จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน นิยาย บท 94

ย้อนกลับไปสามสิบนาทีก่อนหน้านี้

ภายในโบราณสถานใต้ทะเล หลังจากที่อ๋าวเฟิงได้ตรวจสอบเมล็ดพันธุ์สุริยันของจ้าวเทียนอย่างจริงจังเรียบร้อย

“ น่าสนใจ…สมกับเป็นเคล็ดวิชาของซวนตี้เหยียนจริงๆ ” อ๋าวเฟิงพยักหน้าชื่นชม

“ ผู้อาวุโสรู้จักผู้คิดค้นเคล็ดวิชาหมื่นตะวันด้วยเหรอครับ ” จ้าวเทียนถามด้วยความสงสัย ตัวเขาไม่ได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับเคล็ดวิชานี้นัก

ในตอนที่เขาค้นพบเคล็ดวิชานี้ที่คลังสมบัติของมหาเทพองค์ก่อน มันก็ไม่ได้มีบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับประวัติของเคล็ดวิชาเอาไว้

หากไม่ใช่ว่ามันถูกเก็บเอาในส่วนสำคัญของคลังสมบัติ บางทีเขาอาจจะไม่สนใจมันเลยก็ได้ ภายหลังจากที่ลองศึกษาดูถึงได้รู้ว่าเป็นเคล็ดวิชาขั้นสูงสุดในระดับเทวะ

ส่วนเหตุผลที่มหาเทพองค์ก่อนไม่ได้ฝึกฝนมัน คงเป็นเพราะต้องเริ่มฝึกใหม่ตั้งแต่ต้น อีกทั้งไม่รู้ว่าจะไปหาแก่นแท้ดวงตะวันจากที่ไหน

ต้องยอมรับว่าตัวจ้าวเทียนนั้นโชคดีมาก ที่ได้รับการยอมรับจากเทพธิดาซวนเฉวียนและได้แก่นแท้ดวงตะวันมา ไม่อย่างนั้นเมื่อฝึกไปถึงขั้นโลกา เขาอาจจะต้องตามหาของสิ่งนี้จนหัวหมุน

“ ใช่…ฉันรู้จักดีเลยล่ะ เขาเป็นสิ่งมีชีวิตยุคแรกที่ได้สืบทอดพลังของผานกู่ และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งแดนสวรรค์โบราณ ” อ๋าวเฟิงตอบด้วยใบหน้าจริงจัง

!!

เมื่อเห็นใบหน้าตกตะลึงของจ้าวเทียน อ๋าวเฟิงก็ยิ้มออกมา หลังจากที่จิบชาเบาๆ เขาก็ได้พูดต่อ

“ เธอรู้ไหม…ในยุคแรกของจักรวาล แดนสวรรค์โบราณเป็นผู้ปกครองเพียงหนึ่งเดียว ในตอนนั้นแม้จะมีสิ่งมีชีวิตทรงอำนาจอื่นก่อตั้งขุมกำลังของตัวเองขึ้นมา แต่ก็ไม่อาจเทียบกับแดนสวรรค์โบราณได้ ”

“ สามผู้ก่อตั้งแดนสวรรค์โบราณในตอนนั้น…คือผู้ปกครองที่แท้จริง ” อ๋าวเฟิงพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง แม้ว่าตัวเขาจะอยู่มานานตั้งแต่ยุคก่อกำเนิดจักรวาล แต่ก็ไม่กล้าพูดว่าสามารถเอาชนะทั้งสามคนนั้นได้

“ หากแดนสวรรค์โบราณเป็นผู้ปกครองที่แท้จริง…งั้นทำไมถึงได้เกิดมหาสงครามละครับ ” จ้าวเทียนถามขึ้นอีกครั้ง เขารู้สึกว่าสิ่งที่อ๋าวเฟิงเล่ามันขัดแย้งกับประวัติศาสตร์ที่แท้จริง

“ มันเป็นเพราะสามผู้ปกครองได้หายไปไงล่ะ…หลังจากก่อตั้งแดนสวรรค์โบราณได้ประมาณสิบล้านล้านปี พวกเขาก็ได้หายตัวไป ทำให้ขุมกำลังอื่นๆฉวยโอกาสผงาดขึ้นมาบ้าง ”

“ และแดนนรกอเวจีคือขุมกำลังที่แข็งแกร่งที่สุด…ในบรรดาขุมกำลังอื่นๆนอกจากแดนสวรรค์โบราณ ทำให้เกิดการต่อสู้ช่วงชิงกันหลายร้อยล้านล้านปี ”

“ จนสุดท้าย…ก็ได้เกิดเป็นมหาสงครามสิ้นยุคอย่างที่เธอได้รู้มา ” อ๋าวเฟิงได้อธิบายให้จ้าวเทียนฟังอย่างละเอียด

“ สามผู้ปกครอง…พวกเขาหายไปไหนเหรอครับ ” จ้าวเทียนถามด้วยสีหน้าครุ่นคิด เรื่องที่ได้ยินมันได้เปลี่ยนแปลงมุมมองของเขาอย่างสิ้นเชิง

‘ หากที่ผู้อาวุโสเล่ามาเป็นเรื่องจริง…ผู้ปกครองทั้งสามต้องแข็งแกร่งขนาดไหนถึงอยู่เหนือสิ่งมีชีวิตทรงอำนาจทั้งหมด ’

‘ เพราะเท่าที่ฉันรู้มา…สมัยก่อนมีจักรพรรดิเทพเกิดขึ้นมากมาย แม้แต่ในสงครามครั้งสุดท้ายยังมีขอบเขตจักรพรรดิเทพเข้าร่วมเกือบยี่สิบองค์’

“ พวกเขาหายไปไหน…ฉันเองก็ไม่รู้ ” อ๋าวเฟิงตอบออกมาเบาๆ นี่ก็เป็นเรื่องที่เขาสงสัยมาเนิ่นนาน แม้ว่าจะพยายามค้นหาเบาะแสมากแค่ไหน แต่ก็ไม่เคยได้รับคำตอบ

“ เอาล่ะ…เรามาพูดกันถึงเรื่องเคล็ดวิชาของเธอดีกว่า เท่าที่ฉันรู้มามันได้รับการสืบทอดมาจากศิษย์เพียงคนเดียวของผู้ปกครองซวนตี้เหยียน ”

“ หลังจากผ่านมาหลายร้อยล้านล้านปีจนถึงมหาสงครามครั้งสุดท้าย…เธอคงจะเป็นรุ่นที่สิบ ”

!!

เมื่อได้ยินแบบนั้นจ้าวเทียนก็มีแววตาเปลี่ยนไป…

“ ผู้อาวุโสจะบอกว่า…ในช่วงเวลายาวนานขนาดนั้น มีผู้ฝึกวิชานี้เพียงแค่สิบคนเหรอครับ มันจะเป็นไปได้อย่างไร ” จ้าวเทียนมีท่าทีไม่เชื่อถือ

วิชาที่แข็งแกร่งขนาดนี้จะไม่มีคนฝึกได้อย่างไร แค่ลูกหลานของผู้สืบทอดแต่ละรุ่นก็น่าจะเกินสิบคนไปมากแล้ว

“ มันเป็นเรื่องจริง…ส่วนเหตุผลที่เป็นแบบนั้นก็เพราะกฎที่ผู้ก่อตั้งวิชาตั้งเอาไว้ มันเป็นสิ่งที่ผู้ฝึกวิชาทุกคนไม่อาจละเมิดได้เด็ดขาด ”

“ เคล็ดวิชาหมื่นตะวัน…จะสืบทอดได้เพียงคนเดียวในแต่ละรุ่นเท่านั้น! ”

อ๋าวเฟิงมองสีหน้าสงสัยของจ้าวเทียน แล้วพูดขึ้นต่อ

“ ยกตัวอย่างง่ายๆ…หากผู้สืบทอดรุ่นที่สองยังมีชีวิตอยู่ ก็จะไม่มีผู้สืบทอดรุ่นที่สี่เกิดขึ้น ผู้สืบทอดรุ่นที่สามต้องรอให้อาจารย์ดับสูญไปก่อน จึงจะรับศิษย์ได้ ”

“ เธอรู้เหตุผลของมันไหม ” อ๋าวเฟิงถามขึ้นด้วยรอยยิ้ม

“ แก่นแท้ดวงตะวัน…ใช่ไหมครับ ” จ้าวเทียนตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ ถูกต้อง…เป็นเพราะแก่นแท้ดวงตะวัน ของสิ่งนี้เกิดจากดวงอาทิตย์ที่กำลังจะดับสูญ ช่วงเวลาหลายล้านล้านปีถึงจะเกิดขึ้นซักครั้ง ”

“ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สืบทอดของตนเข่นฆ่ากันเอง…เพื่อช่วงชิงแก่นแท้ดวงตะวัน จึงตรากฎนี้ขึ้นมา”

“ ในจักรวาลจะมีคนหลอมรวมกับแก่นแท้ดวงตะวันได้เพียงคนเดียวเท่านั้น และฉันขอบอกเธอไว้อย่างนะ ”

“วาจาสิทธิ์ที่ผู้ปกครองเอ่ยออกมา…มันสามารถเปลี่ยนแปลงกฎของจักรวาลได้ หากมีผู้ฝ่าฝืนจะโดนพลังของจักรวาลทำลายทันที ”

“ แม้ว่าผู้ปกครองจะไม่อยู่แล้ว…แต่กฎนี้จะคงอยู่ในจักรวาลตลอดไป จนกว่าจะมีผู้ปกครองคนใหม่ที่แข็งแกร่งกว่ามาเปลี่ยนมัน ”

ตอนนี้จ้าวเทียนรู้สึกหนาวเย็นที่แผ่นหลัง ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนเคร่งเครียด

“ ผู้อาวุโส…ในยุคนี้มีผู้สืบทอดเคล็ดวิชาหมื่นตะวันคนอื่นไหมครับ ”

“ ข้อนี้ฉันเองก็ไม่รู้…แต่หลังจากรุ่นที่เก้าดับสูญไปในมหาสงคราม เธอเป็นคนแรกที่ฉันพบว่าฝึกวิชานี้ ”

“ ไม่ต้องกังวลไปหรอก…การที่เธอยังมีชีวิตอยู่หลังจากที่หลอมรวมแก่นแท้ดวงตะวันแล้ว นั่นหมายความว่าเธอคือรุ่นที่สิบ ”

เมื่อได้รับคำยืนยันจากอ๋าวเฟิง จ้าวเทียนจึงค่อยผ่อนคลายความเคร่งเครียดลง

ตอนนี้ตัวเขาได้รู้แล้วว่าทำไมอ๋าวเฟิงถึงสนใจเคล็ดวิชาหมื่นตะวันขนาดนี้ เพราะมันคือเคล็ดวิชาที่ถูกสร้างโดยสิ่งมีชีวิตระดับผู้ปกครองจักวาล

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน