ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 189

ตอนที่189 ดวงใจแตกสลาย

ครั้งนี้ คงจะแกล้งเป็นตีเนียนอีกไม่ได้แล้ว

"หม่อมฉันไม่ได้มีเรื่องในใจขอรับ เพียงแต่มือลื่นก็เท่านั้น" โม่ฉีหมิงพูดปลดออกไป เพราะตอนนี้มันชัดเจนมาก ที่เขามีลางสังหรณ์บางอย่าง เพียงแต่เขาเองก็ไม่ทราบก็เท่านั้น วางลางสังหรณ์ที่ว่านั้นคืออะไร

"หากเจ้าไม่มีความในใจ เหตุใดจึงทำแก้วหลุดมือทั้งสามคราสามหน? หากเจ้ามีเรื่องในใจให้คิดก็กลับไปเสียเถอะ วันนี้เรื่องที่พ่อให้พวกเจ้ามารายงาน ก็รายงานกันหมดแล้ว" ฮ่องเต้เจียเฉิงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย

องค์รัชทายาท เวินอ๋องและโม่ฉีหมิง พวกเขาทั้งสามถูกเรียกเข้าพบที่ห้องหนังสืออีกครั้ง ฮ่องเต้เจียเฉิงก็ได้ถามไถ่เรื่องที่เขาต้องการเรียบร้อยแล้ว ซึ่งก็มีเพียงเรื่องที่โม่ฉีหมิงออกไปรักษาชาวบ้านเมื่อวานนี้ก็เท่านั้น

เรื่องนี้ส่งผลกระทบใหญ่ในเมืองหลวง ซึ่งเป็นผลดีเพราะเขาสามารถจัดการรักษาผู้คนได้ ทางด้านฮ่องเต้เจียเฉิงนั้นก็ได้ให้เงินสองหมื่นสองตำรึงในการซื้อยาและสมุนไพร เพื่อที่ชาวบ้านจะได้รับการรักษาโดยไม่เสียเงิน

"ท่านพ่อ หม่อมฉันไม่ได้มีเรื่องอันใดขอรับ เชิญท่านพ่อรับสั่งต่อได้เลยขอรับ" สองมือของโม่ฉีหมิงประสานกันเอาไว้ แล้วพูดขึ้น

บนโลกใบนี้มีน้อยเรื่องนักที่จะทำให้เขาเป็นห่วง มีเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะทำให้เขารู้สึกกังวลและเป็นห่วงได้ ซึ่งตอนนี้นางก็คงนอนอยู่ที่ตำหนัก

"ดี ไม่มีก็ดี" ฮ่องเต้เจียเฉิงพยักหน้า

"องค์รัชทายาท เวินอ๋อง พรุ่งนี้พวกเจ้าสองคนไปที่ตลาดให้หมิงอ๋องถ่ายทอดวิชา พร้อมกับสังเกตอาการของชาวบ้านหลังจากได้รับยาเหล่านั้น อย่ามัวแต่นั่งเล่นอยู่ในตำหนัก พวกเจ้าต้องคอยไปดูสารทุกข์สุขดิบของชาวบ้าน" ฮ่องเต้เจียชังที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวใหญ่พูดขึ้น ตอนนี้เขาช่างดูมีอำนาจและยิ่งใหญ่เหลือเกิน และเก้าอี้ตัวที่เขานั่งนั้นคล้ายจัดทำมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ

"ขอรับ เสด็จพ่อ" องค์รัชทายาทและเวินอ๋องพูดขึ้นพร้อมกัน

เดินออกมายังหน้าประตูของห้องหนังสือ ดวงตาทั้งคู่ของเขาจ้องมองไปยังหิมะที่ตกลงมาจากฟากฟ้า จิตใจที่เต้นอย่างกระสับกระส่ายนั้นหยุดเต้นทันควัน คล้ายไม่เคยเต้นมาก่อน

"พี่สี่ วันนี้ท่านเป็นอะไรไป? ได้รับความรักจากชาวบ้านมามากมาย จึงเปลี่ยนไปงั้นหรือ?" เวินอ๋องที่เดินมาจากด้านหลังพูดเหน็บแนมขึ้น

พวกเขาทั้งสองรูปร่างสูงทัดเทียมกัน เพียงแต่นิสัยของเขาทั้งสองนั้นแตกต่างกัน โม่ฉีหมิงนั้นดูเย็นชา ไม่ว่าจะพบเจอใครก็นิ่งเงียบไม่พูดจา แต่เวินอ๋องนั้น เจ้าเล่ห์เหลือเกิน ดวงตาทั้งคู่ของเขานั้นซ่อนความร้ายกาจเอาไว้มากมาย เพียงแต่ไม่เผยออกมาก็เท่านั้น

"ข้าจะทำอะไร มันไม่เกี่ยวกับเจ้า?" โม่ฉีหมิงตอบด้วยจิตใจที่ขุ่นมัว เขาไม่อยากสนใจเวินอ๋อง

เวลานี้โม่ฉีหมิงไม่มีกะจิตกะใจในการสู้รบทางอารมณ์กับเขา

เวินอ๋องไม่คิดเลยว่าโม่ฉีหมิงจะใช้คำพูดและน้ำเสียงเย็นชาเช่นนี้กับเขา ดูท่าเขาคงเหลืออดแล้วจริงๆ คงอยากจะเอาคืนบ้างแล้ว

ระหว่างที่เขาครุ่นคิดอยู่นั้น โม่ฉีหมิงก็เดินหายไปจากตรงหน้าเขาเสียแล้ว

"มันก็ไม่เกี่ยวกับข้าตั้งแต่แรกแล้ว" เวินอ๋องพูดขึ้นแล้วมองแผ่นหลังที่เดินจากไป

ต้องมีวันหนึ่ง ที่เจ้าต้องร้องขอให้ข้าช่วยเหลือ

เด็กหนุ่มนอนอยู่บนเตียง เขาเอามือปิดปากของตนเองที่ตอนนี้ยังไอไม่หยุด โล่หวินหลานที่เห็นท่าทางของเขาที่ดูทรมานเหลือเกิน นางไม่แม้แต่คิดก็รีบวิ่งตรงเข้าไป

แต่ว่า เย่หวินเองก็มิอาจให้โล่หวินหลานได้รับอันตรายเด็ดขาด สมองของนางมีแต่คำสั่งของโม่ฉีหมิง นางให้คำสัตย์แล้วไม่ว่าอย่างไรนางก็จะปกป้องโล่หวินหลาน ถึงแม้ว่าต้องแลกด้วยชีวิตของตนเอง ก็จะไม่มีวันให้เรื่องร้ายเกิดขึ้นกับนางเด็ดขาด

"หวังเฟย หม่อมฉันเข้าไปช่วยเด็กน้อยเองเพคะ!” เย่หวินผลักประตูเปิดออกไป ตอนนี้ไฟยังไม่ลุกลามมากนัก นางต้องการให้โล่หวินหลานออกไปจากที่นี่

ด้านในนี้ไม่ต่างอะไรกับนรก ส่วนด้านนอกก็คือสวรรค์ การตัดสินใจนี้เป็นการตัดสินชีวิตของพวกเขา เย่หวินรีบวิ่งไปหยิบกาน้ำชาที่วางเอาไว้บนโต๊ะ จากนั้นก็นำน้ำที่เหลือราดบนตัวของตนเอง นางปิดจมูก แล้วรีบพุ่งตัวเข้าไป

เด็กน้อยคนนั้นนอนอยู่บนเตียง ใกล้จะไม่ได้สติ เขายื่นมือมาทางเย่หวิน พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “พี่สาว......ช่วยข้าด้วย......"

เวลานี้ เย่หวินรู้สึกว่าไม่ว่าตนเองจะทำอะไรก็คุ้มค่าเหลือเกิน เพราะสิ่งที่นางช่วยนั้นคือหนึ่งชีวิต

ขณะที่นางหันหลังนั้น โล่หวินหลานก็ใช้น้ำลดลงบนผ้าเช็ดหน้า แล้วใช้โอกาสในจังหวะที่ไฟยังไม่ลุกลามมากนั้น พุ่งตัวเข้าไปหาเย่หวิน นางใช้ผ้านั้นปิดที่จมูกของเย่หวิน และใช้ผ้าอีกผืนปิดที่จมูกของเด็กหนุ่ม

"หวังเฟย เหตุใดท่านยังไม่ไป?" ใบหน้าของเย่หวินนั้นมีรอยดำคล้ำของเถ้าถ่าน นางมองดูโล่หวินหลานด้วยความกระวนกระวาย

ไฟด้านนอกเริ่มลุกลามเป็นวงกลม ไม้ที่อยู่ด้านบนก็มีเสียงถูกเผาไหม้ จากนั้นแผ่นไม้ที่ถูกแผดเผานั้นก็ตกลงมา

"ข้าทิ้งพวกเจ้าเอาไว้ไม่ได้ ตอนนี้รีบออกไปกันเถอะ หากไฟลุกลามมากกว่านี้ก็ออกไปไม่ได้แล้ว!” สีหน้าของโล่หวินหลานตอนนี้ไม่สู้ดีนัก นางใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดที่จมูกของเด็กหนุ่ม จากนั้นก็ใช้อีกมือดันเขาให้ขึ้นมาบนหลัง แล้วแบกเด็กน้อยออกไป

"หวังเฟย เช่นนั้นท่านต้องตามข้ามาติดๆ อย่าปล่อยมือเด็ดขาด!” ตาขวาของเย่หวินกระตุกไม่หยุด นางไม่อาจทราบว่าเพราะเหตุใด แต่นั่นก็ทำให้นางมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดีนัก

นางกดทับความคิดนั้นไป เพราะอีกเพียงไม่กี่ก้าวก็จะถึงประตูแล้ว ไม่ว่าบ้านหลังนี้จะถูกเผาไหม้อย่างไร ขอเพียงออกไปจากประตูนั่น พวกเขาก็จะปลอดภัย

แต่ทำไม นางกลับรู้สึกเวียนหัวเช่นนี้ หัวของนางหนักอึ้ง นางรู้สึกว่าขาอ่อนแรงแล้วเวียนหัวนัก นางสะบัดหน้าไปมา แล้วก้าวเท้าออกไป ทันใดนั้นเอง แผ่นไม้จากด้านบนก็ตกลงมาด้านหลังของนาง!

"ปั้ง" เสียงแผ่นม้าตกลงมา หิมะด้านนอกตอนนี้ละลายกลายเป็นน้ำ เพียงแต่เหตุใดน้ำและหิมะนั้นกลับไม่สามารถดับไฟนี้ได้?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก