ตอนที่117เผชิญกับศัตรู
โล่หวินหลานเดาได้ไม่ผิดคนที่อยู่หลังนางก็คือหลี่ซันสายตาของเขาปริมองนางอยู่เหมือนจะดูนางออกให้ได้มานางต้องการทำอะไรนางปริตามองเขากลับเหมือนกำลังแข่งกันจ้องตากันอยู่
“องค์ชายเชียวเจ้ามาทำอะไรที่นี่?รีบเอาหยกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้”ใต้เท้าซิวเร่งเขาอีกครั้ง
โล่หวินหลานกวาดสายตาไปทางอื่นและยิ้มอย่างเสียงต่ำ“ใต้เท้าซิวท่านเร่งรีบอะไร?ข้ากับใต้เท้าหลี่พึ่งเจอหน้ายังไม่ทันได้คุยกันสักคำยังไงท่านก็ต้องให้ข้าคุยกันก่อนไหม?”
หลี่ซันยังคงมองนางด้วยสีหน้าเดิมภายนอกเหมือนจะดูนิ่งในลึกๆนั้นกำลังโกรธอย่างพายุสี่ทิศเขาพูดออกมาสักที“ข้าได้ข่าวว่าเจ้ามีหยกซงไป๋หนานจิ่นเป็นคู่พอดีข้าก็อยากได้เหมือนกันเจ้าเอาหยกที่อยู่ในมือเจ้าให้ข้า ข้าจะมอบตำแหน่งให้เจ้า”
พูดไปพูดมาก็เพราะหยกซงไป๋หนานจิ่นอีกอันหยกอันนี้ก็เป็นแค่สิ่งของที่ดึงดูดพวกเขาแค่อยากสร้างเรื่องหลอกหลี่ซันกล่องในมือของโล่หวินหลานมีแค่ของปลอมตั้งแต่แรกนางก็ไม่ได้คิดว่าจะเอาหยกให้ทั้งสองอยู่แล้ว
โล่หวินหลานดูสภาพอากาศบนฟ้าและถอนหายใจหนักๆไม่ได้สนใจคำพูดของพวกเขาและพูดเองคนเดียว“ฟ้าก็มืดขนาดนี้แล้วแล้วให้ข้ามาที่แบบนี้ขนาดตั้งโต๊ะเชิญชวนดื่มเหล้ายังไม่มีข้าไม่แน่ใจว่าพวกท่านเป็นใต้เท้าซิวและใต้เท้าหลี่ตัวจริงหรือตัวปลอมกันแน่”
ฟังจากเสียงถอนหายใจแบบเรื่อยเปื่อยของนางมีผลกระทบต่อใต้เท้าตัวจริงทั้งสองจริงๆเหมือนเป็นการโจมตีพวกเขาแบบเปิดเผยสีหน้าของใต้เท้าซิวเริ่มแดงโล่หวินหลานกลัวจนไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก
แต่สำหรับหลี่ซันสีหน้าของเขายังตงเหมือนเดิม“องค์ชายเชียวเห็นว่าพวกข้าเป็นตัวปลอมก็สุดแล้วแต่จะคิดถ้าการเจรจาครั้งนี้ไม่สำเร็วก็ปล่อยมันไปภายใต้ขุนพลต้วนยังต้องการขุนนางอีกมากมายและคงต้องมอบให้สำหรับผู้ที่ต้องการจริงๆใต้เท้าซิวพวกข้าไปกันเถอะ”
หลี่ซันเป็นคนที่ฉลาดหลักแหลมจนไร้คำบรรยายจริงๆรู้ว่าโล่หวินหลานไม่ถอยกลางทางแน่นอนแล้วทำเป็นชวนใต้เท้าซิวออกจากที่นั้นนางคงไม่ยอมปล่อยโอกาสดีๆไปง่ายๆหรอก
พอเห็นเงาของทั้งสองคนกำลังหันหลังสองมือของโล่หวินหลานจับขอบกล่องไม้ไว้แน่นๆกล่องไม้ที่แกะสลักด้วยขอบทองนางกำแน่นด้วยทิ้งรอยตรงฝ่ามือไว้แบบไม่รู้ตัว
ถ้าให้พวกเขาเดินต่อไปการแสดงครั้งนี้คงจะกลายเป็นเรื่องจริงโล่หวินหลานเปล่งเสียงออกมาอย่างเข้มงวด“รอสักครู่ใต้เท้าหลี่ถ้าข้าเอาของล้ำค้าชิ้นนี้ให้ท่านท่านต้องให้เสนอข้าต่อหน้าขุนพลต้วน”
ฝีเท้าของทั้งสองหยุดไปใต้เท้าซิวรีบหันกลับมานัยน์ตาของเขาเต็มไปด้วยกล่องไม้นั้นและเต็มไปด้วยความอยากได้และพยักหน้าแบบไม่หยุด“ถ้าเจ้าเอามันให้ข้าข้าจะพาเจ้าไปเข้าพบขุนพลต้วนแน่นอน”
สายตาที่ดูกังวลของโล่หวินหลานกลับมาเป็นสายตาที่ปกติแล้วจับกล่องไว้อย่างแน่นๆนี่เป็นสิ่งเดียวที่สามารถช่วยนางได้ทั้งสองพานางไปในป่าแห่งหนึ่งไม่รู้ว่าพวกเขาจะทำอะไรเช่นกันและไม่รู้ว่าพวกเขาจะรีบออกจากนั้นเพราะเหตุผลใด
“งั้นดีใต้เท้าซิวท่านเดินมาเอากับข้า”โล่หวินหลานโบกมือเหมือนนางพูดขึ้นแบบไม่ใส่ใจ
“ดีดี”ใต้เท้าซิวไม่ได้คิดอะไรแล้วจะเดินไปทางโล่หวินหลานแต่ตอนนี้เขากำลังขยับตัวเองเดินไปหานางทันใดนั้นก็มีมือใหญ่ๆมากดไหล่ของเขาไว้ไหล่ของใต้เท้าซิวเกร็งเบาๆและตื่นตระหนกขึ้น
เขาเงยหน้าขึ้นมากลับสบตากับสายตาที่ดูฉลาดหลักแหลมและดูดุร้ายทันใดนั้นเขาไม่ได้ตกใจอะไรเลยแต่กลับเดินถอยหลังกลับไป
สีหน้าของหลี่ซันดูไม่ปกติและพูดขึ้นอย่างเสียงแข็ง“องค์ชายซิวให้ท่านส่งให้พวกข้าดีกว่า·”
เขาฉลาดเหมือนสุนัขจิ้งจอกจริงๆพูดๆไปแล้วก็คือไม่เชื่อใจนางโล่หวินหลานหายใจเข้าลึกๆเงยหน้าขึ้นมองแสงจันทร์ที่มืดมัวบนท้องฟ้าและขยับขาของตนเบาๆนางกวาดสายตามองรอบๆโดยเร็วและค่อยๆเดินไปหาหลี่ซัน
เย่หวินที่อยู่ด้านหลังก็เดินตามนางไปหาหลี่ซันอย่างระมัดระวังนางสัมผัสได้ว่าเสียงฝีเท้ารอบๆยิ่งอยู่ยิ่งเข้าใกล้พวกเขาเสียงแห่งความวุ่นวายกำลังรบกวนอารมณ์ของพวกเขาไม่หยุดไม่หย่อนสุนัขจิ้งจอกแก่สองตัวนี้ต้องส่งคนมาล้อมรอบที่นี่อย่างแน่ๆแค่พวกเขาได้ของเมื่อไหร่ก็ต้องส่งคนฆ่าพวกนางอย่างแน่นอน
ตายอยู่กลางป่าอย่างนี้ไม่รอสิบวันหรือครึ่งเดือนคงไม่มีใครสังเกตเห็นถึงศพหรอกรอถึงเวลานั้นพวกเขาคงไปอยู่อีกโลกหนึ่งตั้งนานแล้ว
ตอนนี้จะเข้าใกล้หลี่ซันโล่หวินหลานหยุดฝีเท้าของตนลง
เสียงฝีเท้าที่อยู่รอบๆก็ได้หยุดลงด้วยรอบๆมีเพียงเสียงลมที่คอยพัดพาต้นไม้ดอกหญ้ารู้สึกว่าช่างเงียบเหงาและว่างเปล่า
โล่หวินหลานค่อยๆยื่นของกล่องนั้นไปตอนที่กล่องกำลังจะตกอยู่ในมือของหลี่ซันจู่ๆก็มีคนพุ่งออกมาจากพุ่มไม้และมุ่งหน้ามายังเขาและเข้ามากระซิบข้างหูอะไรข้างหูของเขาจนทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก
หลี่ซันฟังจบแล้วหันหลังเดินจากไปใต้เท้าซิวมองเงาของเขาอย่างรู้สึกแปลกใจเรียกเขาไปประมาณสองรอบแต่ไม่มีเสียงตอบกลับเขาก็รีบเดินตามไป
“เกิดอะไรขึ้น?”เย่หวินถามขึ้นอย่างแปลกใจ
โล่หวินหลานส่ายหัว“ตามไปดูๆ”
ทั้งสองเดินตามหลังของหลี่ซันไปไม่รู้ว่าชายผู้นั้นบอกอะไรกับเขาจึงทำให้สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปขนาดนี้ขนาดหยกนั้นเขาก็ไม่เอาแล้วเดินจากไปมันต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากลอย่างแน่นอน
พวกเขาเดินในจังหวะที่เร็วขึ้นเงาคนที่มืดมัวเดินผ่านพุ่มไม้แสงจันทร์ที่สอดส่องร่างของพวกเขาเบาๆทำให้เห็นได้ว่าพวกเขามากันอย่างน้อย20-30คน
ตอนนี้ประตูเข้าเมืองได้ปิดลงถ้าจะออกไปก็ออกไม่ได้อยู่ดีนอกจากมีคำบัญชาการจากผู้ใหญ่แต่ถ้าพูดถึงฐานะและตำแหน่งของหลี่ซันทำไมถึงเข้าไปไม่ได้แค่พวกเขาไม่ได้อยากจะเข้าเมืองแต่กลับออกทางฝั่งตรงข้ามของประตู
ดูจากท่าทางแล้วพวกเขาไม่รู้ว่าพวกนางก็ตามไปด้วยโล่หวินหลานยังคงเดินตามไปเย่หวินจับแขนนางไว้และกล่าวเตือน“พระชายาเจ้าค่ะถ้าตามต่อไปต้องอันตรายอย่างแน่นอนพวกเราไปรวมตัวกับท่านอ๋องก่อนเถอะเจ้าค่ะ”
โล่หวินหลานกลับสะบัดมือของเย่หวินทิ้งสีหน้าของนางหนักแน่นมาก“พวกข้าต้องทำสัญลักษณ์ไว้ฉีหมิงจะหาพวกข้าเจอถ้าพวกข้าไม่เดินตามต่อไปถือว่ายอมแพ้กลางทางเลย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก