ด้านหน้าสวนสนุกที่อยู่ภายในตัวเมืองเทียนจิน จ้าวเทียนยืนอยู่กับหลินซิงเสวียนที่อุ้มตุ๊กตาเอาหมีไว้ เธอกำลังรอลี่เหยาเหยาอยู่อย่างใจจดใจจ่อ
“ พี่ชาย…เมื่อไหร่พี่เหยาเหยาจะมาถึงคะ ” หลินวิงเสวียนถามด้วยความตื่นเต้น ซึ่งตั้งแต่มาถึงเมื่อ 15 นาทีก่อน เด็กสาวคนนี้ถามประโยคเดิมมาเกือบสิบรอบแล้ว
“ เธอคงใกล้ถึงแล้วล่ะ ” จ้าวเทียนตอบด้วยความมั่นใจ เพราะเขาใช้สัมผัสวิญญาณตรวจสอบดู พบว่าตอนนี้ลี่เหยาเหยาอยู่ห่างไปเพียงสามกิโลเมตรเท่านั้น
ที่จริงแล้ววันนี้ลี่เหยาเหยามีธุระสำคัญ แต่เพราะจ้าวเทียนเป็นคนชวนเธอด้วยตัวเอง ซึ่งทำให้เธอดีใจมาก
เธอก็เลยพยายามจัดการธุระสำคัญทั้งหมดให้เสร็จในช่วงเช้า แล้วนัดจ้าวเทียนตอนบ่ายโมง ทำให้อาจจะมาถึงช้าหน่อย
!!
“ อ๊ะ!...นั่นใช่พี่หยูเหมยรึเปล่า ” หลินซิงเสวียนถามขึ้นด้วยความสงสัย
เธอเห็นเด็กสาวสองคน กำลังแอบอยู่หลังรูปปั้นนกเพนกวินตัวใหญ่ซึ่งเป็นมาสคอตของสวนสนุกแห่งนี้ เพราะตรงนั้นมีแต่เด็กตัวเล็กวิ่งเล่นอยู่ ทำให้สาวน้อยสองคนนั้นเป็นจุดเด่นชัดเจน
“ เอ่อ…พวกเธอคงแอบตามมาน่ะ ” จ้าวเทียนยิ้มแห้งๆออกมา ตั้งแต่ตอนที่เขาใช้สัมผัสวิญญาณก็พบจ้าวหยูเหมยกับโม่ปิงหยูกำลังแอบมองพวกเขาอยู่
ตั้งแต่โม่ปิงหยูกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับสูง เธอก็รับหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของน้องสาวเขาตอนที่โม่ซินหยานไม่อยู่
ทันใดนั้นจ้าวเทียนก็เงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาค้นพบเหยียนซืออู่เช่นกัน คาดว่าคงจะโดนจ้าวหยูเหมยขอให้พามาส่ง
‘ ดูเหมือน ท่านตาจะตามใจหยูเหมยมากเกินไปหน่อยนะ ’
“ งั้นชวนพวกเธอไปกับเราด้วยไหมคะ ” หลินซิงเสวียนพูดขึ้นอย่างใจกว้าง เมื่อวานตอนที่ทุกคนแนะนำตัวทำความรู้จักกัน เธอก็ได้รู้ว่าอีกฝ่ายก็ชื่นชอบพี่เหยาเหยาเช่นกัน
“ หนูโอเคเหรอ…วันนี้มันเป็นวันของหนูนะ ” จ้าวเทียนถามขึ้นด้วยความแปลกใจ เขาคิดว่าเด็กสาวต้องการใช้เวลาเป็นส่วนตัวกับไอดอลคนโปรด เขาก็เลยไม่ได้พาน้องสาวกับลูกศิษย์มาด้วย
“ ไม่เป็นไรค่ะ…ที่จริงแล้ว หนูเองก็อยากสนิทกับพวกเธอเหมือนกัน ” หลินซิงเสวียนพูดด้วยรอยยิ้มเขินๆ ตัวเธอเองไม่เคยมีเพื่อนวัยเดียวกันเลย
เพราะด้วยตำแหน่งผู้นำของตระกูลหลินทำให้ถูกปองร้ายอยู่ตลอดเวลา นอกจากตุ๊กตาหมีที่กอดไว้ เธอก็ไม่เคยได้ใกล้ชิดกับใครเลย มันเป็นชีวิตที่เงียบเหงาและน่าเบื่อมาก
นี่เป็นสาเหตุที่เธอใช้เวลาทั้งหมดอยู่กับโลกอินเตอร์เน็ต และก็ทำให้รู้จักกับเสียงเพลงของลี่เหยาเหยา มันได้ช่วยทำลายความอ้างว้าง และเติมเต็มชีวิตของเธอให้มีสีสันขึ้นมา
“ ฉันต้องขอบใจหนูมากนะ…งั้นเราเดินไปหาพวกเธอกันเถอะ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้สายตาที่เขามองเด็กสาวเพิ่มความสนิทสนมขึ้นหลายส่วน
‘ ถ้าพวกเธอทั้งสามคนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน…มันคงจะดีมาก ’
‘ หากวันหนึ่งฉันต้องจากโลกใบนี้ไป…หยูเหมยจะได้ไม่เหงา ’
หลังรูปปั้นนกเพนกวิน
จ้าวหยูเหมยยิ้มแห้งๆออกมา เป็นเพราะเมื่อครู่เธอเผลอตัวไป ทำให้พวกจ้าวเทียนสังเกตเห็น และตอนนี้พี่ชายกำลังเดินมาหาพวกเธอแล้ว
เมื่อมองไปที่สีหน้ากังวลของโม่ปิงหยู เธอก็ยืดอกพูดขึ้นด้วยความกล้าหาญ
“ ไม่ต้องกลัวนะปิงหยู…พอพี่ชายมาถึงฉันจะเป็นคนรับผิดเอง เธอแค่โดนบังคับให้ตามมาด้วยเท่านั้น รับรองได้ว่าฉันจะไม่ให้เขาลงโทษเธอหรอก ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นแววตาของโม่ปิงหยูก็เปลี่ยนไป เธอมองไปที่จ้าวหยูเหมยด้วยความซาบซึ้ง
“ ไม่ค่ะ…หนูเองก็เป็นฝ่ายอยากมาเช่นกัน หากอาจารย์จะลงโทษจริงๆ หนูก็จะยอมรับมันพร้อมกับพี่หยูเหมย ” โม่ปิงหยูพูดขึ้นอย่างจริงจัง
ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับอาจารย์เป็นช่วงเวลาที่เธอมีความสุขที่สุดตั้งแต่เกิดมา เธอจึงกลัวที่จะทำให้อาจารย์ไม่พอใจและไม่รักเธอ แต่เรื่องครั้งนี้เธอไม่มีทางให้พี่หยูเหมยรับผิดแทนเธอเด็ดขาด
“ นี่เธอเอาจริงเหรอ…ดี งั้นวันนี้เราจะผ่านมันไปด้วยกัน ” จ้าวหยูเหมยจับมือของโม่ปิงหยูเอาไว้แน่น แล้วพยักหน้าให้กัน
ตอนนี้มิตรภาพของเด็กสาวทั้งสองได้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น…
“ ในสายตาของพวกเธอนี่…ฉันดูเป็นคนแบบนั้นเหรอ! ”
!!
เด็กสาวทั้งสองสะดุ้งเฮือกทันที พวกเธอหันไปดูด้านหลัง ก็พบจ้าวเทียนที่กำลังมองมาด้วยสีหน้าแปลกๆ
คิกๆๆ
หลินซิงเสวียนกำลังพยายามกลั้นหัวเราะอยู่ข้างๆจ้าวเทียน
เธอยืนฟังทั้งสองคนคุยกันนานแล้ว ซึ่งเธอคิดว่ามันตลกเป็นอย่างมาก เพราะพวกเธอพูดเหมือนพี่ชายเป็นสัตว์ประหลาด
“ พี่ชาย…หนูขอโทษที่แอบตามมา ”“ อาจารย์…หนูขอโทษค่ะ ”
เด็กสาวสองคนพูดขึ้นพร้อมกัน พวกเธอเข้ามากอดแขนจ้าวเทียนคนละข้างแล้วแสดงท่าทางออดอ้อนออกมา
วันนี้เด็กสาวทั้งสองแต่งกายมาเป็นธีมเดียวกัน ด้วยชุดเอี้ยมกระโปรงยาวลายสก็อตสีฟ้าและสีน้ำเงิน ส่วนด้านในสวมเสื้อแขนยาวสีขาวเอาไว้
เมื่อมองไปยังใบหน้าสวยหวานของจ้าวหยูเหมยกับใบหน้าสวยใสบริสุทธิ์ของโม่ปิงหยู มันช่างเข้ากันกับเสื้อผ้าที่พวกเธอสวมใส่อย่างลงตัว ทำให้หนุ่มๆหลายคนจ้องมองกันจนเหลียวหลังเลยทีเดียว
ยิ่งเมื่อรวมกับหลินซิงเสวียนอีกคน ก็กลายเป็นว่าตอนนี้ข้างกายของจ้าวเทียนเหมือนกับมีเทพธิดาน้อยผู้งดงามอยู่ถึงสามคน ทั้งยังแสดงท่าทีสนิทสนมใกล้ชิดกันอีก
ทำให้พวกหมีที่ซุ่มดูอยู่แถวนี้พากับสาปแช่งด้วยความอิจฉา…
“ อ๊ะ…พี่เหยาเหยามาแล้ว ” หลินซิงเสวียนพูดขึ้นด้วยความดีใจ ข้างกายของเธอมีจ้าวหยูเหมยกับโม่ปิงหยู
ตั้งแต่ที่จ้าวเทียนบอกความคิดของหลินซิงเสวียนให้พวกจ้าวหยูเหมยรับรู้ ช่องว่างที่เคยมีระหว่างกันก็หายไปทันที ตอนนี้หลินซิงเสวียนได้เข้าร่วมก๊วนของน้องสาวเขาเรียบร้อยแล้ว
!!
ลี่เหยาเหยามาถึงแล้ว แต่วันนี้เธอมาในลุคที่แตกต่างไปจากเดิม ทำเอาทุกคนที่ได้พบเห็นต่างจ้องมองกันจนตาค้าง
เธอก้าวเดินเข้ามาหาพวกจ้าวเทียนอย่างมั่นคง เธอสวมรองเท้าผ้าใบสีขาว ขาเรียวยาวที่สวยงามของเธอเทียบได้กับซูเปอร์โมเดลระดับโลก ซึ่งโดดเด่นสะดุดตาเป็นอย่างมาก แม้แต่จ้าวเทียนเองยังหลงลืมตัวไปครู่หนึ่ง
ใบหน้ารูปไข่ขาวกระจ่างเนียนนุ่ม ริมฝีปากทาลิปสติกสีแดง ดูแล้วงดงามสะอาดตา ผมยาวของเธอมัดไว้เป็นหางม้าแล้วสวมหมวกแก๊ปทับไว้ ดวงตาคู่งามถูกปกปิดไว้ด้วยแว่นกันแดดสีดำ
วันนี้เธอแต่งตัวแบบง่ายๆด้วยเสือยืดแขนสั้นสีขาวกับกางเกงยีนส์ขาสามส่วน แต่ด้วยรูปร่างอันสมบูรณ์แบบของเธอ ทำให้ดึงดูดสายตาของทุกคนที่อยู่แถวนั้น
เมื่อลี่เหยาเหยามาถึงก็โดนเด็กสาวทั้งสามคนตามติดทันที ทำเอาจ้าวเทียนแอบยิ้มน้อยๆออกมา ในตอนนี้เขากำลังอุ้มตุ๊กตาหมีเอาไว้อยู่
เนื่องจากเมื่อวานตอนที่ศิษย์พี่ของเขาได้เจอกับลี่เหยาเหยานั้น เธอก็สามารถมองเห็นเทพธิดาซวนเฉวียนที่อยู่ในจิตวิญญาณของลี่เหยาเหยาด้วย ที่จริงแล้วมันไม่ควรจะมีปัญหาอะไร ถ้าไม่ใช่เพราะสิ่งที่ศิษย์พี่พูดออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน