ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก นิยาย บท 263

ตอนที่ 263 ปรุงยาถอนพิษ

ใช้สากตำดอกบัวจากภูเขาเทียนจนแหลกเป็นน้ำ ดอกบัวจากภูเขาเทียนนั้นเป็นเพียงตัวยา แค่ใช้มันผสมกับยาตัวอื่นก็ใช้ได้แล้ว

แต่ว่าการผสมนั้นจะผสมแบบสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้ ต้องแกะรากมันออกมา แล้วเลือกตรงส่วนที่อ่อนที่สุด คั้นน้ำของมันออกมา นี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด

หลังจากที่ได้น้ำมันแล้วนั้น จึงเอายามาผสมกับน้ำของดอกบัวจากภูเขาเทียน เปิดไฟเบาๆ จนตุ๋นเป็นเวลาสามยาม จนน้ำของดอกบัวจากภูเขาเทียนซึมสู่ตัวยาอื่นๆ ก็ใช้ได้แล้ว

ที่สำคัญที่สุดคือวิธีการตุ๋นยา ในเวลาสามยามนั้น ไม่เพียงแต่ต้องเฝ้าไฟให้ได้ที่ และต้องมั่นใจว่าน้ำของดอกบัวจากภูเขาเทียนซึมเข้าตัวยาแล้ว

โล่หวินหลานตุ๋นยาเก่งมาก ใช้เวลาไม่นานก็ได้ยาที่มีฤทธิ์ล้ำเลิศออกมา

ตอนอยู่ในหุบเขา นางได้เรียนรู้การปรุงดอกบัวจากภูเขาเทียนหลายวิธี จนมาวันนี้ ได้ลองนำออกมาใช้

ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกที่ทำอย่างจริงจัง แต่โล่หวินหลานนั้นทำได้ดีมาก

“องค์หญิง ยานั้นเรียบร้อยแล้วหรือคะ?” ไซ่เยว่ปิดประตูลงเบาๆ พลางมองยาที่อยู่ในขวด

“เรียบร้อยแล้ว ตุ๋นแค่สามยามเท่านั้น ให้น้ำของดอกบัวจากภูเขาเทียนซึมเข้าตัวยา แต่ในช่วงสามยามนี้ ห้ามให้ไฟเบาลง ห้ามให้ไฟมอด ต้องเฝ้ามันอยู่ตลอด ไซ่เยว่ นางหาคนที่เชื่อถือได้มาเฝ้าไฟหน่อยฎ โล่หวินหลานนึกถึงคนของโม่ฉีหมิง คงต้องหาคนที่น่าเชื่อถือมาได้แน่ๆ

และนางที่อยู่ในวัง ตัวเองต้องการการปกป้องจากจื๋อเอ่อและหมิงซี แล้วจะหาใครที่เหมาะสมได้

โชคดีที่โม่ฉีหมิงช่วยนางเอาไว้ เปลี่ยนนางในวังข้างกายองค์ชาย มิเช่นนั้น ยานี้ นางคงไม่กล้าให้ผู้อื่นมาเฝ้าแทน

“องค์หญิง เดี๋ยวข้าเฝ้าไฟเองดีกว่า ข้าเคยมีความรู้เรื่องยา รู้วิธีการทำดอกบัวจากภูเขาหิมะมาบ้าง ถ้าหากข้าเฝ้าเอง น่าจะดีกว่า” ไซ่เยว่เสนอตัวอย่างห้าวหาญ

นอกจากไซ่เยว่แล้ว เหมือนจะไม่มีตัวเลือกที่ดีกว่านี้ อาลั่วหลันกำลังดูแลหมิงซีอยู่ ให้จื๋อเอ๋อที่เป็นท่านทัพมานั่งเฝ้าไฟ ก็จะดูเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน

มีแต่ไซ่เยว่ที่นางไว้ใจ จัดการธุระเรียบร้อย เชื่อว่านางจะทำมันออกมาได้ดี

“ได้สิ เจ้าคอยดูอยู่ตรงนี้ หลังจากสามยามข้าจะกลับมา” โล่หวินหลานพูดจบ ก็เดินออกไป

รูปร่างสะโอดสะองของนางเปิดประตู แล้วเดินจากไป ลมด้านนอกพัดเข้ามาเบาๆ ไซ่เยว่จึงละสายตามาดูยาที่กำลังตุ่นอยู่ แล้วเปิดขึ้นมาดม ตั้งใจจดจ้องยาที่อยู่ในหม้อ

นางเคยเรียนรู้การแพทย์กับโม่ฉีหมิงมาบ้าง แต่ก็รู้แค่เพียงนิดเดียว ยาพวกนี้นางรู้จักหมดว่าชื่ออะไร แต่ยาที่เอามาตุ๋นด้วยพวกนี้ นางไม่รู้จักเลย

ลมหิมะด้านนอกยังคงพัดเบาๆ ในห้องนอนของหรงฝินได้จุดเทียนและไฟเอาไว้นานแล้ว ถึงแม้ว่านางจะไม่ได้รับความรัก แต่ฮ่องเต้เจียเฉิงไม่แบ่งชนชั้นในเรื่องความเป็นอยู่ของนาง

ตามอันดับของนางสนมนั้น ให้สิ่งที่นางควรได้รับ และนางในวัง ไม่มีใครกล้ามารังแกนาง หรือเป็นเพราะฮ่องเต้ยังคงมีความเอ็นดูนางอยู่

“ท่านน้อย วันนี้ท่านดูองอาจมาก พูดเพียงไม่กี่คำก็ทำให้นางรับใช้ของฮองเฮาถูกเนรเทศออกจากวังไป” จินเอ๋อคุกเข่าอยู่ที่พื้น แล้วนวดให้หรงฝินเบาๆ

หรงฝินดีใจมาก หน้านางบานราวกับดอกไม้ “หลายปีมานี้ไม่ได้ปะทะกับฮองเฮา นางยังคงโง่เขลาดังเดิม ผู้หญิงคนนั้น ใจของนางนั้นโหดเหี้ยม

ไม่รู้ว่านานแค่ไหนแล้วที่นางไม่ได้ปะทะฝีปากกับฮองเฮา ตั้งแต่เรื่องนั้นเกิดขึ้น พวกนางก็กลายเป็นคู่อริไปโดยปริยาย ไม่สามารถเป็นเพื่อนกันได้อีก

เพียงแค่คิดขึ้นมา ในใจของนางก็เจ็บราวกับถูกเข็มทิ่มแทง

“ฮองเฮานั้นฉลาดน้อยกว่าท่านท่านน้อยอยู่แล้ว ท่านน้อยของพวกข้าเหนือกว่าอยู่แล้ว” จินเอ๋อพูดถึงตรงนี้ ก็รีบหุบปากลง

นางรู้ว่าตัวเองหลุดพูดไม่ดีออกไป นางจึงเลื่อนมือมาปิดปากตัวเอง แล้วแอบเงยหน้ามองปฏิกิริยาของหรงฝิน แล้วก็ก้มลง

หลีย่าว… หลีย่าว…

สี่คำนี้นั้นลบไม่ออกไปจากหัว ราวกับมันประทับลงในใจของหรงฝิน

ราวกับไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว และไม่มีใครกล้าพูดถึง ตอนนั้นคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ถูกฆ่าตายหมด

“เรื่องก็ผ่านไปนานแล้ว ไม่คิดว่าเจ้าจะจำได้” หรงฝินหัวเราะเบาๆ แล้วมือทั้งสองข้างก็ลูบท้อง

ราวกับความทรงจำนั้นกลับมาอีกครั้ง

จินเอ๋อติดตามหรงฝินมานาน ผ่านเรื่องราวด้วยกันมามากมาย ถือว่าเป็นคนเก่าคนแก่ในวัง ทำไมจะจำเหตุการณ์ที่น่าสะเทือนใจนั้นไม่ได้

“ข้าน้อยลืมไม่ลง และไม่กล้าลืม ก็คือบนการแข่งขันนั้น เกิดเรื่องราวที่กลับกันตาลปัตร และท่านน้อยก็เสียลูกไปเพราะเรื่องนี้” จินเอ๋อน้ำเสียงสั่นเครือ เมื่อตอนนางพูดเรื่องนี้ ไม่กล้าที่จะมองหน้าหรงฝินด้วยซ้ำ

“ใช่ คนนั้นทำให้ลูกข้าตาย หลายปีมาแล้ว ถ้าหากได้มีโอกาสโตมา คงจะอายุราวๆอ๋องหลัว อาจจะได้เป็นองค์ชาย ได้มีที่อยู่ในวัง เป็นเพราะนางทั้งหมด นางที่วางยาพิษฆ่าลูกในท้องข้าตาย” หรงฝินกำชายเสื้อตัวเองแน่น รอบๆดวงตานั้นแดงก่ำจนน่าตกใจ

ทุกค่ำคืนที่พูดถึงเรื่องนี้ นางก็จะรังเกียจและโทษตัวเองอยู่เสมอ ว่าเป็นความผิดของตัวเอง และตวามเลวร้ายของฮองเฮาเย่

“ท่านน้อย เรื่องมันจบไปแล้ว ท่านคิดมากก็ไม่ช่วยอะไร ตอนนั้นที่ฮ่องเต้ไม่ได้สืบสวนต่อ แต่นั้นก็เป็นเพราะเขาไม่ได้สนใจฮองเฮามานานแล้ว หลายปีแล้วที่ไม่ได้เหยียบเข้าไปในวังของนาง ถือว่าเป็นการให้บทเรียนแก่ฮองเฮา” จินเอ๋อพูดปลอบ

ใครจะรู้ หรงฝินยิ้มเย็นเยือก มองสายตาที่ทอประกายของจินเอ๋อ

“แค่บนทเรียนเดียวจะพอได้ยังไง? บทเรียนเดียวนั้นสำคัญกว่าชีวิตของเด็กคนหนึ่งที่ยังไม่ลืมตาดูโลก ชีวิตของนางสนมคนหนึ่ง และองค์ชายที่พิการอย่างงั้นหรือ? ถ้าหากใช้บทเรียนกับผู้ที่ทำผิดทุกคน โลกนี้ก็คงจะไม่สงบสุข” หรงฝินแค่คิดถึงเรื่องราวในปีนั้น ในใจก็เหมือนมีไฟลุกขึ้นมา พุ่งพล่านไปด้วยความโกรธ

จินเอ๋อไม่ยอมให้นางคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา เพราะมันควบคุมไม่ได้

“ท่านน้อย ฮ่องเต้ ยังมีฮ่องเต้ ฮ่องเต้ไม่เคยมองว่าพวกข้าผิด” จื๋อเอ่อเสนอชื่อฮ่องเต้ขึ้นมา ตอนนั้นผู้เกี่ยวข้องมีเยอะมาก นางก็แค่พูดถึงความทรงจำเท่านั้นเอง

ฮ่องเต้เจียเฉิง?จินเอ๋อไม่พูดอาจจะดีกว่า พอพูดนางก็รู้สึกโมโห เรื่องความขัดแย้งในตอนนั้น หลักฐานชี้ไปทางฮองเฮาเย่ทั้งหมด แต่เขากลับไปสนใจ แล้วปล่อยฮองเฮาไป

ละเลยแบบนี้ ฮ่องเต้เจียเฉิงยังทำน้อยไปเหรอ?

หรงฝินยิ้มอย่างเยือกเย็น “ตอนนั้นเรื่องเกิดขึ้นใหญ่มาก ใหญ่จนสะเทือนจิตใจ แต่ว่า สุดท้ายแล้ว ฮองเฮาก็มีเสน่ห์เอาฮ่องเต้อยู่หมัด ให้เขาจบเรื่องนั้นไป แต่ว่าฮ่องเต้ ทำไมถึงมาอยู่ฝ่ายพวกข้า?

เรื่องในตอนนั้นหรงฝินจำมันได้ดี นอกจากฮ่องเต้เจียเฉิงแล้ว ทุกคนรู้หมดว่าความจริงคืออะไร มีเพียงแต่เขาที่ไม่เห็นด้วย

หลีย่าวไม่เพียงแต่เป็นเทศกาลของแคว้นโม่ฉีเท่านั้น เมื่อวันนั้นมาถึง ก็จะจัดงานคึกคักทั่วทั้งแผ่นดิน

และในงานเลี้ยงรื่นเริงนั้น ก็จะมีการแข่งตอบปัญหาโหราศาสตร์ สุภาษิต และโต้วาทีต่างๆ ใครสามารถตอบได้มากที่สุดก็จะเป็นฝ่ายชนะ

และในวัง ก็จัดงานเลี้ยงแบบนี้เช่นกัน

ตอนนั้นผู้ที่เข้าร่วมการประลองนี้เป็นบรรดาหญิงท้ายวัง สนมต่างๆ และหรงฝินที่กำลังตั้งครรภ์ เฉินเฟยที่มีลูกเล็ก และฮองเฮาเย่ที่มีลูกชายร่างกายอ่อนแอ

ทุกคนมาร่วมหลีย่าวครั้งนี้ทั้งหมด ในขณะที่ทุกคนกำลังเพลิดเพลินกับการตอบปัญหานั้น ฮองเฮาเย่ได้แอบแยกเฉินเฟยออกมา สั่งให้คนพานางไปอีกที่หนึ่ง

ใครจะรู้ว่า สิ่งที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น เฉินเฟยถูกไปคอกตาย และโม่ฉีหมิงถูกคนทำร้ายจนกระดูกเท้าหัก ใบหน้าถูกเผาเสียจนไม่เหลือชิ้นดี

และหรงฝิน ตอนนั้นนางค่อนข้างสนิทกับเฉินเฟย เห็นว่าเฉินเฟยถูกคนพาไปที่อื่น จึงแอบตามไปดู

นางพบว่าฮองเฮาเย่ตั้งใจจะเผาโม่ฉีหมิงและเฉินเฟยให้ตายไปพร้อมกัน

นางรีบเข้าไปห้ามไว้ สุดท้ายถูกฮองเฮาเย่ผลักออก นางล้มลงบนบันได แล้วกลิ้งตกลงมา

ทั้งสองมือของนางกำที่ชายเสื้อแน่น นางไม่เคยสูญเสียการควบคุมชนาดนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นในตอนนั้น ทำให้นางแข็งแกร่งขึ้นในวันนี้ ไม่มีใครสามารถมารุกรานนางได้

แต่ว่า เมื่อนึกขึ้นมา ว่ามีคนบาดเจ็บและล้มตาย นางจึงดูแลร่างกายตัวเองให้แข็งแรง และไปถามฮ่องเต้เจียเฉิงว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร

รอจนนางเข้าไปถาม ฮ่องเต้ก็ได้จัดการทุกเรื่องเรียบร้อยแล้ว ไม่พูดถึงลูกในท้องนางสักคำ

ถึงแม้ว่าเรื่องราวจะผ่านมาหลายปีแล้ว แต่ทุกครั้งที่หรงฝินนึกถึงก็รู้สึกเศร้าใจ ฮ่องเต้เจียเฉิงเลือดเย็นได้ขนาดนี้ ฮองเฮาเย่ก็โหดร้ายได้เพียงนี้ พวกเขาสองคนอยู่ด้วยกัน ช่างเป็นคู่ที่เหมาะกันจริงๆ

“ท่านน้อย อย่ากังวลไปเลย ตอนนี้เป็นจังหวะที่ท่านควรจะกำจัดฮองเฮาเย่ ท่านคิดดูว่าตอนนี้องค์หญิงเหอซื่อก็ต้องการจะกำจัดฮองเฮาเย่ ถ้าหากพวกข้าร่วมมือกับนาง ก็จะรู้ความเลวร้ายของฮองเฮาเย่” จินเอ่อกระซิบที่ข้างหูหรงฝิน

หรงฝินขมวดคิ้ว ไม่อยากจะเชื่อ จึงพูดขึ้นด้วยความสงสัย “องค์หญิงเหอซื่อกำลังต่อต้านฮองเฮา? นางเพิ่งมาจากเซิ่งโจว อยู่ในวังแค่ไม่นาน ก็ต่อต้านฮองเฮาเสียแล้ว และไม่ร่วมมือกับพวกข้าด้วย!”

องค์หญิงเหอซื่อก็ยังคงเป็นองค์หญิง ไม่ว่านางต้องการกำจัดฮองเฮาด้วยเหตุผลใดก็ตาม ก็ไม่น่าใช่เรื่องดี

“ท่านน้อย เรื่องนี้ควรวางแผนระยะยาว นี่เป็นโอกาสเดียวที่เราจะจัดการฮองเฮา” จินเอ๋อไม่อยากให้หรงฝินพลาดโอกาสนี้ไป จึงพยายามไปซื้อตัวโล่หวินหลาน

หรงฝินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง คิดแผนการอยู่ในหัวมากมาย มีทั้งดีและไม่ดี แล้วนางก็ส่ายหัว

“จินเอ๋อ นางก็รู้ว่าเซิ่งโจวกับโม่ฉีนั้นอยู่ฝั่งเดียวกัน ครั้งนี้ให้องค์หญิงเหอซื่อได้มาอภิเษกนั้น ก็เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของทั้งสองแคว้น แต่ว่าองค์หญิงเหอซื่อกลับช่วยพวกข้าจัดการฮองเฮาอย่างไม่มีเหตุผล ต้องมีเจตนาแฝง ช่วงนี้พวกข้า ต้องคอยระวังเป้าหมายขององค์หญิงเหอซื่อ” หรงฝินตั้งใจแน่วแน่ หลายปีมานี้ นางได้เข้าใจกฎของการถอยออกมาตั้งหลักแล้ว

จินเอ๋อไม่เคยสงสัยในคำพูดของนาง มีแต่ทำตาม แต่เมื่อเห็นหรงฝินกล่าวเช่นนี้ นางก็ได้แต่พยักหน้า

“จินเอ๋อ เจ้าส่งคนไปติดตามชีวิตของฮองเฮาทุกฝีก้าว ถ้าหากนางมีความเคลื่อนไหวอย่างไร ให้รีบมารายงาน” หรงฝินหรี้ตา จิกเล็บแน่น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก