ตอนที่ 250 การทำดีที่แตกต่างกัน
ถึงแม้ตอนนี้คือหน้าหนาว แต่ตอนที่ทำให้ร่างกายอบอุ่น ถ่านที่เยอะกว่าเดิมก็ได้แค่ทำลายสภาพจิตใจของคนให้ร้อนรนมากยิ่งขึ้น
เย่เซียวหลัวยกแขนเสื้อขึ้นและใช้แรงพัดหน้าของตนเอง มองไปยังเตาผิงที่อยู่ข้างหน้า และค่อยๆพูดขึ้น “เสด็จพ่อเจ้าคะ ไม่งั้นพวกข้าลองไปที่ห้องที่หลัวอ๋องดู เวลาผ่านไปนานขนาดนี้ ถ้ารักษาเสร็จองค์หญิงเหอซื่อคงมาทูลท่านพ่อตั้งนานแล้ว แต่ถ้ายังรักษาไม่หาย ยิ่งต้องสารภาพความผิดบาป แต่ไม่ใช่ว่าเงียบหายไปเยี่ยงนี้?”
พอเย่เซียวหลัวพูดจบ คนที่อยู่รอบๆก็นั่งไม่อยู่อีกต่อไป และทูลถามฮ่องเต้กันหมด “ฮ่องเต้เจ้าคะ พวกข้าลองไปดูๆหน่อยก็ดี องค์หญิงเหอซื่ออาจจะรักษาหลัวอ๋องให้หายแล้ว แค่ว่าไม่ได้มารายงานพวกข้าเท่านั้น”
เย่เซียวหลัวทำสีหน้าเหมือนจะลำบากใจและทูลขึ้น “ลี่เฟยเหนียงเหนียง คำๆนี้ท่านน่าจะทูลผิดไป เมื่อครู่คนของข้าออกไปข้างนอกไปช่วยข้าเอาของ เขาบอกว่าตอนที่เขาเดินผ่านห้องของอ๋องหลัว ไม่ได้ยินเสียงที่ส่งออกมาว่ากำลังรักษาอะไรเลย อีกอย่างพวกหมอหลวงก็ถูกไล่ออกมาอยู่ตรงศาลานอกห้อง เหลือแค่องค์หญิงเหอซื่อและหมิงอ๋องอยู่ข้างในกันสองคน
ทุกคนต่างก็โวยวายขึ้นมาอย่างเสียงดัง
ในห้องของอ๋องหลัวมีแค่องค์หญิงเหอซื่อและโม่ฉีหมิงอยู่กันสองต่อสอง พวกเขายังไล่หมอหลวงออกมาอยู่ศาลาข้างนอก คงไม่ใช่เพราะตั้งใจจะไล่หมอหลวงออกมาแล้วทำอะไรไม่ดีกับอ๋องหลัว?
ทุกคนต่างรู้ดี อ๋องหลัวเป็นราชโอรสคนสุดท้ายที่ฮ่องเต้โปรดปรานมากที่สุด เพราะว่าเขาตกลงมาจากม้า ถ้าหมิงอ๋องถือโอกาสในการรักษาอ๋องหลัวแล้วทำอะไรที่คนอื่นเห็นไม่ได้ ทำร้ายหมิงอ๋อง งั้นก็คงไม่มีใครรู้ใช่หรือไม่?
“พวกเขาไล่พวกหมอหลวงออกมาได้เยี่ยงไร? นั่นพวกเขาทำอะไรอยู่ในนั้น?” ลี่เฟยเหนียงเหนียงถามขึ้นด้วยความแปลกใจ
พอคำพูดหลุดออกมาแล้ว ความคิดของทุกคนเลอะเลือนไปกันหมดแล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงที่สุดทึ่คือความปลอดภัยของอ๋องหลัว
“ใครจะไปรู้ล่ะ? ผ่านมานานเยี่ยงนี้ พวกเขาไม่ได้ส่งคนมารายงาน และยังรักษาอ๋องหลัวไม่หาย นั่นพวกเขาอยู่ที่นั่นทำอะไรก็คงไม่มีใครรู้” เย่เซียวหลัวขมวดคิ้วขึ้น น้ำเสียงของนางฟังดูแย่
บรรยากาศในตำหนักหลักเต็มไปด้วยความร้อนแต่ก็เหมือนจะหนาวๆแบบแปลกๆ ไม่รู้ว่าความหนาวนี้มาจากไหน แต่กลับทำให้คนอื่นรู้สึกขนลุก
ใบหน้าอันเหี่ยวแก่ของฮ่องเต่เจียเฉิงเต็มไปด้วยสีหน้าที่ดูแย่ แววตาของเขาดูลึกลับและเย็นชามากๆ พระมาลาห้อยลูกปัดของเขาได้เปล่งประกายออกมา ทำให้เขาดูทรงพลังและสง่าไม่เหมือนคนธรรมดา
ฮองเฮาเย่ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ แต่กลับทำแค่สีหน้าที่ดูแย่ และดูกังวล มิได้พูดอะไรออกมา สีหน้านั่นทำให้คนอื่นคาดเดายากว่าคิดอะไรอยู่
“เป็นเยี่ยงนี้จริงๆหรือ? พระชายาเวินอ๋อง คนของเจ้าเห็นองค์หญิงเหอซื่อและหมิงอ๋องไล่หมอหลวงออกมา ข้างในไม่มีเสียงเคลื่อนไหวใดๆเลยหรือ?” ฮ่องเต้เจียเฉิงปริตาถามขึ้นอีกรอบ
สำหรับโม่ฉีหมิงแล้ว ในใจของเขาก็ไม่เชื่อว่าโม่ฉีหมิงจะเป็นคนทำ หลายปีกับเรื่องร้ายๆที่เกิดขึ้นทำให้เขาดูด้านชาและไม่มีจิตใจ
แต่ว่าวันนี้ ความเชื่อของเขาได้อ่อนแอลง
“ทูลเสด็จพ่อ ข้าก็ไม่ได้รู้เรื่องขนาดนั้น ทูลให้เสด็จพ่อไปดูเองกับตาจะดีกว่า นี่อาจจะทำให้ท่านพ่อรู้ว่ามันเป็นเยี่ยงไร” เย่เซียวหลัวได้แสดงท่าทีที่ยากจะเข้าใจ
ฮ่องเต้ผู้ที่ได้จัดชุดของตนเองเรียบร้อย เมื่อเขารู้สึกหวั่นไหวตั้งแต่แรก สายตาอันเลือดเย็นได้มองไปข้างหน้า ก่อนที่จะลุกขึ้นก็ได้ถามฮองเฮาเย่ก่อน
“ฮองเฮา เจ้าว่ายังไงบ้าง?”
ฮองเฮาเย่เหมือนคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว และอมยิ้มเบาๆ “ถ้าตามโดยหลักการแล้ว สุขภาพร่างกายของราชโอรสสำคัญกว่า ฮ่องเต้ผู้เป็นถึงกษัตริย์ทั่วแผ่นดินและยังเป็นบิดา ก็ควรที่จะไปดูสักหน่อย”
ฮ่องเต้ผู้ที่ไม่เคยเชื่อฟังฮองเฮา วันนี้กลับคาดคิดไม่ถึงว่าเขาจะพยักหน้า และรีบลุกขึ้น เดินไปตรงประตู
คนในตำหนักหลักต่างก็ลุกขึ้นยืนอย่างกะทันหัน ร่างของฮ่องเต้ค่อยๆเดินออกไป แสงไฟได้หลี้ลงเล็กน้อย ฮองเฮาเย่หันข้างไปมองเย่เซียวหลัวและพยักหน้าใส่นาง
เขาเดินได้เร่งรีบมาก ตลอดทางที่ไปห้องของหลัวอ๋อง ยังไม่ทันได้เดินไปใกล้ๆก็เจอหมอหลวงทั้งสี่ยืนอยู่ในศาลาข้างนอกห้องของหลัวอ๋อง
นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะเหมือนที่เย่เซียงหลัวพูดไว้ไม่มีผิด พวกเขาไม่ได้อยู่ในห้องนั้น
“พวกเจ้าอยู่ที่นี่ทำอะไรกัน?” ฮ่องเต้เดินเข้าไปใกล้แล้วถามขึ้น
เหล่าบรรดาหมอหลวงก็คุกเข่าลง หัวเราะของพวกเขาได้ทูลกลับอย่างเสียงสั่น “ทูลฝ่าบาท ใช่ หมิงอ๋องเองที่สั่งให้พวกข้าออกมารอข้างนอก บอกว่ารอข้างในไม่สะดวก อีกอย่าง อีกอย่างพวกข้าช่วยอะไรพวกเขาไม่ได้เลย”
สีหน้าของฮ่องเต้เปลี่ยนไปเล็กน้อย ยังไงก็รู้สึกไม่พอใจกับคำตอบนี้ และยิ่งรู้สึกไม่พอใจในโม่ฉีหมิง
เขาสะบัดแขนเสื้อขึ้นแล้วไม่ตอบกลับใดๆ เดินไปทิศทางที่จะเข้าห้อง ข้างนอกมีบ่าวคอยเฝ้าอยู่ ดูๆแล้วเหมือนจะคุ้นตา ที่แท้ก็เป็นบ่าวรับใช้หลัวอ๋องนี่เอง
“องค์หญิงเหอซื่อรักษาหลัวอ๋องหายดีหรือยัง?” ฮ่องเต้ขมวดคิ้วขึ้นและถามขึ้น
บ่าวผู้นั้นเหมือนเป็นครั้งแรกที่ได้เจอฮ่องเต้ ยังกล้าๆกลัวๆ ฟังคำพูดที่เขาถามแล้ว และรีบคุกเข่าลง “ทูลฮ่องเต้ เจ้าน้อย เจ้าน้อยถูกสั่งให้มาเฝ้าหน้าประตูตั้งแต่แล้วเจ้าคะ ไม่รู้ข้างในที่เกิดขึ้นมันเป็นเยี่ยงไรบ้าง”
ดีมากนะที่ถามคนนี้ก็ไม่รู้เรื่อง สั่งให้ออกมาเฝ้าข้างนอกกันหมด ไม่รู้ว่าคนในนั้นกำลังทำอะไรอยู่ ฮ่องเต้รู้สึกสนใจเป็นอย่างมาก
“เสด็จพ่อเจ้าค่ะ ท่านว่าพวกเขาสั่งให้บ่าวที่ติดตามหลัวอ๋องและหมอหลวงออกมากันหมด ไม่มีใครรู้เรื่องจริงๆว่าข้างนอกพวกเขาเกิดอะไรขึ้น” เย่เซียวหลัวค่อยๆเกลี้ยกล่อมฮ่องเต้ ทำให้ไฟที่เขามีลุกเยอะกว่าเดิม
ถ้าเป็นปกติ ฮ่องเต้คงไม่สงสัยในคำพูดของเย่เซียวหลัวหรอก
แต่ว่า ณ เวลานี้ หลักฐานทั้งหมดที่ชี้ไปยังโม่ฉ๊หมิงและองค์หญิงเหอซื่อ เขาไม่สามารถเข้าข้างใครได้จริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก