ถ้ำผนึกมารชั้นเจ็ด
หลินซิงเสวียนอุ้มตุ๊กตาหมียืนมองบรรยากาศด้านในด้วยความสับสน ที่แห่งนี้ควรจะเป็นที่ผนึกปีศาจร้ายกาจเอาไว้
แต่ภาพตรงหน้าเธอคือบ้านสองหลัง ที่ตั้งอยู่บนสวนดอกไม้สวยงาม ตรงลานหน้าบ้านมีหญิงสาวที่งดงามมากสองคนกำลังนั่งเล่นหมากล้อมกันอยู่
“ เอ่อคือ…เรามาผิดที่รึเปล่าคะ” เธอถามตุ๊กตาหมีในมือด้วยความสับสน
“ ….. ”
ตอนนี้หลินซูซินเองก็รู้สึกพูดไม่ออก ทำไมอาคมผนึกของเธอถึงได้กลายเป็นเหมือนบ้านพักตากอากาศของอีกฝ่ายไปได้
“ ชั้นนี้ฉันผนึกปีศาจจิ้งจอกเก้าหางกับนางพญางูขาวเอาไว้ ”
“ คุณหมายถึงผู้หญิงสองคนตรงนั้นใช่ไหม ” หลินซิงเสวียนชี้ไปที่ผู้หญิงสองคนตรงหน้า ที่ไม่ว่าจะดูยังไงก็ไม่เหมือนโดนผนึกแม้แต่น้อย
“ ไป๋ซู่เจิน…นี่มันเกิดอะไรขึ้น ”
หลินซูซินหันไปถามหญิงสาวชุดขาว เธอมีผิวขาวราวกับหิมะตัดกับผมยาวสีดำ ดวงของตาเธอสดใสเป็นประกาย เมื่อรวมกับใบหน้าดูอ่อนโยน ทำให้เหมือนกับเป็นเซียนสาวมากกว่าปีศาจ
สำหรับปีศาจงูขาว เธอไม่ได้ใช้วิธีท้าสู้หรือวางแผนล่อลวง เพราะได้รู้ถึงตำนานอันแสนเศร้าของนางพญางูขาวตนนี้ ทำให้เธอรู้สึกเห็นใจอีกฝ่าย
เรื่องราวมันเริ่มจากงูขาวเคยถูกชายหนุ่มคนหนึ่งช่วยชีวิตเอาไว้ หลังจากบำเพ็ญตบะครบหนึ่งพันปี ก็ได้ออกตามหาชายหนุ่มคนนั้นเพื่อทดแทนบุญคุณ
ส่วนชายหนุ่มหลังจากที่กลับชาติมาเกิดใหม่ ก็เกิดพบรักกับงูขาวในร่างมนุษย์เข้า ทั้งคู่ได้อยู่กินเป็นสามีภรรยา แต่ด้วยเป็นการผิดกฎสวรรค์ สุดท้ายจึงถูกแยกออกจากกันตลอดกาล
ไป๋ซู่เจินถูกหลวงจีนฝาไห่ผนึกไว้ใต้เจดีย์เหลยเฟิง ส่วนคนรักของนางก็บวชเป็นพระตลอดชีวิตเพื่อช่วยชดใช้กรรมให้ภรรยา นี่ถือเป็นโศกนาฏกรรมความรักที่แสนเศร้าบทหนึ่ง
เมื่อสองร้อยปีก่อนเจดีย์เหลยเฟิงได้ถูกทำลาย ทำให้พวกปีศาจตนอื่นที่ถูกผนึกอยู่ด้านในหลุดออกมาสร้างความเดือดร้อนให้ผู้คนที่อยู่ด้านนอก มีเพียงแค่ไป๋ซู่เจินเท่านั้นที่เลือกช่วยมนุษย์
หลังจากหลินซูซินได้จัดการปีศาจที่ชั่วร้ายหมดแล้ว จึงได้ขอให้ไป๋ซู่เจินมาช่วยเธอดูแลถ้ำผนึกมารแห่งนี้ พลังฝีมือของไป๋ซู่เจินในเวลานั้นสูงกว่าเธอครึ่งขั้น แต่อีกฝ่ายก็ยอมรับแต่โดยดี
เพราะในสมัยนั้นนอกจากหลินซูซินแล้ว ยังมีเซียนที่เก่งกาจอีกหลายคนที่ออกกำจัดปีศาจเหมือนกัน หากไป๋ซู่เจินยังใช้ชีวิตอยู่ด้านนอก ก็คงต้องต่อสู้อย่างไม่จบสิ้น
“ เราไม่ได้เจอกันหลายปีแล้วนะ…หลินซูซิน ” ไป๋ซู่เจินพูดทักทายด้วยรอยยิ้ม เธอรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนถ้ำผนึกมารชั้นหกดี จึงไม่แปลกใจกับร่างใหม่ของอีกฝ่ายนัก
“ ถ้านับจากครั้งสุดท้ายที่ฉันมาเยี่ยมเธอ ก็คงซักห้าสิบปีก่อนได้แล้วล่ะ ”
“ แต่ตอนนั้นสภาพที่ฉันเห็นมันไม่ใช่แบบนี้ ”
คิกคิก
“ ฉันชอบเธอในร่างนี้ มากกว่าสมัยก่อนเยอะเลย ” ซูต๋าจี่หัวเราะด้วยความขบขัน ด้วยใบหน้าที่งดงามหยาดเยิ้มและทรวดทรงที่ยั่วยวนกวนราคะ
เพียงแค่เธอยืนอยู่เฉยๆ ก็แทบจะทำให้เพศตรงข้ามที่ได้เห็นต้องตกอยู่ในมนต์เสน่ห์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ซูต๋าจี่นั้นสืบเชื้อสายมาจากปีศาจจิ้งจอกเก้าหางในตำนานสมัยราชวงศ์ชาง ชื่อของเธอตั้งขึ้นตามบรรพบุรุษ
ในตอนที่หลินซูซินไปพบเธอนั้น เป็นช่วงที่เธอปลอมตัวเป็นนางสนมเข้าวังของฮ่องเต้ในสมัยราชวงศ์ชิง แต่ตัวเธอนั้นมีนิสัยแตกต่างจากบรรพบุรุษตรงที่ไม่ได้ทำร้ายมนุษย์
ทำให้หลินซูซินในตอนนั้นไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับเธอดี จะปล่อยไปก็เกรงว่าจะไปก่อความวุ่นวายขึ้น จะฆ่าทิ้งก็ไม่มีความผิดสมควรตาย สุดท้ายเลยจับเธอมาขังเอาไว้โดยให้ไป่ซู่เจินดูแล
สำหรับความแข็งแกร่งของซูต๋าจี่นั้นอยู่ในระดับเดียวกับปีศาจในชั้นที่หก แต่เพราะจุดเด่นของเธออยู่ที่ภาพลวงตาทำให้ร้ายกาจกว่าปีศาจที่อยู่ในระดับเดียวกัน
“ ….. ”
“ ซิงเสวียน…โยนฉันเข้าไป! ”
“ เดี๋ยวก่อน!...ทำไมเธอถึงไม่มีอารมณ์ขันเลยนะ ” ซูต๋าจี่รีบร้องห้ามออกมา มนต์เสน่ห์ของเธอใช้กับอีกฝ่ายไม่ได้ผลจะสู้ก็คงสู้ไม่ไหว
เธอยังไม่อยากเป็นอาหารของอีกฝ่ายหรอกนะ…
วูป!
เพียงแค่ซูต๋าจี่โบกแขนเสื้อเบาๆ สภาพห้องก็กลับมาเป็นเขตแดนผนึกเหมือนเดิม สิ่งที่พวกหลินซูซินเห็นนั้นเป็นเพียงภาพลวงตาทั้งสิ้น
!!
“ นี่มัน…ภาพลวงตาของเธอถึงขั้นเปลี่ยนวัตถุได้แล้วเหรอ ”
หลินซูซินรู้สึกตกใจกับความก้าวหน้าของอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก แม้แต่ตัวเธอเองยังแยกแยะความแตกต่างระหว่างของจริงกับภาพลวงตาไม่ได้เลย
“ ตอนนี้ฉันหันมาบำเพ็ญตบะแบบเซียนตามพี่ซู่เจินแล้ว…เคล็ดวิชาของฉันย่อมแข็งแกร่งขึ้นเป็นธรรมดา ” ซูต๋าจี่พูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
ตลอดสองร้อยปีที่ผ่านมาเธอให้ไป๋ซู่เจินสอนการบำเพ็ญตบะแบบเซียน ทำให้ตอนนี้พลังฝีมือของเธอก้าวหน้ากว่าแต่ก่อนมาก
“ ที่เธอมาในวันนี้…เพราะต้องการจะกลืนกินดวงวิญญาณพวกฉันเหรอ ” ไป๋ซู่เจินถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ
แม้ความสัมพันธ์ของเธอกับหลินซูซินจะไม่ได้ถึงขั้นเป็นสหายกัน แต่ก็ถือว่ารู้จักกันมานาน เธอก็ไม่อยากจะสู้กับอีกฝ่ายเลย
ซูต๋าจี่ที่ได้ยินสิ่งที่ไป๋ซู่เจินถามก็เงียบไปทันที นี่ก็เป็นสิ่งที่เธอกังวลอยู่เหมือนกัน แม้ภายนอกเธอจะไม่ได้แสดงออก แต่ก็เตรียมการรับมือไว้แล้ว
“ ไม่ใช่หรอก…พวกเธอแตกต่างจากปีศาจเลวๆพวกนั้น ”
“ ฉันแค่ต้องการให้พวกเธอสร้างพันธสัญญานายบ่าวกับเด็กสาวคนนี้ แล้วฉันจะปล่อยพวกเธอออกมา”
“ ตอนนี้ในโลกภายนอกนั้น ไม่มีคนมาตามล่าพวกเธอเหมือนเมื่อก่อนแล้ว ”
“ ฉันจะไม่บังคับให้พวกเธอทำอะไรที่ฝืนใจหรอก…แค่ขอให้ช่วยคุ้มครองเด็กสาวคนนี้เท่านั้น ”
พวกไป๋ซู่เจินเมื่อได้ยินแบบนั้นก็หันมามองหน้ากันเองด้วยความสับสน แต่สิ่งที่หลินซูซินเสนอมาก็น่าสนใจเหมือนกัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน