ภายในอพาร์เม้นท์
จ้าวเทียนได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้น้องสาวฟัง โดยมีการปรับเปลี่ยนเนื้อหาเกี่ยวกับที่มาของความเก่งกาจของตน ว่าได้รับการสั่งสอนมาจากชายชราคนหนึ่งที่เห็นในพรสวรรค์ของเขา แต่ท่านได้สั่งห้ามเขา ไม่ให้ประกาศให้คนอื่นรู้ เพราะท่านชอบความเงียบสงบ
“ เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละ…เสี่ยวเหมยน้องมีอะไรสงสัยอีกไหม ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ พี่เทียนหมายถึง…พี่ได้เรียนรู้วิชาเซียนจากชายชราท่านหนึ่ง แล้วใช้วิชาเหล่านั้นไปรักษาปู่ของพี่ลี่เฟย จนได้ของขวัญเป็นอพาร์เม้นท์ห้องนี้มา ”
“ หนูเข้าใจถูกใช่ไหม…” จ้าวหยูเหมยพูดขึ้นด้วยสีหน้าว่างเปล่า
“ น้องเข้าใจถูกแล้ว ” เขาตอบด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน
…
จ้าวหยูเหมยลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินมากอดพี่ชายที่หน้าสงสารของเธอ ด้วยสีหน้าที่เศร้าโศก เธอพยายามกลั้นน้ำตาเอาไว้พร้อมกับพูดว่า
“ พี่ไม่ต้องกลัวหนูจะดูแลพี่เอง ไม่ว่าพี่จะเป็นยังไง พี่ก็คือพี่ชายคนเดียวของหนู หนูจะไม่ทิ้งพี่ไปไหนแน่นอน ” เธอเอามือลูบไปที่แผ่นหลังของจ้าวเทียนเบาๆ เหมือนปลอบประโลม พี่ชายของเธอคงทนความเสียใจไม่ไหวจนเป็นบ้าไปแล้ว เธอต้องปกป้องพี่ชายเอาไว้
…
ลมหายใจของจ้าวเทียนเริ่มหนักขึ้น เขารู้สึกเหมือนศักดิ์ศรีความเป็นพี่ชายของเขาพังทลาย นี่น้องสาวคิดว่าฉันเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม
!!
ขอยอมรับว่าในอดีต เขาอาจจะเป็นพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องและพึ่งพาไม่ได้ แต่ตอนนี้มันได้เปลี่ยนไปแล้ว ตัวเขาไม่อ่อนแอเช่นในอดีตอีกแล้ว
ตอนนี้เขาผู้เคยเป็นถึง องค์มหาเทพผู้ยิ่งใหญ่แห่งแดนสวรรค์ ถูกน้องสาวตนเองปฏิบัติราวกับเป็นคนบ้า แค่คิดก็อับอายจนต้องแทรกแผ่นดินหนีแล้ว
โป้กก!
“ โอ้ย…พี่ตีหนูทำไมเนี่ย ” จ้าวหยูเหมยร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด เธอเอามือทั้งสองกุมหัวเอาไว้ มองไปทางพี่ชายด้วยสีหน้าน้อยใจ หรือแม้แต่พี่ชายที่เป็นแบบนี้ไปแล้ว ก็ยังรังแกเธอ
“ เสี่ยวเหมย น้องหยุดคิดอะไรเหลวไหลเลยนะ พี่ไม่ใช่คนบ้า! ” จ้าวเทียนกัดฟันพูดขึ้น
“ ดูนี่…พี่จะแสดงอะไรให้ดู !” เขายกฝ่ามือขึ้นหันไปทางแก้วน้ำของน้องสาว ที่อยู่ห่างไป1เมตร
วูป หมับ!
แก้วน้ำใบนั้นถูกพลังบางอย่าง ทำให้ลอยเข้ามาอยู่ในมือของจ้าวเทียนทันที เมื่อมองไปทางสีหน้าตกตะลึงของน้องสาว เขาก็มีรอยยิ้มเล็กๆ แล้วโชว์ออฟต่อทันที
แกร่ก!
แก้วน้ำในมือของจ้าวเทียน ถูกพลังปราณบดขยี้จนแตกสลายกลายเป็นฝุ่น ถูกสายลมพัดหายไปจนหมด
“ เป็นไงบ้าง…น้องเชื่อพี่แล้วใช่ไหม ” จ้าวเทียนพูดขึ้นอย่างถือดี เขามองเศษฝุ่นที่ปลิวไปตามลม วิชานี่มันยอดเยี่ยมจริงๆเพียงแค่ระดับรวมลมปราณก็ทำให้ แก้วกลายเป็นฝุ่นได้
หากเป็นวิชาอื่นบนโลกมนุษย์ แก้วใบนั้นคงแค่แตกเป็นชิ้นเล็กๆเท่านั้น ไม่ได้สลายไปจนหมด
อืม…
ทำไมเงียบ…
จ้าวเทียนค่อยๆหันกลับไปมองน้องสาว ที่ตอนนี้ กำลังเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก น้ำตาหยดเล็กๆไหลลงจากหางตาไม่หยุด ปากของเธอเบะขึ้นกำลังจะร้องไห้ออกมา
“ แง แง แก้วใบนั้น…พ่อให้เป็นของขวัญวันเกิดหนู ” เธอปล่อยโฮ ออกมาทันที
“ พี่…พี่ขอโทษ ” เขาพึ่งนึกออกแก้วใบนั้นเป็นของขวัญจากพ่อที่เสียไป น้องสาวเขาชอบมันที่สุด แล้วเขาพึ่งบดขยี้มันเป็นฝุ่นต่อหน้าเธออีกด้วย
นี่ฉันทำอะไรลงไป…
…
ตลอดการปกครองแดนสวรรค์มากกว่าแสนปี นี่เป็นครั้งแรกที่มหาเทพตี้เทียนผู้ยิ่งใหญ่ ได้ก้มหัวขอโทษเด็กสาวคนหนึ่ง
ผ่านไป1ชั่วโมง
หลังจากที่ปลอบใจจนน้องสาวของเขาสงบลง จ้าวเทียนก็ได้ให้สัญญากับเธอ ว่าพรุ่งนี้จะไปดูเธอเล่นเปียโน ในงานนิทรรศการดนตรี ที่โรงเรียน ซึ่งเขาก็คิดจะไปจัดการเรื่องค่าเทอมของน้องสาวให้เรียบร้อย
โรงเรียนที่น้องสาวของเขาเรียนอยู่นั้น เป็นโรงเรียนของคุณหนูตระกูลผู้ดี ซึ่งตั้งแต่ที่บ้านเขาล้มละลาย ก็ได้ค้างค่าเทอมมาสามเดือนแล้ว
หากไม่ใช่เพราะน้องสาวของเขาเป็นเด็กที่เรียนเก่งมาก ทั้งยังมีความสามารถด้านดนตรีสูง ก็คงจะโดนไล่ออกไปนานแล้ว
แกร่กๆๆ
โทรศัพท์ของจ้าวเทียนที่วางอยู่บนโต๊ะ สั่นสะเทือนอย่างแรง เมื่อมองไปยังชื่อของผู้ที่โทรเข้ามา สีหน้าจ้าวเทียนก็เปลี่ยนเป็นซับซ้อนทันที
มันเป็นเบอร์ของ ลุงซุยเฟยหลง ซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของอดีตคู่หมั้นของเขา
เขากดรับสาย คุยอยู่ประมาณ1นาทีแล้วจึงกดวางสายไป จ้าวหยูเหมยที่เห็นสีหน้าของพี่ชายเปลี่ยนไป ตั้งแต่กดรับสายโทรศัพท์จึงถามขึ้น
“ เกิดอะไรขึ้นเหรอค่ะพี่ ” เธอถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน