ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 256

ตอนที่ 256 พบเบาะแส

อากาศในหน้าหนาวมีลมพัดค่อนข้างเย็น และหิมะที่ตกลงมา ทำให้คนที่ได้สัมผัสหนาวเย็นไปถึงกระดูก

โม่ฉีหมิงนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหาร บนโต๊ะมีอาหารที่คุ้นเคย เขาจ้องไปที่อาหารบนจาน เขาอดไม่ได้ที่หยิบมันขึ้นมา แต่แล้วก็วางมันลงอีก

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ฉินหยิ่นเดินอุ้มนกพิราบเข้ามา ในมือมีม้วนกระดาษสีเหลืองขนาดเล็ก

“ท่านอ๋อง มีข่าวมาจากในวังหลวง” ฉินหยิ่นยื่นกระดาษไปให้โม่ฉีหมิง

ในที่สุดเวลาที่โม่ฉีหมิงรอคอยก็มาถึงจนได้ เขาค่อยๆเปิดกระดาษออก แล้วอ่านสารในตัวของเขาทั้งหมด

สายตาของเขาค่อยๆอ่อนลง เขายิ้ม สายตาของเขาไม่ได้อ่อนโยนแบบนี้มานานมากแล้ว

“ท่านอ๋อง ในจดหมายเขียนอะไร? องค์หญิงเหอซื่อเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?” ฉินหยิ่นถามด้วยความสงสัย จดหมายอยู่ในมือของเขาก็จริงแต่ว่าเขาก็ไม่คิดจะเปิดอ่าน

ปกติแล้วความคิดของโม่ฉีหมิงค่อนข้างเดาได้ยาก ฉินหยิ่นก็ไม่ได้ไปเดาว่าเป็นยังไง แต่ว่าเขาไม่ค่อยได้เห็นสายตาของโม่ฉีหมิงมีรอยยิ้มแบบนี้มาก่อน

“ไม่ใช่ นางกำนัลที่ข้าส่งเข้าไปในวังหลวงถูกจับได้แล้ว นางรู้แล้วว่าข้าเดาฐานะนางออกแล้ว” โม่ฉีหมิงไม่รู้ทำไมเหมือนกันว่า ทำไมในใจของเขามีความรู้สึกดีใจมาก

รู้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องเจอหน้าก็เหมือนไม่รู้จักกัน เอาแต่เดาอย่างเดียว ปลอบใจตัวเองไปอย่างนั้น

ความดีใจมากๆในใจของโม่ฉีหมิง ไม่รู้เหมือนกันว่านานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้รู้สึกแบบนี้

หลังจากที่โล่หวินหลานตายจากเขาไปแล้ว เหมือนกับว่าพระอาทิตย์ขึ้นมาแล้วมันมืดมนไปหมด หรือว่าสวรรค์เห็นใจเขาเห็นว่าเขาเหมือนตกนรกทั้งเป็น ดังนั้นเลยให้โล่หวินหลานกลับมาหาเขาอีก

ฉินหยิ่นยังไม่ค่อยอยากจะเชื่อ “ท่านอ๋อง ทำไมอาศัยแค่ขนมถั่วเหลืองกับกระดูกหมูน้ำแดงก็พิสูจน์ว่าองค์หญิงเหอซื่อก็คือพระชายาล่ะ? เกิดว่า องค์หญิงท่านก็ทรงชอบกินของพวกนั้นล่ะ?”

ไม่ว่ายังไงก็ตาม ฉินหยิ่นจะไม่เชื่อว่าคนที่ตายไปแล้ว อีกทั้งถูกไฟคลอกตายจะเกิดใหม่ได้

ต่อให้วิญญาณแค่ออกจากร่าง มันก็น่าแปลกอยู่ดี

“ไม่ใช่แค่อาหารสองอย่างนี้หรอก ก่อนหน้านี้ข้าหยั่งเชิงนางมาแล้ว ค่อนข้างมั่นใจ นางก็คือโล่หวินหลาน” โม่ฉีหมิงพูดอย่างมั่นใจ การตัดสินใจของเขาไม่เคยผิดพลาดมาก่อน

ต่อให้ฉินหยิ่นจะเชื่อมั่นในตัวของโม่ฉีหมิงแค่ไหน แต่ว่าเรื่องนี้มันเกินกว่าที่จะเชื่อได้ เพราะเรื่องแบบนี้มันแทบจะเกิดขึ้นไม่ได้เลย

แต่ว่า ยังไงซะวันหนึ่งเรื่องนี้ก็ต้องกระจ่างขึ้น

“ท่านอ๋อง จะตอบจดหมายไหม?”

โม่ฉีหมิงส่ายหน้า “ไม่ต้อง ไซ่เยว่แค่รายงานให้เรารู้เท่านั้น หากตอบจดหมายกลับจะทำให้คนสงสัยได้”

ก็จริง เดิมพวกเขาไล่คนของรัชทายาทออกไป แล้วเปลี่ยนคนใหม่ทั้งหมด ก็เสียแรงไปมากแล้ว หากตอบจดหมายไปอีกจะทำให้คนสงสัยได้

ฟ้าด้านนอกมืดแล้ว ฟ้ามองไม่ค่อยออก โม่ฉีหมิงยืนขึ้น แสงไฟในห้องส่องมาที่เขา

“เก็บของพวกนี้ซะ ต่อไปทุกเย็นให้ส่งขนมถั่วเหลืองกับกระดูกหมูน้ำแดงเข้าวังด้วย” โม่ฉีหมิงสั่งเสร็จก็เดินเข้าห้องไป

ฉินหยิ่นพยักหน้า หันหลังแล้วเดินไปสั่งห้องเครื่องทันที

ดูท่าทางสวรรค์จะเห็นใจคนที่น่าสงสาร ท่านอ๋องของพวกเขาตกนรกทั้งเป็นมานาน ตอนนี้เห็นพระชายากลับมาใหม่อีกครั้ง เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องดี

โล่หวินหลานเข้าใจแล้วว่านางกำนัลที่มาใหม่ทั้งหมดใครเป็นคนทำ นอกจากโม่ฉีหมิงแล้ว นางคิดไม่ออกแล้วว่าใครจะมีความสามารถและสติปัญญาที่จะทำแบบนี้ได้อีก

ไซ่เยว่เป็นคนของโม่ฉีหมิง

“ไซ่เยว่ เจ้าไปสืบมาทีว่าวันนี้พระชายาเวินอ๋องเข้าวังมาหรือเปล่า” โล่หวินหลานกินข้างเช้าเสร็จ ก็นั่งดื่มชา

ในเมื่อรู้แล้วว่าไซ่เยว่เป็นคนของโม่ฉีหมิง นางก็สามารถใช้งานได้อย่างดี คนที่สามารถอยู่ข้างกายของโม่ฉีหมิงได้ จะต้องไม่ธรรมดา

ไซ่เยว่มือสั่น นางไม่เคยคิดเลยว่าโล่หวินหลานจะให้นางไปทำอะไรพวกนี้ เพราะนางเป็นนางกำนัลที่เพิ่งมาใหม่ แล้วทำไมถึงเอางานสำคัญแบบนี้ให้นางไปทำล่ะ มันทำให้นางหวาดกลัว

“เพคะ องค์หญิง” ไซ่เยว่พยักหน้า แล้วก็ออกไป

เสียงลมจากด้านนอกดังขึ้นมา หมิงซีอาการหนักขึ้นทุกวัน หากไม่มีเหตุผลที่เหมาะสมทางสำนักหมอหลวงคงไม่มีทางเอายาให้ ใครวางยาหมิงซีก็จะสืบไม่ได้ว่าใครเป็นคนทำ

หลายเรื่องทับถมมาบนตัวโล่หวินหลาน ทำให้นางหายใจไม่ออก

ยังดีที่โม่ฉีหมิงจัดคนเขามาให้ใหม่ ก็สามารถใช้งานได้อย่างสบายใจแล้ว

เสียงลมจากภายในนอกพัดแรงมาก โล่หวินหลานเดินไปที่ริมหน้าต่าง แล้วเปิดหน้าต่างออก ลมหิมะพัดโชยมา

หิมะลอยมาปิดถาดถ่านในห้องจนมิด

“องค์หญิง ระวังสุขภาพด้วยเพคะ ลมหิมะข้างนอกพัดแรงมาก ท่านปิดหน้าต่างดีกว่า” นางกำนัลด้านหลังเตือน

ลมหิมะแรงมาก แต่ว่าทำแบบนี้แล้วมันทำให้นางสงบลงได้

“ไม่เป็นไรหรอก ลมหิมะแบบนี้มันทำให้ข้ามีสติขึ้นมาได้” โล่หวินหลานยื่นมือออกไปนอกหน้าต่าง จากนั้นก็บีบก้อนหิมะมาไว้ในมือ

คนด้านหลังนิ่งไป เหมือนคิดเหตุผลที่เหมาะสมขึ้นมาได้ว่า “องค์หญิง ตอนนี้ใกล้สิ้นปีแล้ว หากปีใหม่ท่านไม่สบาย มันจะไม่ดีนะเพคะ”

นางกำนัลพูดจบ ก็เดินขึ้นไปปิดหน้าต่าง แล้วจุดไฟในเตาถ่านอีกครั้งแล้วเอามาให้โล่หวินหลานผิง แล้วพยุงนางมานั่งที่เก้าอี้อีกครั้ง

ใกล้สิ้นปีแล้ว? เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียวปีใหม่ก็ใกล้เข้ามาอีกแล้ว

ปีใหม่ที่แล้วนางนอนฉลองปีใหม่อยู่บนเตียง ปีใหม่ปีนี้จะทำแบบนั้นไม่ได้อีก

“จริงด้วย ใกล้สิ้นปีแล้วนี่นา อากาศก็เริ่มหนาวแล้ว” โล่หวินหลานยิ้ม นางกำนัลยกน้ำชามาให้นาง

ทันใดนั้นเอง ประตูก็เปิดออก

“องค์หญิง หม่อมฉันไปสืบมาแล้วเพคะ วันนี้พระชายาเวินอ๋องตามเวินอ๋องมาถวายพระพรต้วนกุ้ยเฟยด้วย ตอนนี้อยู่ในตำหนักมาเกือบชั่วยามแล้วยังไม่ออกมาเลยเพคะ” ไซ่เยว่รายงาน

แต่ว่าเวลาแค่ไม่นาน ไซ่เยว่ก็สามารถสืบได้ละเอียดขนาดนี้ ไม่เสียแรงที่เป็นคนของโม่ฉีหมิง ทำงานไวแล้วก็ดี

เวินอ๋องต้องเข้าวังมาถวายพระพรต้วนกุ้ยเฟยทุกวันอยู่แล้ว เพื่อแสดงความกตัญญู ตั้งแต่เขาแต่งงานกับเย่เซียวหลัว สองสามีภรรยานี่ก็ตัวติดกันไม่ห่างเลย เข้าออกตำหนักพระสนมต้วนกุ้ยเฟยตลอด

เป็นอย่างนี้ตลอด ตั้งแต่เย่เซียวหลัวแต่งงาน

“เจ้าตามข้าไป คนอื่นอยู่ที่นี่แหละ” โล่หวินหลานกระพริบตา โอกาสมาแล้ว

นางกลัวที่สุดคือเย่เซียวหลัวไม่ได้เข้าวัง เพราะมันจะต้องเหนื่อยหาเรื่องออกจากวังไปอีก แต่ตอนนี้เป็นไปตามที่นางคิดเอาไว้

แต่ว่าดงหัวเยี้ยนห่างจากอุทยานหลวงมาก อีกทั้งวังหลวงเองก็ใหญ่ขนาดนี้ ตำหนักของสนมทุกคนค่อนข้างละเอียดประณีต โดยเฉพาะตำหนักของฮ่องเฮากับต้วนกุ้ยเฟย

ยังดีที่โล่หวินหลานสุขภาพดี เดินแค่นี้ไม่มีปัญหาอะไร

“องค์หญิง ให้หม่อมฉันไปเคาะประตูไหมเพคะ?” ไซ่เยว่หันไปมองโล่หวินหลานด้วยความสงสัย

เห็นนางส่ายหน้า

“ไม่ต้อง เรารออยู่ตรงนี้พอ พวกเขายังไงก็ต้องออกมา” โล่หวินหลานเดินไปทางทิศใต้ของอุทยานหลวง

ตรงนั้นเป็นสถานที่ที่มองเห็นเย่เซียวหลัวได้ดีที่สุด

ไซ่เยว่เดินตามหลังนาง การกระทำของนางทำให้ไซ่เยว่สงสัย ทำไมองค์หญิงของแคว้นเจิ้งโจวถึงได้คุ้นเคยกับอุทยานหลวงเป็นอย่างดีแบบนี้?

ต่อให้อยู่ในวังหลวงมาระยะหนึ่งแล้วยังไง? คงไม่ได้มาเพื่อสืบว่าอุทยานหลวงเดินยังไงหรอกนะ

“องค์หญิง ทำไมเราต้องมารอที่นี่ด้วย?” ไซ่เยว่แกล้งถามแบบไม่รู้

“ที่นี่มองเห็นตำหนักของต้วนกุ้ยเฟยได้ชัดที่สุด นางออกมาเมื่อไหร่ เราก็จะเห็น” โล่หวินหลานยืนอยู่ใต้ต้นดอกเหมย

วันนี้นางสวมชุดสีชมพูกลมกลืนไปกับดอกเหมยมาก ท่าทางราศีของนางราวกับดอกเหมยเลย

ทั้งคู่คุยกันได้ครู่หนึ่ง ตำหนักของต้วนกุ้ยเฟยก็มีเงาของคนสองคนเดินออกมา

เย่เซียวหลัวยืนอยู่ข้างเวินอ๋อง ถึงแม้จะไม่ได้สวยมาก แต่ก็พอมีความสง่างาม

เวินอ๋องเป็นคนสง่างามอยู่แล้ว ทั้งคู่เหมือนจะมีความสง่าในแบบเดียวกัน ไม่มีใครข่มใคร

ตรงนี้เป็นจุดที่เห็นตำหนักต้วนกุ้ยเฟยได้ดีที่สุด ไซ่เยว่แค่ขยับตัวเอง โล่หวินหลานก็เดินไปแล้ว

“อยู่ที่ไหนก็เจอองค์หญิงเหอซื่อได้ ไม่ทราบองค์หญิงมีธุระอะไรหรือเปล่า?” เวินอ๋องเห็นโล่หวินหลาน ก็รู้สึกตกใจ

สำหรับเขาแล้ว ตอนนี้เขาอยากจะแต่งงานกับนางมาก ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แต่ว่าในใจของเขาบอกเขาแบบนี้

แต่ว่าเย่เซียวหลัวดึงตัวเขาเอาไว้ ไม่ยอมให้เวินอ๋องมองโล่หวินหลาน

“องค์หญิงเหอซื่อทำไมท่านถึงได้ทำตัวเป็นแมลงวันตามเราทั้งวันแบบนี้ล่ะ มีเวลามากขนาดนี้ ทำไมถึงไม่ไปนึกถึงเรื่องการแต่งงานของตัวเองล่ะ?” คำพูดของเย่เซียวหลัวเหมือนประชด สายตาของนางดูท้าทายโล่หวินหลาน

รู้ทั้งรู้ว่าคำพูดของเย่เซียวหลัวแฝงคำประชด แต่ว่าโล่หวินหลานก็ไม่ได้จะปล่อยเรื่องที่จะทำเพียงเพราะคำพูดของนาง

“การแต่งงานของข้ามันเกี่ยวอะไรกับพระชายาเวินอ๋องด้วยมิทราบ? ได้ยินมาว่าพระชายาเป็นคนนิสัยกล้าได้กล้าเสีย เหมาะสมกับเวินอ๋องราวกับกิ่งทองใบหยกเลย หากข้าเป็นอย่างพวกท่านได้ก็คงดีสินะ” โล่หวินหลานส่ายหน้า แล้วก้มหน้าลง เพราะสิ่งที่เห็นไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย

คำพูดของนางทำให้เย่เซียวหลัวรู้สึกได้ เพราะในชาตินี้เรื่องที่ทำให้นางมีความสุขมากที่สุดคือการได้แต่งงานกับเวินอ๋อง

ถึงแม้เวินอ๋องจะไม่ได้ดีกับนางเลย แต่ว่าสักวันก็คงดีขึ้น นางเชื่อแบบนั้น ขอแค่นางพยายาม เวินอ๋องจะต้องเข้าใจนางสักวัน

“องค์หญิงพูดแบบนี้ค่อยน่าฟังหน่อย ไม่ทราบว่าองค์หญิงมาเพราะอะไร?” เย่เซียวหลัวเอ่ยปากถาม

“ตอนที่อยู่ลานล่าสัตว์ข้านึกขึ้นมาได้ว่าข้าอยากจะได้อะไร เอาอย่างนี้นะ พรุ่งนี้พระชายานำดอกบัวจากภูเขาเทียนมาให้ข้า ก็ถือจบเรื่องกันไป” โล่หวินหลานมองไปที่เย่เซียวหลัว คำพูดของนางเหมือนเป็นคำสั่ง

ดอกบัวจากภูเขาเทียน? เย่เซียวหลัวขมวดคิ้ว ใช่ว่านางไม่มี แต่ว่าดอกบัวจากภูเขาเทียนมันเป็นของหายากหากไม่มีเหตุผลที่มากพอ จะเอาออกมาให้ได้ยังไง

“จะเอาดอกบัวจากภูเขาเทียนสำหรับข้ามันก็ไม่ยากหรอก แต่ว่าองค์หญิงจะเอามันไปทำอะไร? ในเมื่อองค์หญิงก็ไม่ได้ป่วย ร่างกายขององค์หญิงก็ไม่ได้อ่อนเพลีย หากไม่มีเหตุผลมากพอ ข้าคงไม่อาจรับปากได้”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก