ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 241

ตอนที่ 241 แม่ม้าที่อ่อนแอ

โล่หวินหลานพึงพอใจกับการแต่งหน้าของตนในครั้งนี้มาก นางสวมใส่ชุดเตรียมพร้อมขี่ม้าสีเขียวอ่อน เข้ากับรองเท้าหนังกวาง แลดูเป็นคนกระตือรือค้นนัก

ตอนนี้ ด้านนอกมีเสียงดังเกิดขึ้น

โล่หวินหลานรู้ว่า เสียงนี้คือเสียงเริ่มต้นของการแข่งม้า

ก่อนหน้านี้ นางเองก็เคยมาล่าสัตว์เช่นนี้เหมือนกัน ตอนที่นางเห็นสนามล่าสัตว์นั้น นางรู้สึกตื่นตาตื่นใจมาก

"องค์หญิงเพคะ พวกเรารีบไปเถอะเพคะ ไปสายคงไม่ดีแน่" นางกำนัลอีกคนรีบเร่งขึ้น

"งั้นเราก็ไปกันเถอะ" โล่หวินหลานบอก พร้อมเดินออกไป

ตอนที่นางไปถึงสนามตรงกลางนั้น ก็มีผู้คนมากมายแล้ว ซึ่งทุกคนล้วนรอการเสด็จของฮ่องเต้เจียเฉิง

สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ วันนี้ได้พบกับองค์รัชทายาท

วันนี้เขาดูแข็งแรงไม่ป่วยซมเหมือนคราวที่แล้ว เขาช่างดูหล่อเหลายิ่งนัก ถึงแม้ว่าบนใบหน้าของเขายังมีความซีดเซียวเล็กน้อยเพราะพึ่งหายไป แต่หากดูรวมๆนั้น สีหน้าของเขาดีขึ้นมากแล้ว

แต่นางยังจำได้ดี วันแรกที่นางมาถึงแคว้นฉีหมิงนั้น เขาก็ยื่นนมม้าที่มียาพิษให้

"ทุกคนมาพร้อมกันหรือยัง?" ฮ่องเต้เจียเฉิงที่อยู่บนม้าพูดขึ้น เขาสวมเสื้อสีดำลายเทาซึ่งทำให้เขาดูอ่อนเยาว์ขึ้น

แต่ยังคงไม่อาจลบริ้วรอยบนใบหน้าของเขาได้

"ฮ่องเต้เพคะ ทุกคนมาครบแล้ว สามารถออกเดินทางได้แล้วเพคะ" ฮองเฮาเย่เอ๋ยขึ้น

ฮ่องเต้เจียเฉิงยิ้มแล้วพยักหน้า“เช่นนั้นก็ออกเดินทางกันเถอะ"

ตอนนี้ทุกคนล้วนมีม้ากันแล้ว ทางด้านองค์ชายมี่มักจะมาล่าสัตว์ พวกขันทีก็ได้จูงม้า มาข้างกายพวกเขา

“องค์หญิงเหอซื่อไม่มีม้าเป็นของตนเองหรือเพคะ?” เย่เซียวหลัวเอ๋ยขึ้น ขณะจูงม้าสีโลนดินแดงออกมา ขนบริเวณหัวของม้านั้นส่องประกางดงาม

เย่เซียวหลัวปรายตามองโล่หวินหลาน ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความชอบใจ ไม่รู้ว่านางกลายเป็นคนเช่นนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

ที่ใดที่มีองค์หญิงเหอซื่อ จะต้องมีนางอยู่เสมอ ขอเพียงได้กลั่นแกล้งนาง เย่เซียวหลัวก็รู้มีความสุขยิ่งนัก

โล่หวินหลานปรายตามองนาง รู้สึกรำคาญนางยิ่งนัก พอดีกับที่ขันทีอีกคนจูงม้าตัวสีขาวมา จากนั้นก็พูดขึ้น ”องค์หญเพคะ ม้าตัวนี้ไม่ผยสเหมาะกับองค์หญิงยิ่งนัก”

“แหม่ แม่ม้าตัวเมียที่ไม่ผยส! องค์หญิงเหอซื่อ ช่างโชคดีนัก ที่ได้ขี่ม้าตัวเมีย ช่างไม่ง่ายเลยจริงๆ” เย่เซียวหลัวส่ายหน้าไปมา

“พระชายาเวินอ๋องเพคะ ตอนนี้ข้ากำลังจะไปล่าสัตว์ การที่ท่านพูดพล่ามตรงนี้ ทำให้เสียเวลายิ่งนักท่านรู้หรือไม่?” โล่หวินหลานหันไปมองนาง แล้วพูดเสียงเรียบ

นางรีบกระโดดขึ้นไปบนหลังม้า โดยใช้เวลาเพียงชั่วพริบตา จนคนที่มองถึงกับตกใจ

นางปรายตามองเย่เซียวหลัว แล้วกระตุกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

กระชับตัวเข้ากับตัวม้า แล้วใช้แซ้ตีไปที่มา ไม่นานนั้นนางกับม้าก็คล้ายรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแล้วออกไปตัว

"เจ้า กล้าพูดเช่นนี้กับข้าหรือ? คอยดูเถอะ" เย่เซียวหลัวรู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก ความคิดของนางเต็มไปด้วยความเคียดแค้น

องค์หญิงเหอซื่อคนนี้ ก็คล้ายกับโล่หวินหลาน ช่างทำให้รู้สึกเกลียดนัก!

"อยากจะหนีข้างั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้" เย่เซียวหลัวเองก็รีบใช้แซ้ตีไปที่สะโพกของมา แล้วนางก็รีบพุ่งไปข้างหน้าราวกับคนบ้า

หิมะขาวโพลนที่พื้นนั้นเริ่มมีรอยเท้าของม้า ความงดงามที่ขาวโพลนนั้นหมดไป ต้นไม้แห้งรอบตัวนั้นยิ่งดูโดดเดี่ยวนัก

โล่หวินหลานขี่ม้าไปยังต้นไม้ขนาดใหญ่ด้านหน้า จากนั้นก็รีบเปลี่ยนทิศทาง แล้วอ้อมหนีต้นไม้ขนาดใหญ่นั้น

โล่หวินหลานหันกลับไปมองเย่เซียวหลัว นางรู้ดีว่าเย่เซียวหลัวกำลังคิดสิ่งใด ที่เย่เซียวหลัวรีบตามมาเช่นนี้ ก็เพื่อต้องการให้ตนเองดูมีเกรียติก็เท่านั้นไม่ใช่หรือ?

แต่น่าเสียวดาย โล่หวินหลานจะไม่ให้โอกาสนี้กับนาง

ในขณะเดียวกันนั้นม้าตัวเมียที่โล่หวินหลานขี่ในตอนนี้ ก็เริ่มที่จะเพลียแล้ว ม้าตัวนี้ไม่สามารถวิ่งได้นานถึงเพียงนี้ หากไม่ใช่เพราะนางใช้แซ้ตีนั้น ม้าคงไม่วิ่งไปนานแล้ว

"เหอะ ในเวลาคับขันเจ้าก็เผยจุดอ่อนออกมา คอยดูสิว่าข้าจะทำอย่างไรกับเจ้า" เย่เซียวหลัวยิ้มเย็นยะเยือก มองดูโล่หวินหลานที่ความเร็วเริ่มน้อยลง นางจึงรีบพุ่งตัวและม้าเข้าไป

ม้าตัวนั้นวิ่งเข้าไปด้วยความเร็วสูง คล้ายกับไม่มีสิ่งใดสามารถหยุดมันไว้ได้ เวลานี้ เย่เซียวหลัวก็กระหน่ำใช้แซ้ในมือตีไปที่สะโพกของมา เพื่อให้ความเร็วของมันมากขึ้นเช่นเดียวกัน

โล่หวินหลานเริ่มเป็นกังวล เพราะม้าของตนเองนั้นเริ่มหมดแรง แต่ม้าสีโคลนดินแดงของเย่เซียวหลัวนั้นกลับพุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วสูง

นางจับเชือกแน่น ขณะที่เย่เซียวหลัวกำลังเข้ามาประชั้นชิดแล้วนั้น นางก็รีบหันหัวม้าหนีไปอีกทาง

ขณะที่เย่เซียวหลัวนั้นพุ่งตัวผ่านหน้านางไป นางก็ได้เห็นสีหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธ

หรือนางไม่อยากมีชีวิตแล้วหรือ?

เสียงพายุหิมะข้างหูช่างชัดเจนยิ่งนัก ลมที่แรงพัดมาเข้าตาจนแสบไปหมด ณ ขณะนั้น ภาพตรงหน้าช่างยากที่จะลืมเลือน

เย่เซียวหลัวที่มีความหยิ่งทระนงตนนั้นตอนนี้ก็รีบจับเชือกของม้าแน่น แล้วค่อยๆหยุดม้าลง แล้วใช้ความเร็วทั่วไปในการไปสนามล่าสัตว์

โล่หวินหลานโล่งใจไปเปราะหนึ่ง จากนั้นจึงเลือกขี่ม้าไปยังเส้นทางที่ใกล้กับสนามล่าสัตว์

"องค์หญิงเหอซื่อ ม้าของท่านเป็นอะไรไปหรือ? รู้สึกดูซึมๆ หรือว่ามันป่วย?" องค์ชายสิบเจ็ดถามขึ้นขณะที่ขี่ม้าผ่านมา เขามองมาที่ม้าของนางด้วยแววตาสงสัย

เมื่อผ่านเหตุการณ์เมื่อสักครู่นั้น ก็ไม่แปลกที่ม้าตัวนี้จะหมดแรง ตอนนี้ม้าจึงดูซึมๆไป

"องค์ชายสิบเจ็ดแววตาเฉียบแหลมมากเพคะ ถูกต้องเพคะ ตอนนี้ม้าตัวนี้ดูซึมๆไปนั้น ไม่ใช่เพราะป่วย แต่เป็นเพราะหม่อมฉันพาม้าวิ่งและเดินไปมา ทำให้มันเหนื่อยก็เท่านั้น" โล่หวินหลานยิ้ม แล้วอธิบาย

องค์ชายสิบเจ็ดถึงแม้ว่าฮ่องเต้จะรักและเอ็นดูมากก็ตาม แต่เขาก็ไม่ได้เป็นคนที่คิดจะทำร้ายใคร หากเป็นคนอื่นนั้น ตอนนี้คงไม่คิดที่จะเข้ามาใกล้นาง

"ม้าตัวเมียนั้นมีนิสัยส่วนตัวของมัน บางครั้งก็อาจจะแอบเกียจคร้านไปบ้าง ให้หม่อมฉันเปลี่ยนม้าให้ดีไหม?" องค์ชายสิบเจ็ดเอ๋ยปากถาม

คนที่อยู่รอบตัวนั้นต่างก็ได้ยินชัดเจน อ๋องหลัวนั้นคิดอย่างไรกัน หรือเขาคิดที่ไปเปลี่ยนม้าให้องค์หญิงเหอซื่อจริงๆ?

โล่หวินหลานเผยยิ้ม“อ๋องหลัว พูดเช่นนี้แล้วว่าม้าตัวเมียล้วนมีนิสัยของม้า แล้วเหตุใดจึงจำเป็นต้องไปเปลี่ยนด้วยเล่า?"

อ๋องหลัวส่ายหน้า มองดูม้าของโล่หวินหลาน

"สิ่งที่ท่านพูดก็ถูก แต่หากสามารถใช้ม้าที่มีกำลังหน่อยคงจะดีกว่า" อ๋องหลัวพูดขึ้นแล้วหันไปยิ้มให้โล่หวินหลาน พูดจบ เขาก็ขี่ม้าตรงไปยังสนามรบ

อ๋องหลัวนั้นเป็นคนที่จิตใจดี เขาได้รับความรักและเอ็นดูจากฮ่องเต้มากกว่าองค์ชายท่านอื่น แต่เขาก็ไม่เคยที่จะหยิ่งทระนงตน กลับกันนั้น เขามีจิตใจที่ดี และไม่เคยคิดที่จะมาแย่งชิงอำนาจกับพวกพี่ชายของตน

เขาเพียงหวังให้มีสิ่งดีๆกับแคว้นโม่ฉี ขอให้ฮ่องเต้สุขภาพดีก็เท่านั้น

โล่หวินหลานมองตามแผ่นหลังของอ๋องหลัวที่ผ่านไปนั้น ในใจของนางรู้สึกชื่นชมเขานัก เพียงแต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายจุดจบของชีวิตเขาจะเป็นเช่นไร

"นี่ หม่อมฉันต้องการแข่งม้ากับท่าน!" เย่เซียวหลัวเอ๋ยขึ้นขณะที่เดินจูงม้ามาตรงหน้าของโล่หวินหลาน น้ำเสียงของนางนั้นราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

เมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นหูนั้น นางไม่จำเป็นต้องหันกลับไปมองก็รู้ว่าเป็นใคร โล่หวินหลานเอาหญ้าให้ม้ากิน จากนั้นก็ส่ายหน้าให้นาง

"พระชายาเวินอ๋อง หากต้องการที่จะแข่งม้านั้น เมื่อครู่ยังไม่พออีกหรือเพคะ?" โล่หวินหลานตอบด้วยใบหน้าเรียบเฉย

เย่เซียวหลัวนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ก็รู้สึกได้ใจยิ่งนัก ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยรอยยิ้ม

การที่สามารถล้มองค์หญิงเหอซื่อนั้น เป็นสิ่งเดียวที่นางต้องการ

"เมื่อสักครู่นั้นไม่เรียกว่าการแข่งม้าที่แท้จริงเพคะ ตอนนี้หม่อมฉันอยากแข่งกับองค์หญิงอีกสักครั้ง ได้หรือไม่?" เย่เซียวหลัวถามขึ้นแล้วหันมามองโล่หวินหลาน

"เกิดอะไรขึ้น? พระชายาเวินอ๋องอยากแข่งม้างั้นหรือ?" เสียงของโม่ฉีหมิงดังขึ้นจากไกลเป็นใกล้ ตอนนี้เขาดูเย็นยะเยือกจนน่ากลัว

เขาสวมชุดสีดำสนิท ยืนอยู่ถามกลางหิมะที่คราวโพลน ทำให้ดูโดดเด่นยิ่งนัก

ณ ที่แห่งนี้ไม่มีใคร เพราะทุกคนล้วนไปที่สนามแข่งม้ากันแล้ว โม่ฉีหมิงเองก็พึงกลับมาจากสนามล่าสัตว์ ตอนแรกเขาคิดเพียงที่จะมาหาโล่หวินหลาน แต่ไม่คิดเลยว่าเย่เซียวหลัวจะอยู่ที่นี่เช่นกัน

เย่เซียวหลัวมองคนที่กำลังมานั้น ตอนนี้นางไม่คิดสิ่งใดทั้งนั้น ความคิดและความแค้นทั้งหมดของนางมีเพียงโล่หวินหลาน

นางจะใช้โอกาสนี้ ให้องค์หญิงนี่ขายหน้าสักครั้ง

"หมิงอ๋องคราวนี้คงไม่มีโอกาสแล้ว การแข่งม้าครั้งนี้เป็นของหม่อมฉันและองค์หญิงเพคะ" เย่เซียวหลัวพูดขึ้นราวกับตกลงกันแล้ว แล้วมองไปยังโล่หวินที่กำลังป้อนหญ้าให้ม้า

โม่ฉีหมิงปล่อยมือจากม้าของตน แล้วเผยยิ้มเล็กน้อย รอยยิ้มของเขานั้นไม่รู้ว่ามีความหมายใดแฝงอยู่ แต่ที่แน่ชัดนั้นคือไม่ได้หวังดีแน่

"พระชายาเวินอ๋อง ได้ยินมาว่าท่านขี่ม้าได้เก่งกาจยิ่งนัก คนตระกูลเย่นั้นล้วนมีความสามารถ เพียงแต่ข้าเองยังไม่เคยได้พบเห็น ครั้งนี้ท่านช่วยเผยการขี่ม้าที่เก่งกาจของตนให้ชมหน่อยได้หรือไม่?" โม่ฉีหมิงเอ๋ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย ใบหน้าเรียบเฉยของเขานั้นราวกับกำลังทำสงครามเย็นกับเย่เซียวหลัว

เย่เซียวหลัวส่ายหน้า“หมิงอ๋องกล่าวชมกันมากเกินไปแล้วเพคะ หม่อมฉันเพียงอยากเห็นทักษะการขี่ม้าขององค์หญิงว่าดีเหมือนการขับร้องเพลงของนางหรือไม่ก็เท่านั้น นี่คงไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกใช่ไหมเพะ?"

วันนี้ดูท่าแล้ว เย่เซียวหลัวคงไม่ยอมลามือง่ายๆแน่

หากวันนี้นางไม่ได้รู้สึกว่าตนเองสูงส่งกว่าคนอื่น นางคงไม่ยอมให้โล่หวินหลานไปไหนแน่

อันที่จริงหากนางไม่คิดมาดีแล้วนั้น นางก็คงไม่ยอมเป็นองค์หญิงเหอซื่ออย่างเช่นทุกวันนี้

"เกิดเรื่องใดขึ้นหรือ? ดูครึกครื้นยิ่งนัก?" เสียงทุ้มต่ำของชายหนุ่มดังนั้น เสียงนั้นคือเสียงของเวินอ๋องนี่เอง เขาสวมชุดสำหรับขี่ม้าแล้วค่อยๆเดินมาอย่างสง่างาม

เย่เซียวหลัวเมื่อเห็นว่าเป็นเวินอ๋อง ก็รีบโผลเข้าไปหาทันที

"หม่อมฉันต้องการแข่งม้ากับองค์หญิงเหอซื่อ ตอนนี้กำลังเลือกเส้นทางที่เหมาะในการแข่ง เวินอ๋องเพคะ พวกท่านมักจะมาแข่งม้ากันที่นี่ ท่านช่วยแนะนำเส้นทางให้เราหน่อยได้หรือไม่" เย่เซียวหลัวเอ๋ยขึ้น โดยไม่สนใจว่าโล่หวินหลานตอบตกลงแล้วหรือยัง

แข่งม้ากับเย่เซียวหลัว?

เวินอ๋องหันไปมององค์หญิงเหอซื่อ จากที่เขารู้จักนางมานั้น นางไม่น่าตอบตกลงแข่งม้ากับเย่เซียวหลัวหนิ

อีกอย่างการแข่งขี่ม้าเช่นนี้ก็อันตรายยิ่งนัก และนี่ก็ยังเป็นฤดูหนาวอีกด้วย เวินอ๋องรู้ดีว่าเย่เซียวหลัวกำลังคิดสิ่งใด นางเพียงอยากจะให้องค์หญิงเหอซื่อรู้ว่านางอยู่สูงกว่า แต่ไม่จำเป็นต้องทำถึงเช่นนี้เลย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก