ตอนที่จ้าวเทียนกำลังตรวจสอบอีกฝ่าย ตัวเขาเองก็โดนคนพวกนั้นตรวจสอบเช่นกัน ทั้งยังง่ายดายกว่าวิธีที่จ้าวเทียนใช้มาก ตรวจสอบเอาจากกลิ่นอายก็รู้ได้ทันที
ซึ่งทางฝ่ายของสองมหาอำนาจก็ได้คำตอบที่ต้องการแล้ว เนื่องจากพวกเขาสามารถยืนยันได้แล้วว่าจ้าวเทียนไม่ใช่คนจากโลกทิพย์ กลิ่นอายจากร่างกายของจ้าวเทียนเป็นของโลกวัตถุ
ทางฝั่งของศาสนจักรแห่งแสงเมื่อได้รู้ความจริงก็ไม่ได้แสดงออกอะไรมากนัก พวกเธอไม่ได้ดูถูกความสามารถของคนบนโลกวัตถุ ในกรณีของต้วนมู่เฉียนก็เห็นได้ชัดเจนอยู่
แต่ไม่ใช่สำหรับฝั่งอเมริกา โดยเฉพาะเฮลเฟลที่ถือตนว่ามาจากโลกระดับสูงกว่า ทำให้ดูถูกคนจากโลกวัตถุที่มีระดับต่ำ
ในตอนแรกเขาเห็นว่าจ้าวเทียนมีความสามารถด้านไฟเช่นกัน เลยคิดว่าเป็นคนที่มาจากโลกแห่งเปลวเพลิงเหมือนกับตัวเขา เลยต้องการจะดึงไปเป็นพวก เพื่อคานอำนาจกับธันเดอร์
‘ ที่แท้ก็เป็นพวกชนพื้นเมืองโลกวัตถุ…เสียเวลาฉันจริงๆ เอาเถอะคิดซะว่ามาเที่ยวกับออโรร่าก็แล้วกัน ’
“ พวกเธอคุยกันตามสบาย…ไม่ต้องสนใจฉัน ” อ๋าวเฟิงพูดขึ้นแบบสบายๆ เขายกถ้วยชาขึ้นมาจิบ เหมือนกำลังรอดูเรื่องสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้น
เมื่อได้ยินแบบนั้นธันเดอร์ก็ลอบหัวเราะภายในใจ เขาคิดแล้วว่ามันต้องเป็นแบบนี้ เพราะเขารู้นิสัยของไอ้เฒ่าคนนี้ดี
“ นายชื่อจ้าวเทียนใช่ไหม…ฉันเป็นใครนายคงจะรู้อยู่แล้ว ที่พวกเรามาในวันนี้เพราะต้องการจะพูดคุยถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะนาย ”
“ ก่อนอื่นเลย…เรื่องพลังที่นายแสดงออกมา มันเป็นอันตรายต่อโลก หากวันไหนนายเสียการควบคุมขึ้นมาจะต้องมีผู้คนล้มตายนับไม่ถ้วน ”
“ เพราะฉะนั้นในนามขององค์กรที่ตั้งขึ้นเพื่อปกป้องโลก…คงต้องให้นายมาอยู่ในความดูแลของพวกเราซักพัก ” ธันเดอร์พูดด้วยใบหน้าจริงจัง แต่ในใจเขารู้สึกเบื่อหน่าย เพราะเขาพูดประโยคพวกนี้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว
ทุกครั้งที่มีการค้นพบผู้มีพลังพิเศษ ก็จะเริ่มจากโน้มน้าวก่อน แต่หากอีกฝ่ายไม่ยอมก็กำจัดซะ เป็นแบบนี้มาตลอดตั้งแต่องค์กรซีลด์ถูกก่อตั้งขึ้น
“ ฉันควบคุมพลังของตัวเองได้…พวกคุณไม่ต้องกังวล ” จ้าวเทียนตอบด้วยน้ำเสียงเฉยชา ทำไมเขาจะมองอีกฝ่ายไม่ออก
เหตุผลที่อีกฝ่ายบอกมามันไร้สาระมาก ถ้ายึดตามที่พวกเขาบอกแสดงว่าผู้ที่มีพลังพิเศษระดับสูงทั่วโลกคงต้องไปเข้าร่วมกับอเมริกาหมด
“ ฉันก็คิดอยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้ ” ธันเดอร์พูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย เขาลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ
สายตาของเขาไม่ได้มองที่จ้าวเทียนแม้แต่น้อย เพราะอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ในสายตาของเขา ตอนนี้เขากำลังสังเกตความเคลื่อนไหวของโซเฟียอยู่ตลอดเวลา แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงนิ่งอยู่ เขาก็รู้สึกโล่งใจ
ในขณะที่ธันเดอร์กำลังจะลงมือนั้นเอง…
“ จ้าวเทียนนายสนใจมาเข้าร่วมศาสนจักรแห่งแสงไหม ” ออโรร่าถามขึ้นด้วยรอยยิ้มจริงใจ ทำให้ทุกคนหันไปมองที่เธอกันหมด แม้แต่ตัวโซเฟียเองก็มีท่าทีสงสัยต่อความคิดของลูกศิษย์
!!
“ ออโรร่านี่คุณ… ” เฮลเฟลร้องออกมาด้วยความตกใจ เขาไม่คิดว่าคนพูดจะเป็นออโรร่า ไม่ใช่ท่านหญิงโซเฟีย สายตาของเขากวาดมองไปทางจ้าวเทียนอีกครั้ง
แววตาของเขาเริ่มดุดันขึ้น
‘ อย่าบอกว่า…เธอสนใจไอ้เด็กนี่นะ ’
จ้าวเทียนเองก็รู้สึกแปลกใจเช่นกัน แต่เขาก็ยังคงยืนยันความคิดเดิม
“ ผมไม่สนใจ ”
“ นายจะไม่ลองเปิดใจดูหน่อยเหรอ…องค์กรของเราเหนือกว่ารัฐบาลจีนมากนะ ถ้านายกังวลเรื่องทรัพยากรฝึกตน นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเลย ตอนนี้เรามีสาขาอยู่ที่ประเทศจีนด้วย สามารถจัดหาทรัพยากรให้นายได้แน่นอน ”
ออโรร่ายังคงยื่นข้อเสนออีกครั้ง แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังคงปฏิเสธ เธอจึงถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย
‘ ฉันรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดา…คงน่าเสียดายหากต้องถูกพวกอเมริกากำจัดไป ’
บูมมม!
เปลวไฟระเบิดออกมาจากร่างของเฮลเฟลอย่างรุนแรง ตอนนี้เขาตัดสินใจแล้ว จ้าวเทียนต้องตายที่นี่
ฝ่ายธันเดอร์เมื่อมองเห็นว่าเฮลเฟลกำลังจะจัดการจ้าวเทียน เขาก็ยอมถอยออกมา อย่างไรซะจ้าวเทียนก็ต้องตาย ส่วนจะตายเพราะใครเขาไม่จำเป็นต้องใส่ใจ
ครืนนน
ม่านพลังสีฟ้าโปร่งใสได้ครอบเกาะทั้งหมดเอาไว้
“ เขตแดนวารี! ”
!!
ทุกคนหันกลับไปมองอ๋าวเฟิงทันที ในเมื่ออีกฝ่ายเป็นคนบอกเองว่าจะดูอยู่เฉยๆ ทำไมถึงได้สอดมือเข้ามา
“ ฉันก็แค่ปกป้องเกาะของฉัน…พวกเธอเชิญสู้กันตามสบายเถอะ ” อ๋าวเฟิงพูดขึ้นด้วยเสียงเฉยชา
“ เขตแดนนี้…จำกัดพลังของฉันเหลือแค่ระดับ A ” ธันเดอร์พูดออกมาด้วยความกังวล นี่มันต่างจากที่เขาคิดไว้ ไอ้เฒ่านี่คิดจะเข้าข้างพวกประเทศจีนงั้นเหรอ
“ แต่มันไม่มีผลกับฉัน…ไอ้หนูออกไปเจอกับฉันหน่อย จะได้ตรวจสอบดูว่าแกควบคุมพลังของตัวเองได้จริงไหม ” เฮลเฟลพูดเยาะเย้ยออกมาอย่างลำพองใจ
“ ระวังตัวด้วย…หากไม่ไหวจริงๆก็รีบยอมแพ้ ผู้อาวุโสอ๋าวเฟิงรับปากผู้อาวุโสต้วนมู่แล้วว่าจะคุ้มครองชีวิตเธอ ” หวังฝูหมิงพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน