ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 257

ตอนที่ 257 ผลการเดิมพัน

เย่เซียวหลัวแสดงออกชัดเจนว่าไม่อยากจะเอาดอกบัวจากภูเขาเทียนให้กับโล่หวินหลาน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ขอแค่นางยังอยู่ ก็จะต้องไม่ให้โล่หวินหลานได้ใจ

คิดอยู่แล้วว่าเย่เซียวหลัวต้องพูดแบบนี้ สีหน้าของโล่หวินหลานไม่แสดงสีหน้าอะไร เหมือนมองทะลุตัวนาง

“อย่างที่พระชายาพูดมาถูกแล้ว ร่างกายของข้าไม่ได้อ่อนแอ ไม่ได้ป่วย แต่ว่าข้าก็อยากจะได้ดอกบัวจากภูเขาเทียน พระชายาพูดแบบนี้มาได้ แสดงว่าท่านลืมเรื่องที่ลานล่าสัตว์ไปแล้วล่ะสิ เจ้าลืมไปแล้วหรอว่าเจ้าทูลอะไรกับฝ่าบาทไป?” โล่หวินหลานแสดงสีหน้าไม่พอใจเย่เซียวหลัวมาก น้ำเสียงค่อนข้างแข็ง

เย่เซียวหลัวสีหน้าเปลี่ยน นางลืมไปแล้วจริงๆว่าตอนนั้นนางพนันกันต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิง

หากโล่หวินหลานนำเรื่องนี้ไปบอกฮ่องเต้เจียเฉิง นางก็จะกลายเป็นคนผิดคำพูดทันที

เดิมเรื่องของหลัวอ๋องพวกเขาก็ไม่ได้เปรียบอะไรอยู่แล้ว หากเรื่องนี้นางไม่รับปาก เกรงว่านางจะไม่มีตัวตนอะไรต่อหน้าฮ่องเต้เจียเฉิงอีก

“องค์หญิงเหอซื่อ ดอกบัวจากภูเขาหิมะให้เจ้าก็ไม่ใช่ไม่ได้ แต่ว่าเจ้าก็ควรจะบอกเหตุผลกับข้าสิจริงไหม? ไม่งั้นของมีราคาอย่างนั้น ข้าจะมอบให้เจ้าเปล่าๆได้ยังไงกันล่ะ?” เย่เซียวหลัวรู้สึกลำบากใจ

นางแสดงท่าทีว่าถูกรังแก ทั้งที่จริงๆแล้วนางกำลังรังแกโล่หวินหลานอยู่ ตอนนี้กลับกลายเป็นโล่หวินหลานที่รังแกนาง

แต่ว่า เรื่องนี้ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ก็จะต้องเอาดอกบัวจากภูเขาหิมะมาจากเย่เซียวหลัวให้ได้

“หากพระชายาอยากได้เหตุผลจริงๆ ข้าบอกท่านก็ได้ เพราะเราเดิมพันกันไว้ หากพระชายาแพ้ รับปากว่าจะทำตามที่ข้าเรียกร้องหนึ่งอย่าง ดอกบัวจากภูเขาหิมะคือสิ่งที่ข้าต้องการ เท่านั้น” โล่หวินหลานพูด

เรื่องที่หมิงซีถูกพิษจริงๆมันก็ไม่ได้อะไร แต่หากนางต้องการดอกบัวจากภูเขาหิมะเพื่อทหารคนเดียว มันจะทำให้คนสงสัยได้

ถ้าเป็นเช่นนั้นเย่เซียวหลัวก็จะต้องสงสัย และพวกเขาก็จะไม่ปลอดภัย

พูดไปพูดมา โล่หวินหลานก็ยังไม่อยากบอกเหตุผล ถึงแม้จะถามอะไรต่อไปก็ไม่เป็นผล แต่ว่าเย่เซียวหลัวก็ไม่อยากจะให้โล่หวินหลานได้มันไปง่ายๆแบบนี้

นางอยากจะยื้อต่อไป แต่ก็ได้ยินเสียงพูดมาจากด้านหลังว่า “ดอกบัวจากภูเขาหิมะสำหรับเราแล้วไม่ใช่เรื่องใหญ่ อีกทั้งซิวหลัวก็แพ้ให้ท่านจริง เดิมพันแล้วยอมรับผลเป็นหลักที่ใครก็ร็กัน ไม่ทราบองค์หญิงต้องการมันเมื่อไหร่?”

เวินอ๋องพูดแทรกเย่เซียวหลัวขึ้นมา เขาดูมีมารยาทมาก

แต่ก่อนโล่หวินหลานไม่เคยเห็นเวินอ๋องเป็นแบบนี้มาก่อน ไม่คิดว่าเขาจะรับปากคำขอของนาง

ตามหลักแล้ว เขาน่าจะลอยตามน้ำไปกับเย่เซียวหลัวถึงจะถูก

“เจ้า ท่านอ๋อง ทำไมถึงให้ดอกบัวจากภูเขาหิมะง่ายๆแบบนี้ล่ะ? ท่านรู้หรือเปล่าว่าดอกบัวจากภูเขาหิมะมันมีราคามากแค่ไหน ......” เย่เซียวหลัวหน้าถอดสีไปทันที แล้วเข้าไปกระซิบพูดกับเขา

“ไม่ใช่เพราะเจ้าก่อเรื่องหรือไง หากเจ้าไม่ไปท้าประลองกับองค์หญิง จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นหรอ? ในเมื่อพูดไปแล้วว่าหากเดิมพันก็จะยอมรับผล ก็ใจกล้าหน่อยสิ” เวินอ๋องขมวดคิ้วแล้วพูดขัดเย่เซียวหลัว ตำหนินางเบาๆ

เสียงของเขาไม่ได้ดังมากแต่ก็ไม่ได้เบาจนเกินไปทำให้โล่หวินหลานได้ยินทั้งหมด ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรือไม่ได้ตั้งใจกันแน่

เย่เซียวหลัวเชื่อฟังเวินอ๋องมาก ครั้งนี้เองก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรอีก ทำได้แค่เบะปาก แล้วจ้องไปที่โลหวินหลาน

“ถ้าอย่างนั้น ขอบพระทัยท่านอ๋องล่วงหน้า หากท่านสะดวก พรุ่งนี้ท่านจะเอามันเข้าวังมาให้ข้าได้หรือไม่?” โล่หวินหลานไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่เพื่อหมิงซีแล้ว นางยอมเสี่ยง

ได้ดอกบัวจากภูเขาหิมะมาแล้ว อย่างอื่นค่อยว่ากันอีกที

เวินอ๋องเองก็ตอบรับโดยทันที “ไม่มีปัญหา พรุ่งนี้นะ”

แต่ว่าเย่เซียวหลัวกลับมีสีหน้าแย่มาก นางเหมือนเสียหน้า แต่ยังไม่เท่ากับที่ต้องเอาดอกบัวจากภูเขาหิมะให้ไปง่ายๆ แม้แต่เวินอ๋องยังยืนอยู่ข้างนาง นางรู้สึกไม่พอใจมาก

“ขอบพระทัย” โล่หวินหลานยิ้ม แล้วมองไปที่เวินอ๋อง

เวินอ๋องยิ้มรับ สายตาของเขามันเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้ม แต่ว่ายังดูเย็นชาอยู่

เมื่อออกมาจากตำหนักพระสนมกุ้ยเฟย โล่หวินหลานก็เดินไปทางสำนักหมอหลวง เมื่อเวินอ๋องรับปากแล้ว ดอกบัวจากภูเขาหิมะก็ไม่น่ามีปัญหา

ต่อให้เย่เซียวหลัวจะไม่เต็มใจ แต่ก็ไม่มีทางขัดใจเวินอ๋องแน่

ตอนนี้สิ่งที่นางกังวลที่สุดคือหมิงซียังป่วยอยู่ สีหน้าของเขาซีดขาวมาก ร่างกายอ่อนแอ ไม่เพียงต้องได้ยาสมุนไพรในตอนนี้ หลังจากนี้ก็ต้องบำรุงให้มาก

คนของสำนักหมอหลวงจะแน่สักแค่ไหน นางเองก็อยากจะรู้เหมือนกัน

“พระชายา ทางนี้ไม่ใช่ทางไปดงหัวเยี้ยน ท่านจะไปไหนหรอเพคะ?” ไซ่เยว่ไม่ได้รู้เรื่องในวังหลวงมากนัก แต่ก็เดาใจของโล่หวินหลานไม่ได้เลย

ใช่ทางนี้ไม่ใช่ทางไปดงหัวเยี้ยน แต่ว่าโล่หวินหลานต้องการมาที่นี่ไม่ผิด สำนักหมอหลวงคือที่ที่นางจะไป

“ใช่ เราจะไปสำนักหมอหลวงกัน”

“สำนักหมอหลวง? พระชายาท่านไปที่สำนักหมอหลวงทำไมเพคะ? หรือว่าท่านไม่สบาย?” ไซ่เยว่รู้สึกกังวล

“เปล่าหรอก ข้าแค่อยากได้สมุนไพรจากสำนักหมอหลวงนิดหน่อย” โล่หวินหลานฟังออกว่าไซ่เยว่กังวล เลยยิ้มแล้วปลอบนาง

ทั้งสองคุยกัน จนไปถึงสำนักหมอหลวง

ที่สำนักหมอหลวงมีนางกำนัลไม่น้อยที่มาเอายา ทุกคนยืนรอยอยู่หน้าประตูสำนักหมอหลวง พูดกันว่าเมื่อไหร่จะถึงคิวของตัวเองสักที

คิดว่าเพราะเป็นหน้าหนาวทำให้เหล่าพระสนมไม่สบายกันมากขึ้น ถึงมีนางกำนัลมากันมากขนาดนี้

“องค์หญิง ที่นี่คนเยอะมากเลย เรากลับไปก่อนดีไหม แล้วเราค่อยมาใหม่?” ไซ่เยว่ถามโล่หวินหลาน

ครั้งนี้นางมาเพื่อเอายาให้หมิงซี อาการของหมิงซีจะรอช้าต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ต้องใช้ยาคุมเอาไว้ นางถึงจะได้เบาใจ

“ไม่เป็นไร เรารอที่นี่แหละ” โล่หวินหลานเดินไปเข้าแถวตรงที่นางกำนัลยืนรออยู่

นางสวมชุดสีขาว ยืนอยู่ท่ามกลางนางกำนัล นางดูโดดเด่น ใบหน้างดงามกว่าใคร ไม่นานก็มีคนจำนางได้

นางกำนัลที่อยู่ด้านหน้าสะกิดคนอื่นๆ ทุกสายตาเริ่มหันกลับมามอง พวกนางเหมือนจะรู้สึกคุ้นหน้าโล่หวินหลาน

จากนั้นก็เริ่มมีคนถามขึ้นมาว่า “นี่มันองค์หญิงเหอซื่อที่พักอยู่ที่ดงหัวเยี้ยนนี่นา ทำไมถึงได้เสด็จมาเอายาที่สำนักหมอหลวงด้วยตัวเองแบบนี้ล่ะ? หรือว่าไม่มีนางกำนัลคนไหนฟังคำสั่งนางเลย?”

นางกำนัลอีกคนก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ข้าว่าไม่ใช่หรอก เจ้าดูสิข้างๆนางก็มีนางกำนัลอยู่ด้วยนี่นา? สำนักหมอหลวงไม่ใช่ใครก็จะมากันง่ายๆแบบนี้นะ หากไม่มีคำสั่งจากเบื้องบน หมอหลวงจะให้มาเอายาไปมั่วๆได้ยังไงกันล่ะ?”

พวกนางไม่ได้ไม่รู้จักโล่หวินหลานเลย พูดไปพูดมา ก็กระจายกันไปทั่วเลย

โล่หวินหลานยืนอยู่อย่างนั้น ปล่อยให้พวกนางพูดกันไป

แต่ว่าไซ่เยว่กลับทนไม่ได้ นางพูดด้วยความโกรธว่า “องค์หญิง ท่านดูปากของพวกคนชั้นต่ำพวกนี้สิ หากไม่สั่งสอนพวกนางให้รู้สำนึก พวกนางคงไม่ยอมหยุดแน่”

ไซ่เยว่เป็นคนของจวนหมิงอ๋อง ไม่มีใครเคยพูดแบบนี้ต่อหน้านางได้ แต่ว่าตอนนี้กลับมีคนไม่แยกแยะถูกผิดดีชั่วมาพูดประชดประชันแบบนี้ได้

อีกทั้งยังเชื่อมโยงไปถึงโล่หวินหลานด้วย นางทนไม่ได้เด็ดขาด

“ไซ่เยว่ ห้ามวู่ว่ามเด็ดขาด เรามาเอายาเท่านั้น ไม่ได้มาทะเลาะกับใคร” สายตาของโล่หวินหลานมองไปข้างหน้าอย่างเรียบเฉย

นางไม่ได้ลืมฐานะของนาง หากนางยังมีฐานะขององค์หญิงเหอซื่ออยู่ ยังไม่ได้แต่งงานไป นางก็คือส่วนหนึ่งของวังนี้

ไม่ว่าจะเวลาไหน นางจะผิดใจกับใครไม่ได้เด็ดขาด ฮ่องเต้เจียเฉิงจะได้ไม่อคติต่อนาง ในช่วงที่กำลังเลือกคู่ให้นาง จะให้กระทบต่อความคิดเขาไม่ได้

“เพคะ องค์หญิง” ไซ่เยว่พยักหน้า แต่ว่าสายตาก็จ้องไปยังนางกำนัลเหล่านั้น

เสียงนินทาของเหล่านางกำนัลดังขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับว่าเป้าหมายที่พวกนางต้องการมีปัญหาด้วยคือโล่หวินหลาน

“นางกำนัลตำหนักยู่ซีเข้ามาได้” เสียงขันทีข้างใจตะโกนออกมา นางกำนัลที่อยู่ด้านหน้าสุดกำลังจะเดินเข้าไป

นางกำนัลคนนั้นถอนหายใจเหือกใหญ่ ในที่สุดก็มาถึงนางสักที ขณะที่กำลังจะเดินเข้าไป ทันใดนั้นเอง เสื้อคอของนางก็ถูกดึงกลับมถอยหลังมา

“ใครดึงข้า?” นางกำนัลคนนั้นถอยหลังมาสองก้าว เมื่อหันกลับไปมอง เป็นวี่จือที่ยิ้มแล้วยืนอยู่หลังนาง

“วี่จือกูกูเองหรอ ข้าไม่ทันเห็น วี่จือกูกูเชิญ” นางกำนัลคนนั้นยอมให้วี่จือดินเข้าไปก่อน

“ถือว่าเจ้าฉลาด หากไม่ใช่เพราะฮ่องเฮาทรงประชวร ข้าคงไม่มาเอายาจากที่นี่ด้วยตัวเองหรอก พวกเจ้าก็เป็นคนฉลาด คงไม่ต้องให้ข้าพูดเยอะ” วี่จือยิ้มกว้าง เสียงของนางไม่ได้ไม่พอใจแต่ก็ทำให้หวาดกลัวได้

อยู่กับฮ่องเฮามานาน แม้แต่น้ำเสียงก็เหมือนกับฮ่องเฮาเย่เลย

วี่จือเป็นคนที่คุ้นหน้าของโล่หวินหลานอยู่แล้ว นางเป็นนางกำนัลคนสนิทของฮ่องเฮาเย่ เป็นคนวางแผนการต่างๆให้กับฮ่องเฮาเย่

สำหรับฮ่องเฮาเย่แล้ว วี่จือก็เสมือนแขนขาของนาง เวลาผ่านไปนาน นางยิ่งแยกจากนางไม่ได้เลย

“ถูกแล้ว พวกเรารู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร วี่จือกูกูเชิญ” นางกำนัลคนนั้นถอยให้

เมื่อเห็นวี่จือเดินเข้าไปแล้ว โล่หวินหลานก็นึกถึงคำพูดของนางเมื่อครู่ ฮ่องเฮาเย่ทรงประชวร?

“องค์หญิง ท่านเป็นอะไรไป?” ไซ่เยว่เห็นโล่หวินหลานสีหน้าเปลี่ยนไป เลยอดถามไม่ได้

“ไซ่เยว่ เมื่อกี้นางบอกว่าฮ่องเฮาเย่ทรงประชวร เจ้าลองไปสืบดูสิว่าพระองค์ทรงประชวรเป็นอะไร? แล้วมารายงานข้า” โล่หวินหลานแอบสั่ง ไซ่เยว่พยักหน้า แล้วก็รีบไป

วี่จือเดินออกมา ก็มีขันทีในสำนักหมอหลวงไม่น้อยที่เดินตามมาประจบนาง

นางเป็นคนสนิทของฮ่องเฮาเย่ ในวังหลวงแห่งนี้ จะทำให้ทุกคนปฏิบัติได้อย่างนางคงมีไม่มาก

หลังจากที่วี่จือออกมา คนที่ยืนรออยู่นานก็หลบให้ โล่หวินหลานเองก็เช่นกัน

นางกำนัลอีกสองคนที่อยู่ด้านหลังวี่จือต่างถือถุงผ้าสีเหลืองคนละถุง ตอนที่นางเดินผ่านหน้าโล่หวินหลาน สายตาของมองมาที่หน้าของนาง

“ที่แท้ก็องค์หญิงเหอซื่อของดงหัวเยี้ยนนี่เอง ทำไมพระองค์ถึงได้มาเข้าแถวอยู่ตรงนี้ล่ะเพคะ? หรือว่าไม่สะดวกที่จะเข้าไป?” น้ำเสียงของวี่จื่อเหมือนจะท้าทาย

“กูกูท่านนี้คือ? ทำไมข้าถึงไม่เคยพบมาก่อน ท่านเป็นคนของพระสนมคนไหนหรอ?” โล่หวินหลานแกล้งถาม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก