ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 113

ตอนที่113เลือกฤกษ์สมรส

ในตำหนักเย่ห้องที่ตกแต่งอย่างสวยงามไม่มีคนอยู่แม้แต่สักคนพอมองไปอย่างละเอียดตรงระเบียงมีหญิงสาวที่สวมใส่ชุดสีเขียวอ่อนยืนอยู่ถึงแม้นางจะมีเรือนร่างที่ผอมบางและจะปีนหน้าต่างสูงๆนี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

“ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะปีนออกไปไม่ได้หน้าต่างบ้าอะไรถึงกล้ามาเป็นศัตรูกับข้าต้องมีสักวันที่จะโดนทำลาย”เย่เซียวหลัวพูดกับตัวเองอยู่และเดินมุ่งไปตรงหน้าต่างเพื่อโดด

มองไปข้างล่างของระเบียงหน้าต่างดอกไม้เป็นช่อๆกำลังผลิบานอย่างสวยงามเย่เซียวหลัวหายใจแรงๆและยืนอยู่ตรงระเบียงมองดอกไม้ข้างล่างในใจรู้สึกสั่นเพื่อที่จะหนีออกไปจากที่นี่นางตัดสินใจโดดนางถูกขังไว้ห้องๆนี้หลายวันจนเกือบจะกลายเป็นศพจนแห้ง

เวินอ๋องกลับวัง แต่ไม่ได้มาหานาง ดี ถ้าเขาใม่มางั้นนางจะไปหาเองยังไงก็ต้องเจอหน้ากันให้ได้จะได้รู้ว่าระหว่างเขาสองคนเป็นอะไรกันยังไงนางก็ทูลฮองเฮาอย่างชัดเจนแล้วว่าชีวิตนี้นอกจากเวินอ๋องนางจะไม่ยอมเป็นของใคร

ตัวกระโดดขึ้นเบาๆและตามมาด้วยเสียงกรีดร้องสะโพกของนางได้ทับและล้มพวกกระถางดอกไม้ไปเรียบร้อยและยังไม่ทันได้จัดให้เป็นระเบียบและตบกระโปรงตัวเองเบาๆแล้วมุ่งหน้าไปยังทิศตะวันออกของสวนที่นั่นมีประตูหลัง

นางกำลังยื่นอยู่ขอบประตูหลังและถอนหายใจเบาๆกำลังจะเตรียมตัวเปิดประตูหลังออกไปทันใดนั้นไหล่ของนางถูกใครบางคนจับไว้มีเสียงหัวเราะชั่วร้ายดังขึ้นหลังหูของนาง“น้องสามเจ้าจะไปไหนหรือ?”

พอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยทีแรกเย่เซียวหลัวที่กำลังรู้สึกกังวลใจได้ผ่อนคลายลงและหันไปตบแผงอกของเย่วิ๋นกว่าง“ท่านพี่สองทำให้น้องตกใจหมดเลยน้องอยากไปหาเวินอ๋องท่านพี่อย่าขัดขวางน้องเลย”

เย่วิ๋นกว่างเดินตามนางมาตลอดทางตั้งแต่ที่ท่านพ่อรู้ว่าเวินอ๋องกลับมาก็ขังนางไว้เพื่อที่จะไม่ให้นางเจอกับเวินอ๋องแต่ก็จะทำให้เขาเจอน้องสาวที่กำลังจะหนีคือไม่อยากให้น้องสาวต้องเสียใจหรือเขาใจอ่อนลงและจะปล่อยนางไป

“น้องสามช่วงเย็นเจ้าต้องกลับมาส่วนทางท่านพ่อพี่จะช่วยเจ้าเฝ้าว้”เย่วิ๋นกว่างมองหน้านางแล้วพยักหน้ามือจับประตูไว้และเตรียมตัวผลักประตูออกมีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านหลังของพวกเขา

เสียงฝีเท้านั้นยิ่งอยู่ยิ่งชัดเจนมากขึ้นและค่อยๆเข้าใกล้เขาสองคนเย่กั๋วกงยืนนิ่งอยู่หลังพวกเขาสีหน้าดูโกรธและจ้องหน้าเย่เซียวหบัวและเย่วิ๋นกว่างและพูดด้วยเสียงน่ากลัว“พวกเจ้ากำลังทำอะไร?ลูกหลัวทำไมเจ้าไม่อยู่ในห้องออกมาทำอะไร?

ได้ยินเสียงจริงจังอย่างนี้ใจของเย่เซียวหลัวที่พึ่งโล่งไปกลับมาหนักหน่วงอีกครั้งและหันหน้ากลับมาอย่างตกใจก้มหน้าไม่กล้ามองเขา

เย่กั๋วกงเข้มงวดกับลูกๆด้วยความหวังดีลูกที่ตนเลี้ยงมากับมือกลับไม่มีอะไรที่ทำดูโดดเด่นทั้งเย่เซียวหลัวและเย่วิ๋นกว่างเป็นแบบนี้กันหมดคนเฒ่าอย่างเขากังวลใจแทนพวกเขาจริงๆ

“ท่านพ่อ”ทั้งสองยืนใกล้กันมากๆและพูดด้วยโทนเสียงต่ำ

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรแค่นึกไม่ถึงว่าเย่วิ๋นกว่างกลับมาช่วยเย่เซียวหลัวหนีออกไปแขนเสื้อที่สะบัดขึ้นของตนทำให้บ่าวที่ติดตามจับตัวพวกเขาทั้งสองกลับห้องโถง

“ลูกหลัวเจ้าอยากออกไปเจอเวินอ๋องใช่ไหม?ข้าจะบอกเจ้าข้าเคยทูลถามฝ่าบาทเรื่องของเวินอ๋องแล้วเขาไม่อยากสมรสกัยเจ้าข้ากับฝ่าบาทเลือกฤกษ์สมรสดีๆจะให้เจ้าได้สมรสกับองค์รัชทายาท”เมื่อเย่กั๋วกงตัดสินใจบางอย่างในใจอย่างเด็ดขาดการบอกเรื่องจริงออกไปจะทำให้เย่เซียวหลัวเลิกคิดอะไรที่เป็นไปไม่ได้

คำๆนี้เหมือนฟ้าผ่าลงบนหัวของเย่เซียวหลัวเวินอ๋องไม่อยากสมรสกับนางหรือ?

ชีวิตที่ผ่านมาที่นางมัวแต่คิดถึงชายที่ออกไปสู้รบแค่คำพูดของเย่กั๋วกงก็ทุกอย่างจบลงเพราะว่าความคิดถึงและความยืนหยัดของนางจึงทำให้นางสามารถอดทนและผ่านพ้นช่วงเวลานั้นมาตอนนี้ในหัวสมองของนางลอยขึ้นมาแต่คำพูด“จริงๆเขาไม่คิดจะสมรสกับเจ้า”ทำให้ความยืนหยัดของนางจางหายไปจนหมด

“ท่านพ่อท่านพ่อหลอกลูกท่านพ่อให้ลูกไปถามเขาให้ชัดเจนแค่ลูกไปถามด้วยปากตัวเองถึงจะรู้”นัยน์ตาของเย่เซียวหลัวดูซึมๆนางจับแขนเสื้อของเย่กั๋วกงไว้และร้องบอกถึง

เย่กั๋วกงสะบัดมือนางออกอย่างไร้เยื่อใยมองเย่เซียวหลัวที่ไม่ได้เรื่องในใจกำลังด่าเวินอ๋องวางยาอะไรให้นางถึงให้หลงหัวปักหัวปัมอย่างนี้อีกใจก็ตอบกลับนาง“ข้าไม่อนุญาตให้เจ้าไป ถ้าเขาอยากมาตั้งนานแล้ว จะรอให้ข้าเป็นฝ่ายไปหาเขาหรอ?”

ช่วงเวลาที่ผ่านมาตระกูลเย่ก็เป็นที่นินทาของคนข้างนอกมามากพอแล้วชาวบ้านข้างนอกปล่อยข่าวตระกูลเย่อย่างเสียๆหายๆเหลือแค่ข่าวนี้ไม่ได้มาแต่งเป็นบทเพลงร้องกันตามท้องตลาด

ตระกูลเย่ที่ใหญ่โตขนาดนี้จะไปทนเป็นขี้ปากชาวบ้านข้างนอกได้อย่างไรกันนี่ ไม่ได้เป็นแค่มีผลเสียต่อตระกูลเย่แล้ว ยังทำให้พวกเขาไม่มีหน้าไม่มีตาต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทจะทำลายชื่อเสียงที่สร้างมายาวนาน

เขาพึงพูดจบจู่ๆก็มีบ่าวผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบและทูลว่าเวินอ๋องขอเข้าพบบ่าวผู้นั้นอยู่ในตำหนักเย่มานานหลายปีก็ต้องรู้เรื่องราวของเวินอ๋องและเย่เซียวหลัวจึงไม่กล้าตัดสินใจอะไรด้วยตนเอง

เย่เซียวหลัวเหมือนเจอแหล่งน้ำในกลางทะเลทรายสายตาของนางเปล่งประกายออกมาถ้าไม่ใช่เพราะว่าเย่วิ๋นกว่างรั้งนางไว้นางคงวิ่งพุ่งออกไปข้างนอกแล้ว

“น้องสามเจ้าเข้าไปก่อนเดี๋ยวข้ากับท่านพ่อคุยกับเขาแล้วจะบอกเจ้าอีกที”เย่เซียวหลัวผลักประตูเข้าห้องและสั่งให้บ่าวสองคนเฝ้านางอยู่ข้าง

เวินอ๋องเดินก้าวใหญ่ๆเข้ามาประตูสีหน้าที่สื่อให้เห็นว่าชีวิตตนลำบากยังไม่ลดลงคิ้วที่ขมวดเป็นปมทำให้คนอื่นคาดเดาได้ยากว่าเขาคิดอะไรอยู่เรือนร่างที่ดูสง่าของเขาปรากฏต่อหน้าเย่กั๋วกงจนกระทั่งเย่กั๋วกงจะเชิญเขานั่งเขาถึงจะนั่งลง

“มิทราบว่าเวินอ๋องเสด็จมาถึงที่นี่มีอะไรจะให้กระหม่อมรับใช้ไหมขอรับ?”เย่กั๋วกงทำน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก

แค่มองหน้าของเวินอ๋องเย่กั๋วกงก็รู้สึกเต็มไปด้วยความโกรธถ้าเขาไม่รู้ว่าในใจของเวินอ๋องกำลังคิดอะไรก็คงเป็นเรื่องน่าแปลกยังไงเย่เซียวหลัวก็ไม่สมรสกับเขาตอนนี้ก็จะบอกให้ชัดเจน

เวินอ๋องเอาพระราชโองการออกมาหัวเราะแบบมีเล่ห์สนัย“เย่กั๋วกงข้ามาที่นี่ไม่มีเหตุผลอื่นแค่อยากจะมาบอกเจ้าว่าฝ่าบทได้กำลังวันสมรสเรียบร้อยณบัดนี้แล้วจะอยู่ในเดือนหน้าวันที่10ให้องค์รัชทายาทได้สมรสกับน้องเย่สามขอให้ตำหนักเจ้าเตรียมการ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก