หลังจากการต่อสู้อันดุเดือดที่ผ่านมา ตอนนี้บาดแผลของจ้าวเทียนได้ถูกรักษาโดยไป๋ซู่เจินจนเกือบจะหายดีแล้ว เพราะเธอนั้นเชี่ยวชาญในเคล็ดวิชาวารีซึ่งโดดเด่นในด้านการรักษา
เปลือกตาของจ้าวเทียนสั่นไหวเล็กน้อย แล้วค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ด้วยร่างกายที่ผิดมนุษย์ทำให้การฟื้นตัวของเขาไวกว่าคนทั่วไปหลายเท่า
‘ ฉันอยู่ที่ไหน ’
เมื่อมองเห็นสภาพแวดล้อมที่ไม่ค่อยคุ้นตา ทำให้เขารู้สึกแปลกใจ ภายในห้องที่เขาอยู่ถูกตกแต่งแบบโบราณ เหมือนอยู่ในยุคราชวงศ์ชิง เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างทำขึ้นจากไม้ฮวงหัวลี่ ที่มีลวดลายสวยงาม
!!
เขามองไปตรงบริเวณหน้าท้องของตัวเอง มีสุนัขจิ้งจอกตัวเล็กๆนอนหลับอยู่อย่างสบายอารมณ์ ขนสีขาวและหางฟูๆของมันขดเป็นก้อนกลมๆคล้ายลูกบอล
‘ กลิ่นอายแบบนี้…ปีศาจงั้นเหรอ ’
คิ้วของจาวเทียนขมวดขึ้นเล็กน้อย เขาสัมผัสได้ถึงพลังขอบเขตเซียนระดับสูงสุดจากสุนัขจิ้งจอกตัวนี้ การที่อีกฝ่ายมานอนอยู่บนตัวเขาแบบนี้นับว่าเป็นเรื่องที่อันตรายมาก
‘ หากมันต้องการจะฆ่าฉันก็คงทำได้ง่ายๆ…โชคดีที่ฉันยังรู้สึกถึงป้ายดาราสวรรค์ที่อยู่ในตัว ’
เหมือนกับมันรับรู้ได้ถึงความผิดปกติ สุนัขจิ้งจอกน้อยได้ลืมตาขึ้น มันลุกขึ้นบิดตัวด้วยความเกียจคร้าน ดวงตาไร้เดียงสามองมาทางจ้าวเทียนอย่างสนใจ
อ๊าววว!
มันส่งเสียงร้องออกมาเบาๆ แล้วยื่นหน้าเข้ามาถูไถกับใบหน้าของจ้าวเทียนอย่างออดอ้อน ไม่ได้มีความน่าเกรงขามของเซียนปีศาจระดับสูงสุดแม้แต่น้อย
….
ภายในห้องโถงด้านนอก ไป๋ซู่เจินกำลังพลิกอ่านหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ด้วยแววตาเศร้าโศก สิ่งที่ถูกบรรยายอยู่ในหนังสือเล่มนั้น มันเป็นเรื่องราวของเธอเอง
น้ำตาหยดหนึ่งไหลออกมาจากหางตาของนาง มันเต็มไปด้วยความความทรงจำอันล้ำค่าของนางกับชายคนรัก
“ สี่เซียน…ก่อนหน้านี้ข้าบำเพ็ญเพียรมานานนับพันปี แต่มันมีค่าน้อยกว่าช่วงเวลาไม่ถึงปีที่ได้อยู่กับท่าน ”
“ ข้าไม่สน…ว่าท่านจะลืมข้าหรือเปล่า เพราะข้าจดจำท่านได้ ”
ตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอได้เห็นใบหน้าของจ้าวเทียน มันแทบทำให้วิญญาณของเธอสั่นสะท้าน เพราะหน้าตาของเขาถอดแบบมาจากคนรักของเธอทุกอย่าง
แต่เขาไม่ใช่…
‘ หากเขาคือสี่เซียนที่กลับชาติมาเกิดใหม่…ฉันจะรู้สึกได้ทันที ’
แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้น เธอเองก็ควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ได้ จนเผลอใกล้ชิดและโอบกอดเขาเอาไว้เหมือนกับเป็นคนรัก
แอ๊ด!
ประตูห้องนอนด้านในถูกจ้าวเทียนผลักเปิดออกมา เขามีท่าทีตกใจเล็กน้อยเมื่อพบกับไป๋ซู่เจิน เพราะเขาจำได้ว่าหญิงสาวคนนี้คือคนที่ช่วยเขาเอาไว้
เมื่อตอนที่อยู่ในห้องปีศาจจิ้งจอกน้อยซึ่งตอนนี้เกาะอยู่บนไหล่ของเขา ได้เล่าเรื่องราวทุกอย่างให้ฟังตั้งแต่ตอนที่เขาหมดสติไปเมื่อสามชั่วโมงก่อน
จนตอนนี้เขารู้แล้วว่าตัวเองได้ศิษย์พี่หญิงช่วยเหลือเอาไว้ ส่วนสถานที่แห่งนี้ก็คือตัวตึกด้านในของคฤหาสน์ดาราสวรรค์
แต่สำหรับสาเหตุที่ปีศาจจิ้งจอกตัวนี้คอยตามเขาไม่ห่าง เมื่อถามออกไปมันก็ไม่ยอมบอก เขาก็เลยปล่อยเลยตามเลย ไว้เขาจะลองถามศิษย์พี่หญิงดู
“ คุณช่วยผมไว้ใช่ไหม…ขอบคุณครับ ”
ไป๋ซู่เจินที่ได้ยินก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนแล้วพยักหน้าตอบรับ แววตาที่เธอมองจ้าวเทียนยังคงเก็บซ่อนความรู้สึกบางอย่างเอาไว้
“ ผมขอตัวไปหาศิษย์พี่หญิงก่อน” จ้าวเทียนพูดออกมา ก่อนที่จะเดินตรงไปทางห้องทำงานที่อยู่อีกตึก
เมื่อเห็นว่าจ้าวเทียนจากไปแล้ว ไป๋ซู่เจินก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ เธอเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง จมอยู่ในความทรงจำในอดีตอีกครั้ง
ผ่านไปไม่นานในห้องทำงานขนาดใหญ่ สิ่งแรกที่จ้าวเทียนพบก็คือตุ๊กตาหมีขนฟูสีน้ำตาลกำลังนั่งอ่านเอกสารบางอย่างอยู่บนโต๊ะทำงาน
‘ ฉันรู้สึกไม่ค่อยชินกับภาพแบบนี้ซักที ’
“ เธอฟื้นแล้วเหรอ…อาการบาดเจ็บเป็นอย่างไรบ้าง ” เหยียนซืออู่ที่นั่งจิบชาอยู่ด้านข้างถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง
“ ผมหายดีแล้วครับ…ร่างกายก็ฟื้นตัวเต็มที่แล้ว ขอบคุณท่านตามากนะครับที่มาช่วยผมไว้ ” จ้าวเทียนตอบด้วยรอยยิ้ม
“ ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว ” เหยียนซืออู่ยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมองไปทางสุนัขจิ้งจอกที่เกาะอยู่บนบ่าจ้าวเทียนอย่างเย็นชา
“ ซูต๋าจี่…นั่นทำบ้าอะไรของเธอ ถอยออกไปจากศิษย์น้องฉันซะ ”
!!
“ ชิ…ยัยขี้งก ”
ปุ้ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน