ตอนที่ 264 คลายพิษแล้ว
ไซ่เยว่นั่งจ้องมองไฟชองขวดยานั้น ไม่ขยับไม่แม้แต่น้อย สายตาเอาแต่จับจ้องไปที่ขวด
ตอนที่โล่หวินหลานมา เป็นเวลาสามยามพอดี ตอนนี้ในห้องครัวหอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นของยา กลบกลิ่นเนื้อในห้องเสียหมด ทำให้มันถ่ายเทได้ดีกว่าเดิม
“ไซ่เยว่ เฝ้าไฟเป็นอย่างไรบ้าง?”โล่หวินหลานเดินเข้ามาแล้วถามชึ้น
ไซเยว่พยักหน้า “องค์หญิงวางใจได้ ข้าจ้องอยู่ตลอด ไม่กล้าแม้แต่จะกระพริบตา ไม่มีปัญหาแน่นอน”
“งั้นก็ดี ตอนนี้เปิดดูเสียหน่อย” โล่หวินหลานห้ามไซเยว่ที่กำลังจะเดินไปเปิดฝาครอบ ทั้งๆที่เอื้อมไปหยิบผ้าขี้ริ้วมาไว้ในมือแล้ว แต่ก็ต้องหยุดอย่างรวดเร็ว
แล้วกลิ่นหอมเข้มข้นก็โชยออกมา เข้มกว่าเมื่อกี้ตอนเดินเข้ามาเสียอีก
โล่หวินหลานรู้ ว่านี่คือกลิ่นของดอกบัวจากภูเขาเทียน ต้องตุ๋นเวลานานมันจึงจะมีกลิ่นหอมเช่นนี้ เป็นยาชั้นเลิศเลยทีเดียว
“องค์หญิง กลิ่นหอมมากค่ะ ไม่เหมือนเป็นกลิ่นยาเลย” ไซ่เยว่ดม แต่นางตั้งใจดมมาก แต่กลับดมได้เพียงกลิ่นอ่อนๆ
นางไม่มีทางได้กลิ่น
หลายครั้งที่การดมกลิ่นยานั้นเป็นเทคนิคพิเศษ ถ้าหากไม่ใช่ผู้ที่เชี่ยวชาญเกี่ยวกับยา คงจะดมไม่ออก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงยาที่มีมูลค่าเช่นนี้
โล่หวินหลานยิ้มบางๆ แล้วยื่นมือไปหยิบตะเกียบขึ้นมา ค่อยๆคีบยาจากดอกบัวจากภูเขาเทียนที่หอมอบอวลอยู่นั้นขึ้นมา
ไม่เพียงแค่ความชื้นชองตัวยา ยังมีสี ความนุ่ม และกลิ่นหอมนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับยา การตุ๋นยานั้นต่างกันมาก บางครั้งไม่สามารถอาศัยเวลาและรูปลักษณ์ภายนอกมาตัดสินว่ามันดีหรือไม่ดีได้
“องค์หญิง ยานี้ไม่ดีหรือ?” ไซเยว่ถามอย่างตื่นเต้น
ถึงแม้ว่านางจะเคยเรียนการแพทย์มาก่อน แต่ฝีมือยังคงไม่ดีนัก และนางก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโล่หวินหลานกำลังทำอะไร
“ข้าแค่ดูว่ายานี้มันเป็นยังไงบ้าง ตุ๋นได้ดีมาก” โล่หวินหลานพยักหน้า แล้วชมออกมาจากใจ
ไซ่เยว่รู้สึกเขินๆ ที่ได้รับคำชมจากองค์หญิง นางก็ไม่ได้ทำอะไรกับยานี้เลย แค่เป็นคนเฝ้าไฟเท่านั้นเอง
แต่ท่าทางสนใจของโล่หวินหลานนั้น ไม่รู้ว่านางตุ๋นยานี้ให้ใคร
ไซ่เยว่คิด พลางถามขึ้นมาอย่างกล้าหาญ “องค์หญิง ยานี้ดูแล้วช่างล้ำค่า มีใครเจ็บหนักแล้วต้องการยานี้หรือ?”
นางโพล่งถามออกไป ในคำถามที่นางสงสัยมานาน
แต่ว่า ที่นางไม่คาดคิดคือ โล่หวินหลานตอบออกมาอย่างง่ายดาย
“เป็นเพื่อนของข้าคนหนึ่ง มากับข้า แต่ว่าเมื่อก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ถูกพิษเข้า นี่เป็นยาถอนพิษที่ข้าทำให้เขา” โล่หวินหลานตอบอย่างไม่ปิดบัง แต่ไม่ได้พูดว่าผู้ที่รักษานั้นคือใคร
มองดูโล่หวินหลานที่ให้ความสำคัญกับยาพวกนี้มาก และทำให้รู้ว่าคนที่นางช่วยนั้นต้องสำคัญกับนางมากแน่ๆ
“เพื่อนขององค์หญิงโชคดีจริงๆ มีองค์หญิงคอยตุ๋นยารักษาอยู่ข้างๆ ยังมีพิษใดที่ถอนไม่ได้อีก?” ไซ่เยว่หัวเราะ ใบหน้าเผยอารมณ์ยินดี
“ใช่ สำคัญมาก” โล่หวินหลานหยิบกล่องหนึ่งมา แล้วใส่ยาเข้าไป “ข้าจะเอายาไปให้เขา นางคอยดูอยู่ที่นี่ อย่าให้ใครสังเกตได้”
ลมพัดเบาๆข้างนอก ลมหิมะไม่ได้ลดลงเลย ยังดีว่าที่พักของหมิงซีกับของนางไม่ห่างกันมากนัก เดินเพียงแค่แปบเดียวเท่านั้น
เมื่อเดินเข้าไป อาลั่วหลันเดินออกมาจากบ้านพอดี จึงมาเจอกับโล่หวินหลานที่หน้าประตู เอรีบยิ้มต้อนรับ “เสี่ยวฮัว นางมาแล้วเหรอ ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง?”
โล่หวินหลานยกกล่องยาขึ้นมา “ยาถอนพิษปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว ช่วงนี้หมิงซีเป็นอย่างไรบ้าง? ตื่นนานไหม?”
สีหน้าของอาลั่วหลันซีดลง แล้วส่ายหัว อาการของหมิงซีช่วงนี้ไม่ค่อยดี
“ช่วงนี้เวลาที่เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมายิ่งสั้นลง พูดได้ไม่กี่คำก็หลับต่อ ทั้งที่เขาถูกพิษมาหลายวันแล้ว ข้าก็คอยดูไม่ให้ใครเข้าใกล้เขา ทำไมอาการมันถึงยิ่งทรุดลง?” อาลั่วหลันไม่เข้าใจ ทุกครั้งที่นางอยากจะเรียกหมอหลวงมารักษา พอเดินมาถึงหน้าประตู ก็ได้แต่ครุ่นคิด
ถูกพิษไม่ถอน แถมไม่ใช้ยายับยั้ง ยังไงอาการก็มีแต่ทรุดลง แต่ยังดีที่หมิงซีร่างกายแข็งแรงกว่าคนทั่วๆไป
“อาลั่วหลัน เจ้าไม่ต้องกังวลไป มีข้าแล้วนี่ไง? ข้าเอายาถอนพิษมาแล้ว หมิงซีจะหายแล้ว” โล่หวินหลานยื่นมือไปตบไหล่ มือเรียวๆนั้นเมื่อมาอยู่บนไหล่นางยิ่งดูขาวเป็นประกาย
“ค่ะ งั้นพวกข้ารีบเข้าไปกันเถอะ” อาลั่วหลันรีบตอบ
ในบ้านอบอุ่นมาก จุดฟืนได้เพียงพอ หมิงซีที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าซีดขาวสลับกับช้ำม่วงเขียว ริมฝีปากเป็นสีม่วงอ่อนๆ ดูเหมือนว่าช่วงนี้พิษจะเพิ่มขึ้น
โทษตัวเองทั้งหมด ที่ไม่ได้ถอนพิษเขาได้ทัน แล้วยังออกล่าสัตว์กับฮ่องเต้เจียเฉิงอีก เวลาถูกลากยาว ทำให้ทำหลายๆเรื่องไม่ทัน
และผู้หญิงในวังนั้นล้วนเป็นเป็นผู้หญิงขององค์ชาย เชื่อไม่ได้ จึงเสียเวลามากขนาดนี้
“อาลั่วหลัน เจ้าไปปิดประตูลง ไม่ให้ใครเข้ามาได้” โล่หวินหลานมองไปรอบๆ ที่นี่ไม่ได้ปลอดภัยมาก ถึงแม้จะมีนางในวังเฝ้าอยู่ แต่รอบๆเต็มไปด้วยคนสอดแนมเป็นหูเป็นตา
หยิบซุปยาออกมาจากกล่อง แล้วพยุงหมิงซีขึ้นนั่ง ใช้หมอนหนุนท้ายทอย แล้วป้อนยาเข้าปากเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาข้ามภพ พิชิตใจท่านอ๋องไร้รัก