ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 226

ตอนที่ 226 เจอโดยบังเอิญ

ใช้แค่เวลาไม่นานก็มาถึงดงหัวเยี้ยน จื๋อเอ่ออยู่ๆก็พูดขึ้มาอย่างโกรธแค้น ”ฮ่องเต้เจียเฉิงนี่ดูถูกพวกเราชัดๆ คนที่จะแต่งงานด้วยคือองค์ชายสี่ แต่วันนี้กลับไม่เห็นแม้แต่เงา”

โล่หวินหลานหยุดเดินทันที มองไปยังจื๋อเอ่อที่กำลังโกรธอยู่ ในใจของเจ้าสับสนวุ่นวายมาก

สิ่งที่น่าดีใจคือโม่ฉีหมิงจะไม่มีวันแต่งงานกับผู้กญิงคนอื่นเด็ดขาด แต่สิ่งที่น่าเสียใจคือฐานะขององค์หญิงแคว้นเซิ่งโจวเป็นกำแพงระหว่างเจ้ากับเขา

ถ้าทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก เจ้าอาจจะได้เจอโม่ฉีหมิงอย่างมีความสุข

“ฮ่องเต้ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนี้ให้พวกเราหรอก แต่เขายังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกคนไหนดี” ในเรื่องนี้โล่หวินหลานยังคงเชื่อใจฮ่องเต้เจียเฉิง เพราะว่ายังไงเจ้าก็ยังเคยเป็นลูกสะใภ้ของเขา

“แต่เขาจะทำแบบนี้กับเจ้าไม่ได้นะ ตอนแรกคือองค์ชายสี่ ต่อมาคือองค็ชายสิบห้า ล่าสุดคือองค์ชายหก เจ้าไม่ใช่สินค้าสักหน่อย ทำไมมำเหมือนกับว่าเจ้าเป็นลูกหิมะที่สามารถโยนเล่นไปมาได้” จื๋อเอ่อไม่พอใจมาก

ที่แคว้นเซิ่งโจว เขาเป็นแม่ทัพที่หนุ่มที่สุด คนส่วนใหญ่ฟังแต่คำสั่งของเขา เขาพูดอะไรก็คือะไร แต่พอถึงแคว้นโม่ฉีเขามีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นเนื้อสัตว์ที่ถูกคนอื่นห่านอย่างตามใจ

“จื๋อเอ่อ ยังไงตอนนี้พวกเราก็ยังมีเวลาอยู่ เราก็ค่อยๆเล่นกับเขา เจ้าต้องเชื่อใจข้านะ ถ้าข้าไม่ชอบ ไม่มีใครบังคับข้าได้”โล่หวินหลานเตะไหล่ของ อาจเนื่องจากที่เขาฝึกวิชาต่อสู้มาหลายปี มีกล้ามเนื้อแน่นๆอยู่ที่ไหล่ของเขา

โล่หวินหลานรีบเอามือออกจากไหล่ของเขา ใบหน้าของเจ้าเฉยชามาก

แต่จื๋อเอ่อกลับยักคิ้วพร้อมมองเจ้าด้วยความสงสัย “ข้าสงสัยมากเลยนะ ทำไมเจ้าต้องปลอมตัวเป็นองค์หญิงเหอเซ่อมาแต่งงานที่แคว้นโม่ฉีหรือตรงนี้มีคนที่เจ้ายังลืมไม่ได้”

คำพูดเหล่านี้กระทบถึงจิตใจของโล่หวินหลาน มีหลายครั้งที่นางไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป แต่โม่ฉีหมิงเป็นความหวังที่นางยังอยากจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ทำให้นางรู้ว่าบนโลกนี้ยังมีคนกำลังเฝ้ารอเจ้าอยู่

โล่หวินหลานใช้นิ้วเรียวของเจ้าปัดหิมะที่อยู่บนดอกพลัม ทำให้หิมะหล่นลงพื้นดิน

“เพื่อ สิ่งที่ยึดเหนี่ยวในจิตใจของข้า”

บนใบหน้าของโล่หวินหลานมีรอยยิ้มที่คนอื่นสังเกตได้ยาก เสีนดายจื๋อเอ่อไม่เห็น รอยยิ้มนั้นอบอุ่นดั่งพระอาทิตย์ในฤดูหนาว มีแต่เวลาที่เราอยู่กับคนที่เรารัก ถึงจะมีรอยยิ้มแบบนี้

สิ่งที่ยึดเหนี่ยวในจิตใจหรอ ก็เหมือนกับอาลั่วหลันคือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเขาหรอ เวลาที่เขาได้เห็นอาลั่วหลัน ก็เหมือนอย่างกับได้เห็นพระอาทิตย์

จื๋อเอ่อออกมาจากความคิดของตัวเอง หิมะที่ปลิวอยู่ตกลงที่บนหัวของเขาพอดี และหล่นลงมาที่พื้นอีกที มีหลายคร็งที่เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ยึดเหนี่ยวในจิตใจของเขาคืออะไร แต่ตอนนี้ เขาเหมือนจะรู้แล้ว

โล่หวินหลานเปิดประตูเข้าไปในห้อง หิมะที่ตกอยู่ในลานกองหนามากแล้ว รองเท้าของนางส่งเสียงออกเมื่อเจ้าหยาบอยู่บนหิมะ

นางเปิดประตูเข้าไปในห้องเบาๆ อาลั่วหลันและหมิงซีที่อยู่ข้างในนั่งหันหน้าเข้าหากัน หมิงซีดื่มชาแบบชิวๆ ส่วนอาลั่วหลันง่วงจนใกล้จะหลับแล้ว

“เสี่ยวฮัว เจ้ากลับมาแล้วหรอ เป็นยังไงบ้าง ฮ่องเต้เขาได้ทำอะไรเจ้าไหม” หมิงซีเงยหัวขึ้น เห็นสีหน้าที่เหน็ดเหนื่อยของเจ้าพอดี ต่อมาเขาก็ขมวดคิ้วขึ้น

ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ การปกป้องโล่หวินหลานเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเขา มีแต่โล่หวินหลานอยู่ดีมีสุขเขาจึงจะวางใจ

“หมิงซี ข้าจะออกวัง”โล่หวินหลานคิดซ้ำไปซ้ำมา ในที่สุดเจ้าก็เงยหน้าขึ้นบอกหมิงซีอย่างตั้งมั่น

นางยังคงอดไม่ไหวที่อยากจะเจอหน้าของโม่ฉีหมิงไม่ว่าจะใช้วิธีไหน นางขอแค่ได้เจอโม่ฉีหมิง

“อะไรนะ ออกวัง จะไปไหน ข้าจะไปด้วย” ไม่รู้ว่าอาลั่วหลันตื่นขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ นาวงได้ยินแค่แวบๆ ก็ยกมือขึ้นอย่างตื่นเต้น

อยู่ในรางวังแห่งนี้มันอึดอัดเกินไปแล้ว คนที่อยู่ข้างเจ้ามีแค่หมิงซีคนเดียว แต่เขากลับเป็นคนที่น่าเบื่อและเย็นชา ถึงนางอยากจะหาคนมาคุยด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะไปหาใครดี

ตอนนี้อุส่าห์มีโอกาสที่จะออกวังได้ เจ้าจะต้องออกไปให้ได้

หมิงซีหันไปมองที่อาลั่วหลันด้วยสายตาที่เย็นชา บางครั้งเขาไม่อยากจะสนใจนางจริงๆ แต่พอเห็นหน้าตาที่เพิ่งตื่นและยังงงๆ อยู่ของนาง ก็รู้สึกว่าใจอ่อนไปเลย

“ไม่มี อาลั่วหลัน เจ้าน่าจะง่วงมากแล้วเนาะ เดี๋ยวข้าเรียกคนพาเจ้าไปนอนในห้องนะ”โล่หวินหลานรีบเรียกสาวใช้ที่อยู่ข้างนอกเข้ามา พาอาลั่วหลันไปนอนในห้อง

“ไม่เอา เสี่ยวฮัว เมื่อกี้เจ้าเพิ่งบอกว่าจะออกวัง แต่ตอนนี้เจ้ากลับเรียกข้าไปนอนอย่างนี้นะ” อาลั่วหลันแสดงนิสัยของเด็กออกมา ทำให้โล่หวินหลานไม่รู้จะทำยังไงดี

แต่หมิงซีที่อยู่ข้างๆ มองอาลั่วหลันด้วยสายตาคมเข้ม ทุกอย่างอยู่ในการควบคุมของเขา

“อาลั่วหลัน เจ้าง่วงแล้วก็รีบไปนอนเลย ข้ามีเรื่องจะคุยกับเซี่ยวฮัว” หมิงซีมองอาลั่วหลันด้วยสีหน้าที่คมเข้ม ผ่านไปแค่ไม่กี่วินาที อาลั่ลหลันก็แพ้ให้กับหมิงซี

อาลั่วหลันไม่พอใจมาก “ก็ได้ พวกเจ้าคุยได้เลย ข้าไปพักแล้ว”

พูดจบเจ้าก็เปิดประตูออกไป สาวใช้สองคนที่รออยู่ข้างนอก เห็นเจ้าออกมาก็รีบพาเจ้าไปห้องนอนทันที

หมิงซีเห็นประตูได้ปิดแน่นแล้วก็หันหน้าไปมองโล่หวินหลาน สีหน้าของเจ้าจริงจังมาก เขาเลยถามขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้าจะออกวังจริงๆ หรอ”

โล่หวินหลานพยักหน้า ตาโตของนางมองไปยังข้างหน้า ในสายตาของเจ้ามีความรู้สึกที่หมิงซีไม่อาจเข้าใจได้

“ตอนนี้แหละ ข้าจะไปหมิงหวังตำหนัก ถึงแม้ได้แค่มองเขาอย่างห่างๆ ข้าก็พอใจแล้ว” วันนี้โล่หวินหลานได้ยินฮ่องเต้เจียเฉิงพูดว่าเขาไม่สบาย ไม่รู้ว่าสุขภาพของเขาเป็นยังไงบ้าง มันแย่กว่าเมื่อก่อนหรอ

หมิงซีตัดสินใจได้ทันที หน้าที่ของเขาก็คือปกป้องโล่หวินหลาน แค่นางปลอดภัย จิตใจของเขาก็สามารถสงบลงได้ และเขาก็ไม่ได้ทำให้ชิวโม่ไป๋ผิดหวัง

“ได้ ถ้าเจ้าจะไป ข้าจะไม่ยอมให้เจ้าไปคนเดียวเด็ดขาด” ไม่ว่าจะไปไหน ขอแค่เจ้ามาบอกข้า ข้าก็จะไปกับเจ้า

หมิงซีมองโล่หวินหลานที่อยู่ข้างกาย ในที่สุดประโยคสุดท้ายเขาก็ยังคงพูดไม่ออก

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ไม่เคยรู้เลยว่านางใช้ชีวิตเพื่อโม่ฉีหมิงเขาจะบอกนางประโยคสุดท้ายนั้นแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ในใจของนางมีคนที่สำคัญมากสำหรับเจ้า ถึงแม้ว่าคนคนนั้นเขาจะไม่เคยเจอก็ตาม

พอสองคนตกลงด้วยกันได้แล้ว ก็เริ่มวางแผนเส้นทางที่จะออกไปนอกวัง เมื่อก่อนโล่หวินหลานเคยเข้ามาในวังบ่อยๆ ถึงแม้จะไม่ได้เข้ามาเป็นปีแล้ว แต่นางก็ยังสามารถที่จะวาดเส้นทางของวังอย่างชัดเจน สามารถบอกได้ว่าทางออกไหนมีทหารน้อยที่สุด สามารถออกวังได้ง่ายที่สุด

แสงข้างในห้องมันมืดไปหน่อยโล่หวินหลานจับพุกันที่ไม่เคยชิน วาดเส้นตรงกับวงกลมบนกระดาษเรื่อยๆ หน้าตาของวังก็เริ่มออกมาแล้ว

“เมื่อก่อนเจ้าเคยเข้ามาอยู่ในวังหรอ” ผลงานของเจ้าทำให้หมิงซีรู้สึกอึ้ง ความสงสัยที่เมื่อก่อนเขาเคยมีให้เจ้า ในเวลานี้ได้หายไปหมดแล้ว

โล่หวินหลานดูผลงานที่แสดงถึงความจำดีของเจ้าอย่างภูมิใจ “ก็ไม่ได้มาอยู่ในวังบ่อยๆ แค่ได้เข้ามาในวังเป็นบางครั้งเท่านั้นเอง”

ขนาดนางเองก็เกือบลืมไปแล้วว่า เหตุผลที่เมื่อก่อนนางต้องเข้ามาในวัง และผ่านอะไรมาบ้าง มีหลายๆ อย่างนางจำไม่ได้แล้ว แต่สิ่งเดียวที่นางยังจำได้ ก็คือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหมิงหวังตำหนัก

โล่หวินหลานตั้งใจใช้หมึกสีแดงเขียนสัญลักษณ์ของประตูและทางออกที่ออกง่ายบนกระดาษ เพื่อไม่ให้สีหมึกเหมือนสีประตู หลังจากนั้นเจ้าก็ไปเอาชุดกลางคืนของนางออกมา เพื่อไม่ให้คนอื่นเห็นเจ้า

หมิงซียื่นมือไปรับชุดกลางคืนจากนาง เขาขมวดคิ้วและเอาชุดนั้นมาลองเทียบกับตัวเอง มันไม่ใช่ขนาดของตัวเอง

ชุดที่เจ้าให้มามันเล็กมากเลย ลองดูดีๆ มันเป็นชุดที่ผู้หญิงใส่นิ

“พวกนี้ข้าเอามาจากตาของข้า ชุดหนึ่งเป็นของแม่ข้า อีกชุดหนึ่งเป็นของตาข้า ทำไมมันถึงเล็กขนาดนี้”โล่หวินหลานดูไปดูมา รู้สึกแปลกใจมาก

“อันนี้ข้าใส่ไม่ได้หรอก” หมิงซีร้สึกไม่พอใจมาก

โล่หวินหลานพยายามไม่ให้เขาได้ยินเสียงหัวเราะของเจ้า “เจ้าใส่ๆ ไปก่อน ค่อยไปแก้ขนาดทีหลังเอา ยังไงมืดขนาดนี้ไม่มีใครมาสนใจเจ้าหรอก”

หมิงซีโดนกระทบจิตใจโล่หวินหลานพยักหน้า แล้วก็เข้าไปเปลี่ยนชุดกลางคืนในห้อง ออกมาอีกที ก็เห็นหมิงซีก็ได้เปลี่ยนชุดเรียบร้อยแล้ว ทั้งตัวอย่างกับปลาหมึกที่โดนบิด

“ดีมากเลย พวกเรารีบไปเหอะ”โล่หวินหลานมองดูท้องฟ้าข้างนอก ดวงดาวเต็มฟ้า ทำให้คนรู้สึกอบอุ่น

หมิงซีตามหลังโล่หวินหลานออกไปจากประตูใหญ่ด้วยสีหน้านิ่งเฉย เดินอย่างระมัดระวัง กลัวว่าไม่ได้ตั้งใจเสื้อก็จะแตก ถ้าไม่ใช่ว่าเพื่อโล่หวินหลาน เขาไม่มีวันที่จะมาสวมใส่ชุดบ้าๆ นี้หรอก

“พวกเราไปจากหลังสวนดอก ตรงนั้นเป็นปางตาย ไม่มีใครมาเห็นแน่นอน”โล่หวินหลานพูดช้าๆ เดินเบาๆ ขนาดแค่เดินยังระมัดระวังขนาดนี้

ยังดีที่ตงหัวเยี้ยนของพวกเขาอยู่ไกล ตอนนี้ไปทางทิศตะวันตกของสวนดอกไม่มีใครจะมาเห็นหรอก

“เดี่ยวก่อน มีคนมา” หมิงซีได้ยินเสียงก็หยุดเดินทันที ดึงไหล่ของโล่หวินหลาน ทำให้ลงไปอยู่กับพื้นที่เต็มไปด้วยดอกพลัมแดง

ดอกพลัมแดงที่สลับซับซ้อนบางร่างสองคนไว้โล่หวินหลานกลั้นลมหายใจ ไม่กล้าดิ้นแม้แต่น้อย

มีสาวใช้สองคนเดินผ่านต้นพลัมที่สองคนซ่อนอยู่ กระโปรงสีเขียวอ่อนผ่านไปต่อหน้าพวกเขาพร้อมเสียงบ่นของสาวใช้สองคน

“เจ้าว่ากุ้ยเฟยเหนียงๆ จะมาอยากกินแกงดอกพีชอะไรเวลานี้ เรียกพวกเราตื่นมาดึกขนาดนี้ นอนก็ไม่ให้เขานอนดีๆ” สาวใช้คนหนึ่งบ่น

อีกคนหนึ่งก็ใช้น้ำเสียงเดียวกัน “กุ้ยเฟยเหนียงๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ เขาตั้งใจจะให้คนอื่นเห็นว่าฮ่องเต้ชอบเขาที่สุด อยากให้คนอื่นอิจฉา แต่คนที่เหนื่อยกลับเป็นสาวใช้อย่างพวกเราไง”

สาวใช้สองคนนี้เพิ่งได้มาใหม่ ไม่เข้าใจคำว่ากำแพงมีหู ประตูมีช่อง ยังดีที่คนที่ได้ยินคือโล่หวินหลานกับหมิงซี ถ้าเป็นคนอื่นมายินเข้า ตายเป็นหมื่นครั้งก็ยังไม่พอ

จนถึงสาวใช้สองคนนั้นผ่านไป สองคนจึงค่อยๆ ยืนขึ้นอย่างระมัดระวังโล่หวินหลานมองดูสองคนนั้นค่อยๆ หายไปจากสายตาของตัวเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก