จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 87

แปดโมงเช้าตรงลานกว้างหน้าคฤหาสน์ หลังจากที่เสร็จสิ้นการฝึกฝนรอบเช้ากับโม่ปิงหยู จ้าวเทียนก็ได้เรียกรวมพลกองกำลังของเขาทั้งหมดเพื่อเข้ารับการฝึก

คนจำนวน 130 คนที่อยู่ตรงหน้าเขาต่างเป็นผู้ที่ได้รับการคัดเลือกมาอย่างเข้มงวด ซึ่งมาจากค่ายทหาร 50 คน และจากตระกูลลี่และตระกูลกงอีก 80 คน

ส่วนนักฆ่าหญิงอีก 20 คน ที่โม่ซินหยานรับปากเอาไว้นั้น ตอนนี้ได้เกิดปัญหาบางอย่างขึ้น ทำให้เธอต้องออกไปจัดการ

ในตอนนี้โม่ซินหยานอยู่ในขอบเขตปรมาจารย์ระดับกลางที่ห่างจากระดับสูงเพียงเส้นบางๆเท่านั้น ด้วยเคล็ดวิชาที่จ้าวเทียนได้มอบให้รวมกับโอสถที่เหยียนซืออู่ให้เป็นของขวัญ ทำให้พลังของเธอรุดหน้าอย่างรวดเร็ว

แน่นอนว่าความขยันและพรสวรรค์ของเธอก็มีส่วนด้วย เพราะในช่วงที่จ้าวเทียนไม่อยู่ เธอจะชวนลูกสาวฝึกฝนอยู่ตลอด พลังปราณฟ้าดินที่โม่ปิงหยูดึงดูดมานั้น ทำให้สองแม่ลูกมีความก้าวหน้าแบบติดจรวด

แม้แต่เด็กสาวอายุ 12 ปี แบบโม่ปิงหยู ตอนนี้ก็ได้เข้าสู่ขอบเขตผู้เชี่ยวชาญระดับสูงแล้ว เธอสามารถเอาชนะกองกำลังที่ยืนอยู่ตรงหน้าได้อย่างสบาย

หลังจากที่เขตอาคมได้ถูกเปิดใช้งานเมื่อวาน พวกจ้าวเทียนก็ได้ย้ายเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์ดาราสวรรค์

เพราะมีหลินซูซินกับเหยียนซืออู่อยู่ ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของน้องสาวอีกต่อไป และโม่ซินหยานเองก็สามารถออกไปจัดการธุระส่วนตัวได้อย่างวางใจ

ส่วนกองกำลังทั้งหมดของเขาก็ได้สร้างที่พักชั่วคราวอยู่ตามเกาะอื่นๆไปก่อน เพราะอาคารที่พักนั้นยังสร้างไม่เสร็จ ดูจากความเร็วในตอนนี้คงต้องรอประมาณ 10 วัน ทุกอย่างจึงจะเรียบร้อย

ตอนนี้บนท้องฟ้าเหยียนซืออู่กำลังพาจ้าวหยูเหมยบินเล่นอย่างสนุกสนาน ตั้งแต่ที่สาวน้อยรู้ว่าคุณตาของเธอบินได้ เธอก็ตามติดเขาตลอด ซึ่งเหยียนซืออู่เองก็ไม่ได้นึกเลยรำคาญแม้แต่น้อย เขาออกจะแสดงท่าทีชอบใจเสียด้วยซ้ำ

“ เอาล่ะ…วันนี้เป็นวันแรกที่พวกคุณจะได้รับการฝึกฝนจากฉัน เคล็ดวิชาที่ฉันจะถ่ายทอดให้หลังจากนี้ ห้ามเปิดเผยให้คนนอกรู้โดยเด็ดขาด แม้แต่ตระกูลของตัวเองก็ไม่ได้ ”

“ หากฉันรู้ว่าใครฝ่าฝืนคำสั่ง จะต้องได้รับโทษสถานหนักในฐานะคนทรยศ ” จ้าวเทียนพูดขึ้นพร้อมจงใจระเบิดพลังออกมาเล็กน้อยเพื่อข่มขู่ให้หวาดกลัว

ต้องรู้ก่อนว่าพลังเพียงเล็กน้อยของจ้าวเทียนในตอนนี้ สามารถตบปรมาจารย์ระดับสูงกระเด็นออกไปได้ภายในพริบตา สำหรับคนที่อยู่ในขอบเขตนักสู้นั้น มันก็เกินพอที่จะฝังความหวาดกลัวเข้าไปในหัวใจพวกเขา

ดวงตาของทุกคนในตอนนี้ฉายประกายแห่งความมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยว เมื่อพวกเขาได้รับโอกาสที่จะพลิกชะตาชีวิตของตัวเองมาแล้ว พวกเขาไม่มีทางทำมันพังแน่นอน

จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้นก็ได้พยักหน้าอย่างพอใจ เขาผ่อนคลายความกดดันลง การจะฝึกฝนกองกำลังนั้นไม่สามารถใช้แต่ความเข้มงวดได้ จะต้องรักษาความสมดุลเอาไว้

“ เคล็ดวิชาที่ฉันจะสอนพวกคุณมีอยู่สองอย่าง…วิชาแรกคือกายาเทวะ มันเป็นเคล็ดวิชาที่เหนือกว่าระดับตำนาน ซึ่งมีจุดเด่นอยู่ที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกายอย่างมหาศาล ”

“ ส่วนวิชาที่สองคือจิตต่อสู้ ซึ่งถือเป็นเคล็ดวิชาประเภทจิตวิญญาณ ที่อาศัยเจตจำนงอันแรงกล้าระเปิดพลังเหนือขีดจำกัดออกมาได้ วิชานี้จะอาศัยความแข็งแกร่งของจิตใจเป็นหลัก ” จ้าวเทียนพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

เมื่อเห็นท่าทีตื่นเต้นของกลุ่มคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า เขาก็มีรอยยิ้มขึ้นที่มุมปาก เคล็ดวิชากายาเทวะและจิตต่อสู้ เป็นสิ่งที่ถูกสอนให้กองทัพบนแดนสวรรค์ จัดอยู่ในระดับนภาเหนือกว่าระดับตำนานในโลกมนุษย์แน่นอน

ทั้งกายาเทวะและจิตต่อสู้ ตามหลักแล้วไม่สามารถฝึกบนโลกมนุษย์ได้ เพราะมีพลังปราณฟ้าดินเจือจางเกินไป ผู้ฝึกเคล็ดวิชาพวกนี้จะต้องดูดกลืนพลังมหาศาล

แต่ด้วยเขตอาคมจิตวิญญาณที่สร้างขึ้นเมื่อวาน เรื่องพลังปราณฟ้าดินไม่เพียงพอนี้ก็ไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป

เคล็ดกายาเทวะที่จ้าวเทียนได้ให้ไปมีเพียงสามขั้นแรกเท่านั้น ซึ่งจะทำให้มีพลังอยู่ในขอบเขตปรมาจารย์ ส่วนขั้นถัดไปเขาจะเลือกสอนให้เฉพาะผู้ที่มีความสามารถจริงๆเท่านั้น

จ้าวเทียนได้ท่องเคล็ดวิชาทั้งสองออกมาและอธิบายอย่างละเอียด สำหรับกองกำลังของเขาไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโอสถเพิ่มระดับฝึกตน

เพราะแค่เพียงเคล็ดวิชาชั้นยอดกับพื้นที่ฝึกฝนที่มีพลังหนาแน่นกว่าภายนอกร้อยเท่า มันก็คงเพียงพอแล้ว

‘ หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งเดือน พวกเขาเหล่านี้จะต้องสร้างความตกตะลึงให้ทุกคนแน่นอน ’

หลังจากผ่านไปประมาณสามชั่วโมงการถ่ายทอดเคล็ดวิชาก็เสร็จสิ้น ส่วนคนไหนที่ยังจำไม่ได้ก็สามารถไปสอบถามจากหัวหน้ากลุ่มของตัวเอง

ซึ่งจ้าวเทียนได้คัดเลือกจากพรสวรรค์และความแข็งแกร่งของจิตใจ เหมือนที่ใช้ทดสอบกับทหารทั้งห้าสิบคนที่เฉินจิ้งพามา

หลังจากที่ปล่อยให้ลูกน้องของเขาได้ฝึกฝนกันเอง จ้าวเทียนก็ได้เรียกเฉินจิ้งเข้ามาหา เพื่อทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้

“ เพราะเส้นลมปราณของนายถูกทำลาย…ทำให้นายฝึกกายาเทวะไม่ได้ แต่ฉันได้เลือกสิ่งที่เหมาะสมกับความสามารถพิเศษของนายไว้แล้ว ”

“ แม้ว่ามันจะต้องอาศัยความอดทนรับความเจ็บปวดเกินกว่าที่มนุษย์จะทนได้ แต่ถ้าเป็นนายคงจะทำได้สำเร็จ อย่าทำให้ฉันผิดหวังล่ะ ” จ้าวเทียนได้พูดกับเฉินจิ้งอย่างจริงจัง

วิ้งงง!

เขาได้ใช้นิ้วชี้สัมผัสไปที่หน้าผากของเฉินจิ้ง เกิดเป็นละอองแสงสีทองกระจายออกมา นี่คือการใช้สัมผัสวิญญาณถ่ายทอดข้อมูลเข้าสู่สมองโดยตรง

มันเป็นวิธีที่ใช้กันบนแดนสวรรค์ ซึ่งต้องอาศัยการควบคุมพลังที่ละเอียดอ่อน ทั้งผู้ที่รับข้อมูลจะต้องเชื่อใจอีกฝ่ายเป็นอย่างมาก

เพราะหากเกิดข้อผิดพลาดแม้เพียงนิดเดียว อาจถึงขั้นความจำเสื่อมหรือกลายเป็นคนปัญญาอ่อน ข้อดีของมันคือจะทำให้ผู้รับข้อมูลสามารถเข้าใจวิชานั้นๆได้ลึกซึ้งทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน