ตอนที่ 209 สัญญาณเตือนจากประตูเมือง
หมดเวลาไปครึ่งวันในการเดินลงเขา ไม่ถือว่าเหนื่อยมาก อย่างน้อยตรงตีนเขา ก็เดินทางสะดวก ถึงแม้จะมีเกล็ดหิมะเป็นอุปสรรค แต่ร่างกายของหมิงซีแข็งแกร่ง เดินฝ่าพายุหิมะไป แม้กระทั่งลมหายใจก็ยังมั่นคง
ก่อนจะลงจากเขา ชิวโม่ไป๋สั่งว่าต้องไปตัดชุดมาให้โล่หวินหลานให้ได้ เขาเตรียมนำสมุนไพรไปขายในร้านยาที่ใหญ่ที่สุดในเมือง เจ้าของร้านนั้นค่อนข้างสนิทกับชิวโม่ไป๋ สมุนไพรที่พวกเราเก็บลงมาพวกเขาก็ซื้อไว้หมด
เพราะเป็นสมุนไพรธรรมชาติที่สดใหม่ ราคาก็จะสูงกว่าที่อื่น หมิงซีเป็นแขกประจำของพวกเขา ทุกครั้งที่เดินเข้ามาก็จะมีพนักงานหน้าคุ้นเคยทักทายเขา
“วันนี้เถ้าเจ้าไม่อยู่ครับ แต่เขาสั่งเอาไว้แล้ว ว่าถ้าคุณชายหมิงมา ไม่ว่าจะมีสมุนไพรมากเท่าไหร่ก็ต้องซื้อไว้ให้หมด เชิญท่านชายหมิงทางนี้ครับ” พนักงานเชิญหมิงซีเข้าไปในห้องด้านในร้าน เป็นที่สำหรับเก็บสมุนไพรโดยเฉพาะ
“วันนี้เถ้าเจ้าของพวกนายคงจะไปเก็บมสมุนไพรที่เขาทางด้านตะวันออกสินะ” หมิงซีพูดตามพลางปลดห่อผ้าลงจากหลัง
พนักงานในร้านคนนั้นถึงกับพยักหน้าอย่างอึ้งๆ “ใช่ครับ คุณชายความจำดีมากเลย”
“วันนี้เป็นวันที่ 25 พอดี ทุกเดือนในวันนี้ ถ้าเจ้าจะไปเก็บสมุนไพรบนเขาทางตะวันออก เป็นเช่นนี้มา 5 ปีไม่เคยเปลี่ยน” หมิงซีไม่คิดว่าเขาจะมาส่งยาให้ที่นี่เป็นเวลาห้าปีแล้ว คิดถึงเมื่อห้าปีก่อนที่เขายังเป็นเพียงเด็กกะโปโล
คนนั้นพยักหน้าแล้วยิ้ม สั่งให้อีกคนรีบเอาสมุนไพรของเขาไปชั่งให้เสร็จ
“ท่านชายหมิง สมุนไพรทั้งหมด 7ชั่ง2ตำลึง จะมาดูไหม?” พนักงานในร้านหันมาพูดกับหมิงซี
“ไม่ต้องแล้ว ถ้าเจ้าเชื่อใจข้าขนาดนี้ ทำไมข้าจะไม่เชื่อใจเขาล่ะ? ชั่งเสร็จก็พอแล้ว” หมิงซีตอบแบบยิ้มๆ
พนักงานในร้านพยักหน้า หลังจากชั่งสมุนไพร และนำเงินให้หมิงซีเรียบร้อย ก็ส่งเขาอย่างเคารพ
ขายสมุนไพรเสร็จก็เป็นเวลาเที่ยงแล้ว โรงแรมใหญ่ในเมืองเนืองแน่นไปด้วยผู้คน ผู้คนอยู่เต็มถนนตรอกซอกซอย หมิงซีไม่รีบทานอาหารกลางวัน แต่กลับเดินไปที่โรงชาแห่งหนึ่ง
โรงชาเป็นแหล่งสืบข่าวที่ดีที่สุด
“ชาหวี่โฮ่วหลงจิ่งกาหนึ่ง” หมิงซีนั่งอยู่มุมริมสุดของร้าน และสั่งเสียงเรียบ
“ได้ครับ กรุณารอสักครู่” พนักงานในร้านหยิบผ้าขี้ริ้วที่พาดไหล่มาเช็ดโต๊ะ แล้วรีบเดินหมุนตัวจากไป
ในโรงชาวุ่นวายมาก ด้านนอกมีผู้ชายทยอยเข้ามาเรื่อยๆ หมิงซีตั้งใจฟังพลางสังเกตสีหน้าของพวกเขา
“ชาร้านนี้รสชาติใช้ได้ ต้องลองสักหน่อย โดยเฉพาะชาหลงจิ่ง” ชายหนุ่มอีกคนพยักหน้า เป็นเชิงให้พนักงานรับรู้ว่าเขาสั่ง
หลังจากนั้น ทั้งสองก็เริ่มพูดถึงเรื่องที่บ้านกัน หมิงซีขมวดคิ้วแน่น มาที่นี่นอกจากจะไม่ได้ข่าวอะไรแล้ว ยังต้องมาฟังสองคนนี้คุยเรื่องที่บ้านของตัวเองอีก
หมิงซีหยิบเงินจากข้างเอวมาวางไว้บนโต๊ะ ลุกขึ้นกำลังจะเดินออกไป ทันใดนั้นมีชายหนุ่มกลุ่มหนึ่งเข้ามาใหม่ เดินพลางพูดคุยกัน
“พวกเจ้าคิดดูสิ เพิ่งจะสงบได้ไม่เท่าไหร่ จะมีสงครามอีกแล้ว”
ชายหนุ่มอีกคนปฏิเสธ “เจ้าไม่รู้เหรอ ว่าเซิ่งโจวไม่อยากมีสงครามกับเราตอนนี้ ถึงกับตัดสินใจส่งลูกสาวคนสุดท้องอย่างองค์หญิงเหอซื่อมาอภิเษกกับแคว้นโม่ฉี แต่ไม่รู้ว่าจะอภิเษกกับองค์ชายคนไหน”
“พวกเราแคว้นโม่ฉีร่ำรวยประชาชนแข็งแกร่ง เซิ่งโจวไม่กล้าลงมือก่อน จึงมาใช้แผนอภิเษกแทน” ชายหนุ่มกล่าว ในคำพูดนั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจในโม่ฉี
หลังจากได้ยินข่าวนี้ หมิงซีก็นั่งลง รินชา ทำท่าเป็นจิบชาต่อไป เพื่อที่จะแอบฟังข่าว
“อย่างไรก็ตาม ไม่มีสงครามก็พอ ไม่สนใจว่าองค์หญิงนั่นจะอภิเษกหรือไม่ ยังไงก็ไม่น่าแต่งเข้ามาในเรือนพวกเรา”
หมิงซีฟังอยู่สักวพัก เริ่มเข้าใจอะไรขึ้นมา จึงวางแก้วชาลงแล้วเดินออกจากโรงชานี้ไป เดินเตร็ดเตร่อยู่คนเดียวบนถนน
ทันใดนั้นได้ยินเสียงฝีเท้าม้าควบมาอย่างรวดเร็ว ตามด้วยเสียงแส้ฟาดม้าที่ดังขึ้นไม่หยุด วิ่งมาทางที่เขาอยู่ ประชาชนคนอื่นต่างพากันหลงเหลือเพียงหมิงซีที่ยังยืนอยู่ กำลังจะเงยหน้าม้าตัวนั้นก็วิ่งมาทางเขาแล้ว ม้านั้นราวกับเป็นกลุ่มเปลวเพลิงที่ร้อนแรง แสงแดดส่องลงมาแยงตาเขา
“หลบไป หลบไป” ชายหนุ่มที่อยู่บนหลังม้าตะโกนมา แต่ไม่ทันแล้ว ม้าวิ่งเหยียบผ่านตัวหมิงซีไป
แต่ในเวลาเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น หมิงซียกเท้าพลิกตัวหลบออกไปอย่างเฉียดฉิว ความเร็วนั้นเหนือกว่าที่ใครจะคาดถึง
“เจ้าอยากตายหรอ?”ม้าตัวนั้นผ่านหมิงซีไปอย่างเฉียดฉิว ตามด้วยเสียงตะคอกด้วยความโกรธเสียงดัง แล้วม้าตัวนั้นก็หยุดลงด้านหน้า
แววตาของหมิงซีนิ่งเรียบ มองไปที่ชายคนนั้นอย่างเฉียบคม สายตานั้นมองไปที่เขา ทำให้รู้สึกหนาวไปทั้งตัว
ด้านหลังมีม้าอีกสี่ตัวตามมาอย่างรวดเร็ว แต่ว่าเมื่อเห็นคนด้านหน้าหยุดลง พวกเราจึงหยุดลงตาม
โดยเฉพาะชายคนที่คลุมด้วยผ้าสีดำ สีหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์ ใบหน้าคมๆนั้นลับกันทั้งใบหน้าราวกับใบมีด นั่งอยู่บนหลังม้าอย่างเคร่งขรึม สัมผัสได้ถึงความมีอำนาจในตัวเขา
“ทำไมเหรอ?” คนนั้นถามขึ้น เสียงเขาเย็นชาราวกับน้ำแข็ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก