ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 258

ตอนที่ 258 ด้วยความจริงใจ

วี่จื่อเป็นคนโปรดของฮ่องเฮาเย่ ทุกคนรู้กันดี ต่อให้องค์หญิงเหอซื่อที่เพิ่งมาจากแคว้นโม่ฉีก็ไม่มีทางไม่รู้ อีกทั้งก็มาได้ระยะหนึ่งแล้วด้วย

คำพูดแบบนี้มันทำให้วี่จื่อไม่ค่อยสบายใจ ด้วยความโปรดปรานของฮ่องเฮาเย่ คนในวังที่เจอนางต่างต้องเรียกนางว่ากูกู แต่ว่าองค์หญิงเหอซื่อกลับถามนางว่านางเป็นใคร

ทำให้นางรู้สึกเสียหน้ามาก

“องค์หญิงเหอซื่อไม่จำเป็นต้องทราบว่าหม่อมฉันเป็นใครหรอกเพคะ แต่ว่าหากท่านไม่รู้ว่าฮ่องเฮาเป็นใครแล้ว คงไม่ดีแน่ มาในวังหลวงตั้งหลายวันแล้ว ท่านไม่รู้จักฮ่องเฮาเลยหรอเพคะ หรือว่าท่านคิดจะล่วงเกินเบื้องสูงกัน?” น้ำเสียงของวี่จื่อดุดัน

นางกำนัลคนอื่นถึงกับปาดเหงื่อแทนโล่หวินหลาน แต่ว่าก็มีหลายคนที่ยืนรอดูโล่หวินหลานเสียหน้า

ผิดใจกับใครไม่ว่า แต่ว่ากลับมีปัญหากับคนโปรดของฮ่องเฮา จุดจบแย่แน่

“วี่จื่อกูกู องค์หญิงของเราเพิ่งมาจากแคว้นเจิ้งโจว ไม่ค่อยรู้เรื่องในวังหลวงเท่าไหร่ แต่ว่าองค์หญิงก็ทรงเคยเข้าเฝ้าฮ่องเฮามาแล้ว คงไม่มีการล่วงเกินอะไรหรอกจริงไหม แต่หากว่าองค์หญิงของเรารู้จักท่าน แต่ไม่รู้จักองค์ฮ่องเฮา คนที่ล่วงเกินเบื้องสูงน่าจะเป็นท่านนะจริงไหม?” ไซ่เยว่คุ้มกันอยู่ด้านหน้าของนาง ราวกับแม่ไก่ฟักไข่

คิดว่าคนที่กล้าปะทะกับวี่จื่อในวังนี้คงมีไม่มาก อีกทั้งนานมากแล้วที่ไม่มีใครกล้า

วี่จื่อโกรธจนไม่รู้จะต้องรับมือยังไง

“เจ้า ปากดีนักนะ เจ้าชื่ออะไร? ข้าจะต้องทูลฮ่องเฮา แล้วลงโทษเจ้าคอยดู” วี่จื่อโกรธมาก

คนรอบๆเงียบลง ไม่กล้ามองแล้วก็ไม่กล้าพูด

โล่หวินหลานสีหน้าไม่เปลี่ยนยืนอยู่ที่เดิม นางแค่ยิ้ม แล้วเดินมาด้านหน้าของวี่จื่อ

“ที่แท้ก็วี่จื่อกูกูนี่เอง ข้าเสียมารยาทไป เหอซื่อเพิ่งจะเคยได้ยินชื่อของกูกู สายข่าวของข้าไม่ได้ดีมากนัก คิดไม่ถึงเลยว่าวี่จื่อกูกูจะเป็นคนยิ่งใหญ่แบบนี้ เหอซื่อต้องขออภัยวี่จื่อกูกูด้วยนะ” โล่หวินหลานยิ้ม แสดงท่าทีขอโทษจากใจ ทำให้วี่จื่อรู้สึกว่าตัวนางทำเกินไป

หากเรื่องนี้ได้ยินไปถึงหูของฮ่องเต้เจียเฉิง ฮ่องเฮาเย่จะเดือดร้อนมาก

จะยังไงนางก็เป็นแค่นางกำนัล ส่วนโล่หวินหลานจะยังไงก็เป็นองค์หญิง ฐานะสูงกว่านางมาก

แต่ตอนนี้ นางกลับทำให้องค์หญิงต้องมาขอโทษนาง หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ...... ฮ่องเฮาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?

ชีวิตของนางจะเป็นจะตายไม่สำคัญ แต่ยังไงก็ต้องรักษาหน้าของฮ่องเฮาไว้ เพราะนางก็รับใช้ฮ่องเฮาเย่มานานหลายปีแล้ว

“องค์หญิงทรงตรัวสแบบนี้ทำให้หม่อมฉันทรงไม่สบายใจเลยเพคะ ท่านมาเอายาใช่ไหมเพคะ? ถ้าอย่างนั้นเชิญเลยเพคะ เย็นมากแล้ว” ท่าทีของวี่จื่อเปลี่ยนไปภายในพริบตา นางรีบนำทางโล่หวินหลานไปเอายา

นางกำนัลที่อยู่หน้าสุดกำลังจะเข้าไปเอายา กว่าจะมาถึงนางเข้าแถวตั้งนาน แต่กลับเข้าไปไม่ได้อีก

“เจ้าหยุดเลย ไม่เห็นหรือไงว่าองค์หญิงเหอซื่อยืนเข้าแถวตรงนี้? รีบหลีกทางให้ข้าเดี๋ยวนี้ ให้องค์หญิงเข้าไปก่อน” วี่จื่อชี้ไปที่นางกำนัลที่อยู่หน้าสุด

นางกำนัลคนนั้นได้ยินแบบนั้นแล้ว ก็เลยถอยออกมา ไม่พูดอะไร

นายหญิงของนางไม่ใช่สนมที่โปรดปราน อีกทั้งยังไม่มีลูกด้วย ฮ่องเต้มาหนักเดือนหนึ่งก็ไม่กี่ครั้ง จะไปเทียบกับฮ่องเฮาได้ยังไง

นางกำนัลนั้นถอยออกมาอย่างน้อยใจ ทุกคนคิดว่าโล่หวินหลานจะเดินเข้าไป แต่ใครจะคิดว่านางกลับโบกมือ

“ข้าเป็นแค่องค์หญิงจากแคว้นเล็กๆ จะกล้าใช่ชื่อของวี่จื่อกูกูเข้าไปได้ยังไง? คนอื่นเองก็เข้าแถวกันมาตั้งนาน ให้พวกนางเข้าไปก่อนเถอะนะ” โล่หวินหลานเห็นนางกำนัลคนข้างหน้าแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว ก็เลยปฏิเสธวี่จื่อไป

อุตส่าห์คิดจะประจบโล่หวินหลาน แต่คิดไม่ถึงว่าจะถูกประชด นางพูดว่าใช้ “ชื่อเสียง” ของนาง

วี่จื่อทำอะไรไม่ถูกเลย เหมือนไม่ว่าจะพูดอะไรก็ผิดไปหมด

หากเพราะไม่คิดรักษาเกียรติของฮ่องเฮาเย่ นางคงไม่ทนถูกหยามเกียรติแบบนี้? คงฉีกหน้านางไปแล้ว

แต่ว่านางทำไม่ได้

“องค์หญิงทรงกล่าวเกินไปแล้ว หม่อมฉันเป็นแค่สาวใช้เท่านั้น” วี่จื่ออดกลั้นมาก นางโกรธมาก ไม่รู้จะไประบายตรงไหน แล้วหันไปบอกนางกำนัลว่า “องค์หญิงให้เจ้าเข้าไป ยังไม่เข้าไปอีก ยืนอยู่ตรงนั้นทำไมอีก?”

เมื่อวี่จื่อพูดจบ นางกำนัลคนนั้นก็เหมือนจะแทบกลิ้งเข้าไปในสำนักหมอหลวง

สิ่งที่โล่หวินหลานคิดไม่ถึงก็คือ แต่ก่อนที่เจอกับนางคิดว่านางเป็นแค่นางกำนัลคนสนิทของฮ่องเฮาเย่เท่านั้น คิดไม่ถึงเลยว่านางจะมีอำนาจมากขนาดนี้

ฮ่องเต้เจียเฉิงไม่มีทางรู้แน่นอน นางกำนัลพวกนี้ก็ถูกรังแกโดยไม่พูดอะไรสักคำ

โล่หวินหลานยังคงยิ้มอยู่ นางก็อยากจะรู้เหมือนกันวี่จื่อจะเก็บกวาดเรื่องนี้ยังไง เกียรติของฮ่องเฮาเย่ของต้องเสียไปเพราะนางแน่นอน

“หากองค์หญิงไม่มีเรื่องอะไรจะสั่งแล้ว หม่อมฉันขอทูลลาเพคะ” วี่จื่อคำนับแล้วพานางกำนัลอีกสองคนจากไป

นางกำนัลที่พูดจากันก่อนหน้านี้ต่างเงียบ ไม่กล้าพูดอะไรอีก แม้แต่คำนินทาก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ยินแล้วเหมือนกัน

ไซ่เยว่มองไปทางที่วี่จื่อเดินจากไป แล้วพูดอย่างไม่พอใจว่า “องค์หญิง นางบังอาจมากเลยนะเพคะ อาศัยว่าตัวเองเป็นคนของฮ่องเฮา รังแกคนอื่นแบบนี้ หากว่านางคิดไม่ได้ว่าต้องรักษาหน้าให้ฮ่องเฮา คิดว่าเรื่องวันนี้คงไม่จบแบบนี้แน่”

คิดไม่ถึงเลยว่าไซ่เยว่จะคิดแบบเดียวกับนาง เด็กคนนี้ไม่เลวเลย

เพียงแต่ว่า ......

โล่หวินหลานขมวดคิ้ว “นางรู้ว่าต้องรักษาหน้าของฮ่องเฮา น่าเสียดายสายไปแล้ว เรื่องนี้ไม่น่าจบแค่นี้ รอดูไปก่อนเถอะ”

เสียงลมในวังไม่เคยหยุด

ไซ่เยว่เหมือนจะเข้าใจแต่ก็เหมือนไม่เข้าใจนางมองไปที่โล่หวินหลาน

หลังจากที่ทั้งสองได้ยามาแล้วก็กลับ จากนั้นก็ตรงไปที่ห้องของหมิงซีเลย อาลั่วหลันอยู่ดูแลเขาไม่ห่างเลย แต่นางก็ไม่รู้สึกว่าลำบากเลย อีกทั้งยังดูมีความสุขมากด้วย

“เสี่ยวฮัว เจ้ากลับมาแล้วหรอ” อาลั่วหลันเห็นประตูเปิดออก โล่หวินหลานเดินเข้ามา ก็รีบเดินไปหานางทันที

ใครจะคิดว่า ไซ่เยว่จะเดินมาขวางหน้าอาลั่วหลัน

“นี่องค์หญิงเหอซื่อ เจ้ากล้าเรียกพระองค์ว่าเสี่ยวฮัวได้ยังไง?” ไซ่เยว่สีหน้าไม่เกรงใจเลย

อาลั่วหลันกลัวไซ่เยว่ที่ไหน นางกล้าบ้าบิ่นอยู่แล้ว อีกทั้ง องค์หญิงเหอซื่อก็คือนาง ตอนนี้นางโกรธมาก แล้วก็ดึงคอเสื้อของไซ่เยว่

“ข้าอยากจะเรียกว่าอะไรก็เรื่องของข้า เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย? เจ้ารีบออกไปซะ ที่นี่ไม่ต้อนรับเจ้า” อาลั่วหลันขมวดคิ้ว นางโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลย

“ไซ่เยว่ หยุดนะ ห้ามทำอะไรนาง” โล่หวินหลานเห็นดังนั้น ก็รีบตะโกน

เดิมนางก็สวมรอยฐานะของคนอื่นอยู่แล้ว จะให้สาวใช้ของตัวเองเสียมารยาทกับนางได้ยังไงกัน

ไซ่เยว่หันกลับมามอง เห็นสีหน้าของโล่หวินหลานไม่ดี ก็รีบถอยออกมา

“องค์หญิง ......” ไซ่เยว่ไม่เข้าใจ

“เจ้าออกไปก่อน ข้ามีเรื่องจะพูดกับนาง” โล่หวินหลานชี้ไปที่ประตู สั่งให้ไซ่เยว่ออกไป

ไม่เสียแรงที่เป็นคนที่มาจากจวนหมิงอ๋อง ทำอะไรเด็ดขาดรวดเร็ว แต่ว่าจะทำร้ายคนอื่นโดยไม่ถามอะไรก่อนมันก็เหมือนโม่ฉีหมิงไปหน่อยไหม

โล่หวินหลานรู้สึกหลอนตัวเองมาก ไม่ว่านางจะไปที่ไหนทำอะไรก็มีแต่หน้าของโม่ฉีหมิงลอยมา

“อาลั่วหลันเจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?” โล่หวินหลานรีบเข้าไปพยุงอาลั่วหลัน

ไซ่เยว่เป็นคนฝึกวรยุทธ์ แรงของนางมีมากกว่าอาลั่วหลัน เมื่อกี้นางเกือบลงมือกับอาลั่วหลันไปแล้ว

“ข้าไม่เป็นไร ตอนนี้เจ้ามีข่าวดีอะไรใช่ไหม?” ถึงแม้หน้าของอาลั่วหลันจะไม่สู้ดีนัก แต่ว่าเพราะมาจากแคว้นเซิ่งโจว จะมาใช้อารมณ์เหมือนตอนที่นางเป็นองค์หญิงไม่ได้

อีกทั้งสำหรับโล่หวินหลานแล้ว นางไม่เพียงเป็นเพื่อน แต่ยังเป็นคนที่ช่วยชีวิตนางไว้ด้วย หากไม่ได้โล่หวินหลานคนที่ต้องแต่งงานไปก็คือนาง

“มีสิ นี่เป็นยาของหมิงซี ข้าได้จัดเอาไว้ให้แล้ว ให้เขากินวันละสามครั้ง พรุ่งนี้ข้าจะรีบเอาดอกบัวจากภูเขาเทียนมารักษาเขา” โล่หวินหลานยื่นยาไปให้อาลั่วหลัน มีอาลั่วหลันอยู่ นางวางใจมาก

เมื่อรับห่อยามา อาลั่วหลันเหมือนยกภูเขาออกจากอก ความไม่สบายใจหลายวันผ่อนคลายลงแล้ว

“ขอบใจนะ” อาลั่วหลันพูด

“ข้าต้องขอบใจเจ้ามากกว่า หลายวันมานี่เจ้าดูแลหมิงซีตลอด นอกจากเจ้าแล้ว ข้าไม่เชื่อใจใครอีก” โล่หวินหลานตบไหล่นาง สายตามองไปที่นาง ใบหน้าของนางยังคล้ำอยู่ แสดงว่านางไม่ได้กินยาถอนพิษที่หมิงซีให้

เพื่อหมิงซี เพื่ออยู่ในวังนี้ นางสามารถแลกได้กับทุกอย่าง

“ข้าเต็มใจ จะมาขอบใจทำไมกัน เจ้าล่ะ ฮ่องเต้ยังไม่ทรงจัดการเรื่องการแต่งงานให้ เขาลืมเรื่องนี้ไปหรือเปล่า?” อาลั่วหลันถามเรื่องนี้อย่างระวัง เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน

โล่หวินหลานส่ายหัว “ไม่หรอก เรื่องแต่งงานเป็นเรื่องสำคัญจะลืมได้ยังไง? อีกอย่างแม่ทัพจื๋อเอ่อก็ยังอยู่ในแคว้นโม่ฉี ยังไงวันหนึ่งเขาก็ต้องกลับไปรายงานผล”

แต่ว่าโล่หวินหลานก็ยังจับจุดไม่ถูกอยู่ดี องค์ชายของแคว้นโม่ฉีดูดีทั้งนั้น แต่ว่าเจ้าวางแผน ไม่มีทางดีต่อองค์หญิงแน่

“แต่ว่าข้ายังเป็นห่วงอยู่ดี เสี่ยวฮัว เจ้ามีคนในใจแล้วหรือยัง?” อาลั่วหลันมองนางอย่างตื่นเต้น

เรื่องคนที่ถูกใจโล่หวินหลานเองก็ไม่ได้คิดจะปิดบังอาลั่วหลัน นางไม่ลังเลที่จะพยักหน้า “มี”

“ใครกัน?”

“องค์ชายสี่โม่ฉีหมิง” โล่หวินหลานพูด

อาลั่วหลันขมวดคิ้ว องค์ชายสี่โม่ฉีหมิงนางเคยพบมาก่อน เขาเป็นผู้ชายเย็นชาเหมือนในใจของเขาจะมีเรื่องมากมาย เวลาเข้าเฝ้าฮ่องเต้เจียเฉิงก็ไม่เคยยิ้ม อยู่กับเขา จะมีความสุขได้หรอ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก