู่ตรงหน้าของเธอในตอนนี้

“ ลงไปกันเถอะ…ฉันผนึกเกาะแห่งนี้ไว้ได้ไม่นาน ”

“ แต่หนูกลัว…พวกปีศาจพวกนั้นน่ากลัวมากเลย ” หลินซิงเสวียนยังคงไม่ยอมท่าเดียว

“ เธอนี่มัน… ”

ตอนนี้หลินซูซินรู้สึกปวดหัวยัยหนูน้อยคนนี้มาก ไม่รู้ว่าเธอไปสร้างกรรมอะไรไว้ ชีวิตถึงต้องมาผูกติดกับอีกฝ่ายแบบนี้

เธอเคยเกลี้ยกล่อมให้หลินซิงเสวียนหันมาเป็นผู้ฝึกตน ถึงขั้นหลอกล่อด้วยเคล็ดวิชาระดับเทวะ แต่มันกลับไร้ผล เด็กสาวคนนี้ต้องการเป็นเพียงคนธรรมดาเพราะไม่ชอบการต่อสู้

โชคดีที่เธอได้ใช้เคล็ดวิชาที่เรียนรู้มาจากท่านอาจารย์ ยกระดับร่างกายของหลินซิงเสวียนมาโดยตลอด

จนตอนนี้เด็กสาวมีความแข็งแกร่งของร่างกายอยู่ในขอบเขตผู้เชี่ยวชาญแล้ว โดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องเลย

“ เชื่อฉันเถอะ…ไม่มีอันตรายแน่นอน ตอนนี้ฉันแข็งแกร่งมากเลยนะ ”

“ แต่คราวก่อนคุณก็บอกแบบนี้…ฉันจะไม่เชื่อคุณอีกแล้ว ” หลินซิงเสวียนนั่งลงเอามือปิดหูไว้

“ …… ”

หลินซูซินรู้สึกพูดไม่ออก ที่จริงเธอสามารถใช้พลังบังคับพาเด็กสาวคนนี้ไปไหนได้ตลอดเวลา

แต่ถ้าทำแบบนั้นมันจะกระทบกับความสัมพันธ์ในอนาคต แถมอีกฝ่ายก็เป็นลูกหลานของเธอเองอีกด้วย

เหตุผลที่เธอต้องเข้าไปในถ้ำ ก็เพราะตอนนี้เธอได้ฝึกฝนตัวเองให้เป็นนักรบวิญญาณ โดยใช้วิชาลับที่ท่านอาจารย์สอนให้ เพราะพลังดั้งเดิมของเธอได้สลายไปตั้งแต่เมื่อสิบสองปีก่อน

นักรบวิญญาณสามารถกลืนกินวิญญาณดวงอื่น เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองได้ ซึ่งพวกปีศาจที่ถูกผนึกเอาไว้ก็เหมือนเป็นแหล่งอาหารชั้นยอดของเธอ

ส่วนเคล็ดวิชาที่เธอฝึกเดิมทีเป็นวิชาลับประจำเผ่าวิญญาณ ซึ่งเป็น 1ใน 3 เผ่าที่ทรงอำนาจในโลกทิพย์ 9 ท้องฟ้า

ครั้งหนึ่งท่านอาจารย์ได้ช่วยเหลือจักรพรรดิของเผ่าพันธุ์นี้เอาไว้ อีกฝ่ายจึงมอบเคล็ดวิชาลับให้เป็นของตอบแทน

จากนั้นด้วยการปรับปรุงโดยท่านอาจารย์ ทำให้วิญญาณของมนุษย์สามารถฝึกเคล็ดวิชานี้ได้

โดยเคล็ดวิชานักรบวิญญาณถูกแบ่งเป็น 5 ระดับ

ขั้นแรกระดับทองแดง เทียบเท่า ขอบเขตปราณปฐพี

ขั้นที่สองระดับเหล็ก เทียบเท่า ขอบเขตปราณนภา

ขั้นที่สามระดับเงิน เทียบเท่า ขอบเขตปราณทิพย์

ขั้นที่สี่ระดับทอง เทียบเท่า ขอบเขตแดนเทพ

ขั้นสุดท้ายระดับเพชร เทียบเท่า ขอบเขตเทพโลกา

เพราะมันเป็นวิชาในโลกทิพย์ จึงฝึกได้สูงสุดเพียงเทพโลกาเท่านั้น หากต้องการมีขอบเขตที่สูงกว่านั้นต้องไปที่แดนสวรรค์

แต่เนื่องจากเผ่าวิญญาณนั้นมีการโจมตีด้วยเปลวเพลิงวิญญาณ ซึ่งสร้างความเสียหายให้ดวงวิญญาณได้โดยตรง ทำให้ร้ายกาจกว่าศัตรูที่อยู่ในขอบเขตเดียวกัน

หลินซูซินอาศัยพรสวรรค์ของตนเองรวมกับความช่วยเหลือของท่านอาจารย์ ทำให้ใช้เวลาเพียงไม่กี่ปีก็มาถึงระดับเหล็กได้

ซึ่งหลังจากที่เธอขึ้นถึงระดับเหล็กเมื่อหนึ่งปีก่อน เธอก็ได้พาหลินซิงเสวียนมาที่ถ้ำแห่งนี้ แล้วใช้วิธีหลอกล่อให้เด็กสาวพาเธอเข้าไป

ด้านในถ้ำนั้นถูกเธอสร้างไว้เจ็ดชั้น ยิ่งลงไปก็ยิ่งเจอปีศาจที่แข็งแกร่ง ในครั้งก่อนเธอได้กลืนกินปีศาจทั้งห้าชั้นแรกจนหมดแล้ว ทำให้พลังของเธอขึ้นมาอยู่ที่ระดับเหล็กขั้นสูง

แต่ในชั้นที่ห้าเธอก็ดันพลาดทำให้หลินซิงเสวียนได้รับบาดเจ็บจนสลบไป เด็กสาวเลยหวาดกลัวมาจนถึงทุกวันนี้

“ ดูเหมือนเธอจะชื่นชอบหญิงสาวที่ชื่อว่า ลี่เหยาเหยาใช่ไหม ”

“ บังเอิญว่า ศิษย์น้องของฉันเองก็สนิทสนมกับหญิงสาวคนนั้น ”

หลินซิงเสวียนที่นั่งปิดหูอยู่เงยหน้าขึ้นมาทันที เธออุ้มตุ๊กตาหมีขึ้นมาด้วยแววตาเป็นประกาย

“ คุณพูดจริงเหรอ ” เด็กสาวถามขึ้นด้วยความดีใจ

“ จริงสิ…มีคนพบเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันตั้งหลายครั้ง ”

เมื่อได้ยินแบบนั้นหลินซิงเสวียนก็มีสีหน้าครุ่นคิด ความจริงแล้วเธอเองก็อยากช่วย เพราะยิ่งตุ๊กตาหมีของเธอแข็งแกร่งขึ้นเท่าไหร่ ตัวเธอก็ยิ่งปลอดภัย

ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอถูกลอบสังหารไม่ต่ำกว่าสิบครั้ง โชคดีที่เธอมีตุ๊กตาหมีติดตัวไปด้วยตลอดเวลา ทำให้ปลอดภัยมาจนถึงทุกวันนี้

“ ถ้าคุณสัญญาว่าจะให้พี่ลี่เหยาเหยาไปเที่ยวสวนสนุกกับฉันหนึ่งวัน…ฉันก็จะลงไป ” หลินซิงเสวียนพูดขึ้นด้วยท่าทีจริงจัง

เธอมองตุ๊กตาหมีในอ้อมกอดด้วยแววตาคาดหวัง…

“ เอ่อ…ตกลง ”

หลินซูซินรับคำด้วยความไม่แน่ใจนัก เธอไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของจ้าวเทียนกับลี่เหยาเหยาจะลึกซึ้งขนาดไหน แต่เพื่อภารกิจของเธอในวันนี้ก็ต้องยอมตกลงไว้ก่อน

หวังว่าศิษย์น้องคงจะมีวิธีจัดการให้เธอได้นะ…

เมื่อตกลงกันได้ สาวน้อยก็อุ้มตุ๊กตาหมีเดินเข้าไปในถ้ำทันที แม้เธอจะมีอาการสั่นกลัวบ้าง แต่เธอก็ปลุกความกล้าขึ้นมา เพื่อที่จะได้ไปเที่ยวสวนสนุกกับไอดอลในดวงใจ

ภายในชั้นที่ 6

ชั้นนี้มีลักษณะเป็นที่โล่งกว้างมีพื้นที่ประมาณครึ่งสนามฟุตบอล บนพื้นด้านในถูกวาดไว้ด้วยอาคมผนึกมารขนาดใหญ่ สะกดปีศาจที่อยู่ด้านใน

“ เอ๋…ทำไมไม่เห็นมีใครอยู่เลยนะ ” หลินซิงเสวียนถามขึ้นด้วยความสงสัย เมื่อหนึ่งปีก่อนตอนเธอลงมาที่ห้าชั้นแรก จะมีปีศาจถูกผนึกไว้ชั้นละ 3-4 ตนทุกชั้น

“ มีสิ…แต่ดูเหมือนเราจะเจอปัญหาแล้วล่ะ”

“ ทำไมหนูไม่เห็นใครเลยนะ…มีแต่ซากงูที่น่าจะตายมานานแล้วแค่ตัวเดียวเอง ” หลินซิงเสวียนชี้ไปที่ซากงูขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง ซึ่งมีลักษณะแห้งกรังไปแล้ว

“ ในชั้นนี้…ฉันกักขังปีศาจไว้สองตน คือมังกรพิษกับปีศาจแมงมุมพันปี ”

“ แต่หนูไม่เห็นใครเลยนะ…เอ๊ะ หรือว่าซากงูตัวนั้น ” หลินซิงเสวียนร้องขึ้นด้วยความตกใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน