การนัดพบของประเทศจีนกับสองมหาอำนาจในวันนี้ ได้กลับกลายเป็นการดวลกันระหว่างยอดฝีมือรุ่นใหม่อย่างจ้าวเทียนกับผู้ที่ติดอันดับโลกอย่างธันเดอร์และเฮลเฟล
แม้ว่าในรอบแรกจ้าวเทียนจะสามารถเอาชนะเฮลเฟลมาได้อย่างไม่ยากเย็น แต่ไม่ใช่สำหรับธันเดอร์ เพราะเขาเป็นถึงยอดฝีมือระดับ S ที่บนโลกนี้มีอยู่ไม่ถึงสิบคน
แม้ว่าในการปะทะกันครั้งแรกผู้ที่ได้เปรียบจะเป็นจ้าวเทียน แต่นั่นยังไม่ใช่บทสรุปของการต่อสู้ ซึ่งผู้คนที่กำลังยืนดูการต่อสู้อยู่ต่างก็รู้ในข้อนี้ดี
“ พรศักดิ์สิทธิ์! ”
วูป!
ฝ่ามือของออโรร่าเปล่งแสงสว่างอันเจิดจ้าออกมา ทำให้บาดแผลไฟไหม้ที่อยู่บนตัวของเฮลเฟลถูกรักษาอย่างรวดเร็วจนมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ภายในไม่ถึงสิบนาที ร่างกายของเฮลเฟลก็ปราศจากบาดแผล แม้กระทั่งกระดูกขาของเขาที่ถูกจ้าวเทียนกระทืบจนหัก ก็ยังประสานตัวกันภายในพริบตา
ตอนนี้นอกจากอาการเหนื่อยล้าเพราะสูญเสียพลังไปมาก ร่างกายของเฮลเฟลก็แทบจะเป็นปกติดีทุกอย่าง
นี่คือพลังการรักษาอันสุดยอดของเผ่าพันธุ์แห่งแสงสว่าง ซึ่งเป็นพลังที่ได้เปรียบอย่างมาก เพราะเมื่อใดก็ตามที่เกิดสงครามขึ้นบนเก้าท้องฟ้าสิบแผ่นดิน หากเผ่าแสงสว่างไปเข้าร่วมกับฝ่ายไหนก็แทบจะมีโอกาสชนะเพิ่มขึ้น 3-4 ส่วน
การใช้พรศักดิ์สิทธิ์เมื่อครู่ สิ้นเปลืองพลังของออโรร่าไปนิดเดียวเท่านั้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบาดแผลของเฮลเฟลไม่ได้สาหัสมาก เนื่องจากร่างกายของเขาอยู่ระดับ A ซึ่งมีพลังการฟื้นตัวสูงทำให้การรักษาส่งผลอย่างรวดเร็ว
“ ขอบคุณมากนะ…ออโรร่า ” เฮลเฟลพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ ไม่เป็นไรหรอก…ยังไงวันนี้คุณก็มาพร้อมกับฉัน ” ออโรร่าพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม แม้ว่าภายในใจของเธอจะไม่ค่อยชอบเฮลเฟลนัก แต่อย่างน้อยอีกฝ่ายก็ปฏิบัติต่อเธออย่างดีมาโดยตลอด เธอคงไม่สามารถปล่อยทิ้งไว้ได้
หลังจากที่จัดการเรื่องนี้เสร็จ สายตาของเธอก็มองไปยังการต่อสู้ของชายทั้งสองคนต่อ ซึ่งตอนนี้มันกำลังจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง
“ ฮ่า ฮา ยกต่อไปงั้นเหรอ…แกกล้าดีนี่ไอ้หนู ” ธันเดอร์พูดขึ้น ใบหน้าดุดัน ตอนนี้เขาไม่ได้สนใจแขนซ้ายที่บาดเจ็บแม้แต่น้อย
ตัวของเขาลอยขึ้นช้าๆจนสูงกว่าพื้นดินประมาณสิบเมตร
เปรี๊ยะๆๆ
สายฟ้าสีขาวหลายสายระเบิดออกมารอบตัวเขาไม่หยุด ผมยาวสีทองยกขึ้นสูงชี้ไปทั่ว ภายใต้ผลของสนามแม่เหล็ก มันพลิ้วและดูเท่มาก
รูม่านตาของเขาเปล่งแสงสีฟ้าขาวออกมา ผสานกับพลังจากฟ้าผ่า ทำให้ดูหน้าเกรงขามขึ้นเป็นอย่างมาก
ครืนนน!
เหมือนกับสวรรค์เบื้องบนตอบรับกับพลังอำนาจของเทพเจ้าสายฟ้า เมฆดำเริ่มก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมันกินอาณาเขตปกคลุมเกาะทั้งเกาะในพริบตา
เปรี้ยง!ๆๆ
พายุสายฟ้าได้ก่อตัวขึ้น มีสายฟ้าสองสามสายผ่าลงมาอย่างน่ากลัว แต่ก็ติดม่านพลังเขตแดนของอ๋าวเฟิงทำให้ลดทอนอานุภาพไปหลายส่วน
ทันใดนั้น
ธันเดอร์ยกมือขวาขึ้นคว้าจับบางสิ่งจากท้องฟ้าเบื้องบน แล้วตะโกนขึ้นเสียงดัง
“โยเนียร์! ”
!!
สีหน้าของโซเฟียเปลี่ยนไปทันที
เธอโบกมือสองครั้ง ทำให้กำแพงศักดิ์สิทธิ์ได้เพิ่มความหนาขึ้นเป็นสามชั้น เพื่อให้สามารถปกป้องคนของเธอได้
ตรึมมม!
เสาลำแสงทะลุท้องฟ้าลงมาปะทะเข้ากับม่านพลังของอ๋าวเฟิงเสียงดัง ก่อนที่จะฉีกกระชากจนเกิดเป็นช่องโหว่ขึ้น
เปรี้ยง!
เสาสำแสงได้ปะทะกับมือขวาของธันเดอร์ จากนั้นเมื่อแสงสว่างหายไปในมือของเขาก็มีค้อนเหล็กขึ้นมาหนึ่งอัน
เมื่อมองไปที่ค้อนอันนั้น นัยน์ตาของจ้าวเทียนก็หดเล็กลงทันที เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังของอาวุธระดับเทพเจ้าได้
‘ ไม่สิ…อาวุธเทพเจ้าไม่สามารถใช้ในโลกวัตถุได้ นี่คงเป็นการเรียกร่างจำแลงของอาวุธเทพเจ้ามา แม้ว่ามันจะมีพลังเพียงหนึ่งในสิบจากของเดิม แต่ก็ทรงพลังเหนือกว่าอาวุธระดับเทพไปไกล ’
“ กระบี่ราชันสวรรค์! ”
วูป
กระบี่สีทองปรากฏขึ้นในมือจ้าวเทียนทันที
เมื่อเห็นอีกฝ่ายเรียกอาวุธออกมา ธันเดอร์ก็ยิ้มขึ้นอย่างเย็นชา มือขวาที่จับค้อนโยเนียร์เอาไว้หมุนเร็วขึ้นเรื่อยๆ
เกลียวพายุสายฟ้าเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว มันมีกระแสไฟฟ้านับร้อยสายหมุนวนอยู่ด้านใน เมื่อพลังทำลายล้างสะสมจนถึงขีดสุด
พริบตานั้นเอง
ฟุ่บ!
ค้อนโยเนียร์หายไปอยู่ตรงหน้าจ้าวเทียนเหมือนทะลุมิติ จนเขาตั้งตัวไม่ทัน
เปรี้ยง!
มันปะทะเข้ากับกระบี่ของจ้าวเทียนอย่างแรง จนตัวเขากระเด็นถอยหลังไปหลายสิบเมตร มือข้างที่ถือกระบี่อยู่สั่นสะท้านไม่หยุด
บึ้ม!
ตูมม!
เสียงราวกับฟ้าผ่าดังออกมาจากจุดที่จ้าวเทียนยืนอยู่ พลังงานสีขาวที่เกิดจากการรวมตัวของสายฟ้าปกคลุมตัวเขาเอาไว้เหมือนต้องการจะทำลายให้เป็นจุล
รัศมีการระเบิดของสายฟ้ากินพื้นที่กว้างเกือบพันเมตร ทั้งยังรุนแรงกว่าการปะทะครั้งก่อนมากนัก แต่โชคดีที่โซเฟียได้มีการเตรียมตัวเอาไว้ก่อน จึงต้านทานเอาไว้ได้
ส่วนทางด้านเจ้าหน้าที่จากประเทศจีน เพราะได้รับการปกป้องจากอ๋าวเฟิงเลยไม่ได้รับผลกระทบใดๆทั้งสิ้น
สีหน้าของจ้าวเทียนในตอนนี้เคร่งเครียดมาก เขาฟันกระบี่ไปด้านหน้าอย่างรุนแรงสามครั้ง ตรงจุดเดียวกัน
“ เพลิงสุริยัน! ”
“ เพลิงสุริยัน! ”
“ เพลิงสุริยัน! ”
เปรี้ยง!ๆๆ
คลื่นเปลวเพลิงสีทองระเบิดออกมาถึงสามสาย จึงสามารถทำลายลูกพลังงานสายฟ้าจนแหลกกระจายได้ จากนั้นก็กระแทกค้อนเหล็กจนกระเด็นไปไกล
วูป!
หมับ!
ค้อนโยเนียร์บินกลับมาอยู่ในมือของธันเดอร์อีกครั้ง ความต้องการฆ่าในแววตาของเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
‘ ฉันปล่อยให้มันมีชีวิตต่อไปไม่ได้…เด็กคนนี้น่ากลัวเกินไป ทั้งที่มีอายุเพียงแค่ยี่สิบปีเท่านั้น กลับสามารถรับมือกับร่างจำแลงของอาวุธระดับเทพเจ้าได้ ’
‘ หากให้เวลาเติบโตมันอีกไม่กี่ปี…ถึงตอนนั้นฉันคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันแล้ว ’
มือที่จับค้อนโยเนียร์เริ่มหมุนขึ้นอีกครั้ง แววตาเขาจับจ้องไปที่จ้าวเทียนอย่างดุดัน ในคราวนี้เขาจะโจมตีพร้อมกับค้อนคู่กาย
จ้าวเทียนที่เห็นแบบนั้นก็ตัดสินใจได้ในที่สุด การโจมตีเมื่อกี้มันสร้างอาการบาดเจ็บภายในให้เขาอยากหนักหน่วง แม้แต่ร่างกายอันแข็งแกร่งของเขายังแทบทนไม่ไหว
‘ ฉันคงออมมืออีกไม่ได้แล้ว…หากไม่ปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาคงต้องแพ้แน่ ’
เพราะไม่รู้ว่าศาสนจักรแห่งแสงจะลงมือหรือเปล่า ทำให้เขาต้องคอยเก็บซ่อนพลังส่วนหนึ่งเอาไว้รับมือ
แต่เวลานี้เขาคงต้องเอาจริงแล้ว…
“ เคล็ดกระบี่บูรพาสังหาร! ”
วูป!
ในสายตาของจ้าวเทียน สนามต่อสู้ได้ทับซ้อนกับทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จุติใหม่มหาเทพตี้เทียน