ตอนที่133 ทุกคนต่างเจ็บปวด
ในตอนกลางคืน อากาศยิ่งหนาวมากขึ้น ทุกคนต่างหลับกันอย่างสนิทแล้ว รอบตัวมีเพียงความเงียบสงัด
เย่เซียวหลัวนั่งอยู่ในห้องมืด ในมือถือขวดสีแดงอยู่ในมือ กระจกเงินหน้าโต๊ะเครื่องแป้งของเจ้านั้นสะท้อนให้เห็นใบหน้าอันหมองคล้ำ ด้านข้างกระจกมีกล่องสีน้ำตาลเข้มวางอยู่ ภายนอกดูสวยงาม ตัวล็อกที่ประณีตสวยงามนั้นมีแม่กุญแจเล็กแขวนอยู่
เจ้าถือขวดนั้นไว้แน่น สองมือสั่นไม่หยุด บนหน้าผากมีเม็ดเหงื่ออุ่นผุดขึ้นมาไม่หยุด ด้านหลังเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ
“ทำไมยังไม่มาอีก ทำไมยังไม่มา...” เจ้าเอาแต่พูดวนไปมา เจ้ารีบเสียจนใจเต้นแรงราวกับมีมือมาบีบเอาไว้
ไม่นานนัก ด้านข้างหน้าต่างก็มีเสียงสวบสาบดังขึ้น เย่เซียวหลัวก็สบายใจขึ้น แล้วก็ได้ยินเสียงของเย่อวิ๋นกว่างดังขึ้น “น้องหญิงสาม เจ้าอยู่ไหนกัน?”
เย่เซียวหลัวคุ้นเคยกับห้องนี้มาก เหงื่อที่ชุ่มอยู่บนหลังเจ้าค่อยๆหายไป แล้วรีบเดินไปตรงหน้าแล้วจับมือเขาขึ้นมา
“พี่สอง ทำไมเจ้ามาช้าอย่างนี้? ข้ารีบจะแย่แล้ว” เย่เซียวหลัวลากเขามานั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วพูดขึ้นเสียงเบา
เย่อวิ๋นกว่างยิ้มขึ้น ฟันขาวๆของเขาเห็นได้ชัดในห้องมืดเช่นนี้ “เมื่อกี้ท่านพ่อดีใจมาก แทบจะลากข้ากับพี่ใหญ่ไปดื่มเหล้า ข้ารอให้เขาเมาก่อนแล้วจึงออกมา”
เมื่อนึกถึงเย่กั๋วกง ในใจของเย่เซียวหลัวทั้งโมโหทั้งไม่อยากจะทน ทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องการจัดงานแต่งที่เด็ดขาดของเจ้า ก็โกรธมาก แต่เมื่อถึงเวลานี้แล้ว เจ้ากลับคิดว่าที่ตัวเองทำนั้นผิด
เห็นท่าทางขมวดคิ้วของเจ้า เย่อวิ๋นกว่างก็ลูบผมเจ้า แล้วพูดขึ้นเบาๆ “หากเจ้าไม่อยากเป็นเช่นนี้ ยิ่งดีเลย พี่สองยังกังวลอยู่ว่ายาปลิดชีพปลอมนี้จะมีผลอย่างไร... น้องสาม ถ้างั้นอย่ากินเลยดีกว่า ข้าไปที่เรือนเวินอ๋องเอามีดจี้คอบังคับให้เขาพาเจ้าหนีไปเสียดีกว่า ถ้าหากเขายังไม่ทำล่ะก็ ข้าก็จะทำให้เลือดเขาไหลออกจากคอเสียตรงนั้น!”
“หรือไม่ พี่สอง ข้าตัดสินใจแล้ว ทำอย่างนี้ดีแล้ว ถ้าหากท่านแม่ร้องไห้ เสียใจมากๆ เจ้าต้องช่วยข้าปลอบ น้องสี่ยังเล็ก ไม่รู้เรื่อง เจ้าก็บอกเขาว่าข้าต้องกลับมาสักวัน” เมื่อพูดจนสุดท้าย เสียงของเย่เซียวหลัวก็ติดอยู่ที่ลำคอ
เย่อวิ๋นกว่างจับมือของเจ้าแน่น “ได้สิ ข้าตกลงเจ้าทั้งหมด แต่ว่าน้องสาม เจ้าคิดดีแล้วใช่ไหม? ถ้าตอนนี้ ยังกลับตัวทันนะ”
กลับตัว? เจ้ามีอำนาจนี้เหรอ? ตั้งแต่วันที่เจ้าเจอกับเวินอ๋อง เจ้าก็ไม่มีอำนาจที่จะกลับตัวอีกเลย
“พี่สอง ข้าคิดดีแล้ว พวกเราเริ่มกันเถอะ”
เย่เซียวหลัวยื่นขวดสีแดงนั้นให้เย่อวิ๋นกว่าง แล้วหยิบกล่องสีน้ำตาลเข้มนั้นขึ้นมา แล้วหยิบยาที่อยู่ด้านในขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เดินไปนอนที่ข้างเตียงอย่างเงียบๆ
เจ้าค่อยๆหยิบยาเข้าปากตัวเอง กลืนลงไป รู้สึกเพียงแสบร้อนภายในลำคอ แล้วกระดูกและเส้นเลือดทั้งตัวก็ค่อยๆแข็งตัว
“น้องสาม น้องสาม...” เย่อวิ๋นกว่างเรียกเจ้าไม่หยุด กุมมือของเจ้าไว้ เสียงร้องนั้นดังเข้าหูของเจ้าไม่หยุด แต่มันยิ่งเลือนรางลง...
มือของเจ้าก็ตกลงในมือของเย่อวิ๋นกว่าง เย่อวิ๋นกว่างรู้สึกเจ็บปวด นัยน์ตาแดงก่ำ
ถึงแม้ว่าเย่เซียวหลัวจะตายไม่จริง แต่ท่าทางของเจ้าเช่นนี้ ในสายตาของเย่อวิ๋นกว่าง ราวกับเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ ถ้าหากต้องเห็นคนที่รักทุกคนตายไปต่อหน้าเช่นนี้ เขามองไม่เห็นตลอดชีวิตเสียดีกว่า
เขานำขวดสีแดงนั้นยัดไว้ในมือของเย่เซียวหลัว น้ำตาเม็ดใหญ่ร่วงเผาะลงบนมือของเจ้า
จัดแจงให้ดูเหมือนเจ้าเสียชีวิตจริงๆ แล้วก็เดินจากไป
เช้าตรู่ที่เต็มไปด้วยหิมะ แผงลอยข้างทางถ้าหากพระอาทิตย์ไม่ขึ้นพวกเขาก็ยังไม่มาตั้งร้านกัน นอกเสียจากร้านที่มีหน้าร้านของตัวเอง จะเปิดต้อนรับวันใหม่แต่เช้าตรู่
บนถนนยาวด้านนอกนั้นเงียบมาก แต่ประตูวังถูกเปิดขึ้น ม้าเร็วตัวหนึ่งวิ่งอยู่บนพื้นหิมะราวกับสายลม สี่เท้าของม้าเหยียบย่ำลงบนพื้นด้วยความมั่นคง แต่ผู้ที่อยู่บนหลังม้านั้นยังรู้ว่าเร็วไม่พอ จึงฟาดแส้ลงไปที่ก้นม้า
ในที่สุดก็ถึงที่หมาย เรือนตระกูลเย่
คนคนนั้นงจากหลังม้า ยืนอยู่หน้าทางเดินที่ประดับไปด้วยคำมงคล และสิ่งของตกแต่งสวยงาม แล้วพูดขึ้น “เย่กั๋วกงรับคำสั่ง”
เด็กรับใช้หน้าประตูเห็นว่าเป็นจ้าวกงกงคนของฮ่องเต้เจียเฉิง จึงรีบพาเข้ามา
เย่กั๋วกงไม่เข้าใจว่าฮ่องเต้เจียเฉิงต้องการจะทำอะไร จึงนำเข้ามาในห้องเก่าแก่ในเรือน แล้วคุกเข่าลงรับบัญชาการ
เจ้ากงกงกวาดตาไปรอบๆ แล้วพูดขึ้นด้วยเสียงแหบพร่า “คนมากันครบแล้วหรือ?”
เย่กั๋วกงเงยหน้าขึ้น รู้ว่าเย่เซียวหลัวยังไม่มา จึงตอบ “เจ้าหลัวคงจะแต่งตัวอยู่ ข้าได้ส่งคนไปเรียกเจ้าแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก